
เพิ่งเห็น ดเวย์น “เดอะ ร็อก” จอห์นสัน ไปลัลลาล่าขุมทรัพย์ตามลายแทงกับเอมิลี บลันต์ ใน ‘Jungle Cruise’ มาหมาด ๆ ก็ต้องได้เห็นเขารับบทล่าของสำคัญในอดีตอีกครั้ง โดยเป็นไข่คลีโอพัตรา ของที่มาร์ก แอนโธนีมอบให้คลีโอพัตราที่มีจำนวน 3 ใบ และไม่ใช่หนังย้อนยุค แล้วก็มีเพื่อนร่วมชะตากรรมอย่าง ไรอัน เรย์โนลด์ส และกัล กาด็อต
โดยจอห์นสันรับบทเป็น จอห์น ฮาร์ตลีย์ นักวิเคราะห์พฤติกรรมของเอฟบีไอ (น้าที่ประมาณ ๆ แคลริซ สตาร์ลิง ในหนังชุด Hannibal) นั่นละ ที่เป้าหมายคือ การจับตัวโนแลน บูธ (เรย์โนลด์ส) จอมโจรผู้เชี่ยวชาญในการขโมยงานศิลปะ ซึ่งวางแผนฉกไข่คลีโอพัตรา แต่ถึงจะจับบูธได้ หากแผนการของซาราห์ แบล็ก หรือบิชอป (กาด็อต) ทำให้ ฮาร์ตลีย์มีความผิดเป็นผู้ฉกไข่ใบแรก จนถูกขังในเรือนจำสุดโหดที่รัสเซีย ร่วมกับบูธ ก่อนที่เธอจะดึงให้ทั้งคู่มาร่วมงานด้วย เพื่อตามหาไข่ใบที่ 3 ร่วมกัน เพราะเธอกำลังจะคว้าไข่ใบที่สองมาครอง ทั้งสองคนปฏิเสธ และหาทางแหกคุกเพื่อชิงไข่ตัดหน้าแบล็ก ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์หักเหลี่ยม ชิงไหว ชิงพริบ เพื่อให้ได้สมบัติล้ำค่ามาครอบครอง ที่เต็มไปด้วยสถานการณ์ และการกระทำที่พลิกผันหักมุมไปมา แบบวางแผนตลบหน้าตลบหลังมากมาย
ในแง่ความบันเทิงก็ถือว่าทำได้สนุก เพราะอะไร ๆ ก็ดูจะไม่แน่นอน รวมไปถึงความสัมพันธ์ของทั้งสามตัวละครหลัก ที่ดูแล้วไม่น่าจะไว้เนื้อเชื่อใจกันและกันได้ ต่อให้พอเดาได้ว่าเรื่องน่าจะจบลงตรงไหน แต่ก็ไม่ง่ายที่จะมองเห็นถึงบทสรุปความสัมพันธ์ของพวกเขา
นอกจากสถานการณ์ที่พลิกผันไปมา ฉากไล่ล่า ฉกชิง ที่ดูเพลิน อารมณ์ขันก็มาเติมเต็มให้กับเรื่องได้เป็นอย่างดี ทั้งมุขจากเรื่องราว จากเหตุการณ์ แต่ที่เยี่ยมเป็นพิเศษก็คือ จากลักษณะของตัวละครทั้งสามคน ฮาร์ตลีย์-บูธ-แบล็ก ที่การแสดงของจอห์นสัน-เรย์โนลด์ส-กาด็อต ยังรับส่งเข้าขากันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับสองหนุ่มที่เป็นตัวยืนของหนัง การทำงานของทั้งสามคน รวมถึง ริทู อาร์ยา ที่รับบทเป็น เจ้าหน้าที่ตำรวจสากล ถือว่าเป็นจุดแข็งของหนังเลยก็ว่าได้ เพราะเนื้อหา เรื่องราว ไม่ได้มีอะไรพิเศษใส่ไข่ เป็นงานขายความบันเทิงแบบง่าย ๆ อีกเรื่องหนึ่ง
ถึงจะเป็นอย่างนั้น หนังก็แอบมีมุขกัดจิกความ ‘ง่าย‘ ของตัวเองเป็นระยะ ๆ อย่าง ให้ตัวฮาร์ตลีย์พูดออกมาในทำนองที่ว่า ดูหุ่นแล้วก็คงไม่เชื่อซินะว่าเขาคือ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์พฤติกรรมของเอฟบีไอ แล้วก็ยังหยอกล้อกับตัวละครของจอห์นสันกับเรย์โนลด์ส ด้วยปูมหลังที่มาพร้อมกับความขัดแย้งแบบน่าขัน
นอกเหนือจากนี้ ก็ไม่มีอะไรที่น่าติดอกติดใจเป็นพิเศษ เพราะในแง่ความสด ความแปลกในการเล่าเรื่อง หนังไม่มี และแน่นอนว่าไม่พยายามหรือตั้งใจให้มี แถมยังมีอะไรหลาย ๆ อย่างทำให้นึกถึงหนังเรื่องก่อน ๆ หน้ามากมาย ซึ่งพอจะทำให้คิดได้ว่าเป็นงานล้อกับหนังที่มาก่อนเหล่านั้น เช่นเดียวกับบทของจอห์นสัน และเรย์โนลด์ส ที่ช่างชวนให้นึกถึงหนังของทั้งคู่ที่เพิ่งดูก่อนหน้าไม่ต่างกัน กับจอห์นสัน บอกไว้มาตั้งแต่ต้น ส่วนเรย์โนลด์สนั้น มันให้ความรู้สึกไม่ค่อยต่างจาก ‘Hitman’s Wife Bodyguard’ ที่ตัวหนังท้ายที่สุดแล้ว ก็คืองานขายความบันเทิง ในทางของงานแอ็กชั่นผสมฮา ที่ไม่ได้ถึงกับแข็งแรงน่าจดจำ เหมือนกัน
โดย นพปฎล พลศิลป์
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่