
JOHN WICK: จากตัวอย่าง อาจจะเป็นเรื่องตลก สำหรับการตามล้างแค้นใครสักคน หรือหลายคน แบบวินาศสันตะโร เพราะสุนัขตัวเดียว แต่ถ้าได้ชม เหตุผลที่ทำให้ต้องแค้นซะขนาดนั้นมันก็ Make Sense อยู่
จากหน่วยสวาทหนุ่มหน้าใส คีอานู รีฟส์ กลายมาเป็นเครื่องจักรสังหาร ที่มุ่งมั่นทำตามเป้าหมาย นั่นก็คือการล้างแค้นอย่างเต็มที่ ในแบบที่ไม่ต่างไปจากเลียม นีสัน ในบท ไบรอัน มิลส์ จาก Taken หรือไกลไปอีกก็ต้องเป็นชาร์ลส์ บรอนสัน ในบทพอล เคอร์ซีย์ จากหนังชุด Death Wish
หนังเน้นขายฉากแอ็คชัน และความมันส์บันเทิงเต็มที่ ตั้งแต่วินาทีที่ จอห์น วิค (รีฟส์) ต้องเสียสิ่งที่เขารักไป โดยที่ไม่ต้องไปถามหาเรื่องเหตุผล และความสมจริงสมจัง ซึ่งด้วยจังหวะของหนังที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แบบเดียวกับหนังแอ็คชันพันธุ์ลุค เบสซง ทำให้ความสงสัย หรือขัดข้องใจของผู้ชมหล่นหายไปเร็วพอๆ กัน ที่น่าสนใจก็คือ หนังมีเรื่องเขตปลอดภัยสำหรับพวกอาชญากร โลกที่พวกเขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัย ใส่เข้ามาด้วย เป็นตัวแปรสำคัญ มีตัวละครที่ทำหน้าเก็บกวาด และตลกร้ายที่ใส่เข้ามาได้อย่างเหมาะเหม็ง เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอด และนี่คือหนังอีกหนึ่งเรื่อง ที่ตัวละครทั้งหมดล้วนแต่เป็นคนในโลกด้านมืด
กับสิ่งที่หนังต้องการขาย ก็ขายได้อย่างที่ “ต้อง” เป็น ฉากแอ็คชันดูดิบ สะใจ มาพร้อมกับมุมกล้องที่ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับเหตุการณ์ การตัดต่อ ดนตรีประกอบ ที่เหมาะเจาะ ส่วนคีอานู รีฟส์ก็ได้บทที่ลงตัว นิ่ง ดูขึงขัง พูดน้อย เท่แบบดิบๆ เหมือนกับเป็นเครื่องจักรที่ถูกโปรแกรมเรียบร้อย ไม่ต่างจากตัวละครนักฆ่าอย่าง จ่าแฮร์รี หรือบรอนสันใน Death Wish รวมไปถึงมิลส์จาก Taken กับตัวละครที่อยู่รายรอบ ก็อยู่ในโทน และที่ทางของหนัง โดยเฉพาะ ไมเคิล ไนควิสท์ กับบทหัวหน้ามาเฟียที่ลูกชายเป็นเป้าหมายของวิค
ในแง่คุณภาพ John Wick ถือว่าไม่เท่าไหร่ แต่ในแง่ของความมันส์ สะใจ คอบู๊ ถือว่าหนังตอบโจทย์ได้ชัดเจน เป็นงานในกลุ่มเดียวกับ Taken อย่างไม่ต้องสงสัย
โดย นพปฎล พลศิลป์
คลิกไลค์เพจสะเด่าส์ได้ง่ายๆ ที่นี่ แต่คลิกไม่ต้องถี่ และขอคลิกเบาๆ