
หนังที่อาจเรียกว่าเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัวก็ว่าได้ เพราะหนึ่งในผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหารก็คือ คริส เฮมส์เวิร์ธ นักแสดงนำ เอลซา พาทากี ก็ไม่ใช่ใครอื่น ภรรยาเฮมสเวิร์ธที่เคยเป็นนักแสดงแทนในฉากจูบของธอร์กับเจน ฟอสเตอร์ ที่รับบทโดยนาทาลี พอร์ตแมนมาแล้ว และการเตรียมตัวเพื่อมารับบทในหนังแอ็กชันเรื่องนี้ของพาทากี ก็มีครูฝึก คนอึ้บหุ่นที่น่าจะคุ้นเคยกันดี คือ เฮมสเวิร์ธนั่นเอง
หนังเป็นงานกำกับเรื่องแรกของนักเขียนนิยาย แม็ทธิว ไรลีย์ ที่ยังร่วมเขียนบทกับสจวร์ต บีตตี มือเขียนบทเจ้าของเครดิตในหนังอย่าง Collateral, Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl และ 30 Days of Nightที่อาจจะเสียทรงอยู่บ้าง ในงานหลัง ๆ อย่าง G.I. Joe: Rise of the Cobra หรือว่า I, Frankenstein แต่จากที่เห็นก็ยังไม่ถึงกับพังพินาศ เช่นในหนังเรื่องนี้ ที่ดูประดักประเดิดไปหมด ซึ่งก็ไม่รู้จะโยนความผิดให้ที่ใครด้วย เพราะเอาเข้าจริงหนังดูไม่มีอะไรที่ลงตัวเลยก็ว่าได้
หนังเป็นเรื่องของเจ.เจ. คอลลินส์ (พาทากี) เจ้าหน้าที่ในฐานยิงจรวดสกัดกั้นขีปนาวุธที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งกลับมาประจำการอีกครั้ง แต่ก็ต้องเจอความวุ่นวายเมื่อฐานอีกแห่งหนึ่งในแอลาสกาถูกยึดและระบบยิงป้องขีปนาวุธถูกทำลาย ขณะที่ในรัสเซียขีปนาวุธพิสัยไกลติดหัวรบนิวเคลียร์จำนวน 16 ลูกก็ถูกขโมยไป จนทำให้เกิดความตึงเครียดเพราะไม่รู้ว่า ขีปนาวุธที่หายไปนั้นตกอยู่ในมือใคร และจะใช้ทำอะไร และคำตอบก็ไม่ต้องรอกันนาน เมื่อฐานของคอลลินส์ถูกยึด เหลือเธอกับเจ้าหน้าที่อีกสองคนในห้องปฏิบัติ โดยผู้ก่อการร้ายพยายามหาทางบุกเข้ามา และเธอก็ต้องถ่วงเวลาเอาไว้ให้นานที่สุด เพื่อรอความช่วยเหลือของหน่วยซีล
และเรื่องราวของหนังต่อจากนี้ก็คือ การต่อสู้ เอาล่อเอาเถิดกันระหว่างคอลลินส์กับผู้นำผู้ก่อการร้าย ที่ไม่ใช่ใครอื่น อดีตทหารหน่วยปฏิบัติพิเศษ ลูกชายมหาเศรษฐี ที่ตัวเรื่องเต็มไปด้วยรู้โหว่มากมาย รวมไปถึงความไม่สมเหตุสมผล ตลอดจนการแสดงก็ดูล่อง ๆ ลอย ๆ ไม่ได้สมบทบาท หรือทำให้ตัวละครมีความน่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ ฉากแอ็กชันก็ดูก๊อง ๆ แก๊ง ๆ และแน่นอนตัวละครหลักของหนังอย่างคอลลินส์ทั้งแกร่งในเรื่องร่างกาย และเก่งในเรื่องของการใช้สมอง มาครบทั้งบู๊และบุ๋น
แล้วอาจจะเพราะเป็นหนังของนักเขียนนิยายเก่า Interceptor เลยพยายามมีความซับซ้อนให้กับเรื่องด้วย เมื่อตัวคอลลินส์เป็นทหารที่เคยถูกผู้บังคับบัญชาระดับสูง ถึงขั้นนายพลสามดาว ล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งกลายมาเป็นปมอีกอย่างของตัวละครและของหนัง แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่ได้ถูกใช้งานเป็นเรื่องเป็นราว ในระดับทำให้หนังมีความเข้มข้น หรือตัวละครมีความลึกอะไรมากมาย
ดูเหมือนว่าหนังจะเป็นงานที่ไม่น่าสนใจ หรือควรกดผ่าน แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ถือว่าเป็นงานที่ดูเพลินในระดับหนึ่ง แบบหนังลงม้วนวิดีโอยุคโบราณ หรือหนังลงแผ่นในยุคที่ทันสมัยขึ้นมาหน่อย เรื่องผูกไว้หลวม ๆ ที่เหลือเป็นเรื่องของสถานการณ์พาไป หาทางใส่ปัญหา อุปสรรคให้ตัวละครแก้ไขเป็นระยะ ๆ ซึ่งหนังถือว่าทำได้ไม่แย่ จังหวะของหนังช่วยให้งานที่เหมือนน่าจะเปลืองค่าไฟ ผลาญดาตาเน็ต ถู ๆ ไถ ๆ ไปได้จนจบ แล้วก็มีอารมณ์ขันแบบไม่ได้ตั้งใจ มาทำให้หัวเราะเบา ๆ เมื่อถึงขั้นแบบเอากันอย่างนี้เลยเหรอ ทั้งในแง่บทสนทนา ทั้งในมุมการกระทำของตัวละคร จนไม่อยากจะเชื่อว่า นี่คือหนังที่สร้างจากบทของมือเขียนนิยาย และผู้เขียนบทหนังอย่าง Collateral
งานโปรดักชันของหนังอยู่ในข่าย Look Cheap ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องติดอะไรมาก เพราะนี่คืองานหนังลงตลับ-อัดใส่แผ่น-โยนใส่สตรีมิง ที่จะว่าไปแล้วมันก็คืองานเกรดบีนั่นแหละ
หนังจบลงในแบบแฮปปีเอนดิง เรื่องราวทุกอย่างคลี่คลายได้อย่างง่ายดาย ตัวเอกเก่งในระดับมีพลังแฝงเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วในท้ายที่สุด จบทุกปัญหาสำเร็จ
ส่วนคริส เฮมสเวิร์ธที่นอกจากอำนวยการสร้าง ปั้มหุ่นภรรยา ยังโผล่มาแสดงในแบบคามีโออีกสอง-สามฉาก ซึ่งก็น่ารักดี ช่วยกันทำมาหากินทั้งครอบครัว แต่หนหน้าช่วยทำหนังที่มันดูเป็นเรื่องเป็นราว เข้าท่ากว่านี้ก็ดีนะ
นพปฎล พลศิลป์
ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่