
หงส์ดำ (Black Swan) เป็นทีมทหารรับจ้างที่ของครอบครัวลิวอิส – วิลเลียม (ทอม วิลคินสัน) – พ่อ, โอลิเวอร์ (โอเวน เยโอเมน) – ลูกชายคนโต และเกรซ (รูบี โรส) – น้องสาว มารับงานของบริษัทน้ำมันผ่านรัฐบาลอังกฤษ เพื่อไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่วางแนวท่อส่งแก๊ซในจอร์เจีย ที่จบด้วยการกวาดล้างอย่างโหดเหี้ยม แต่ปฏิบัติการซึ่งควรเป็นความลับครั้งนี้กลับถูกเปิดเผย เมื่อมีคนถ่ายคลิปไว้แล้วนำออกเผยแพร่ ทำให้นายกรัฐมนตรีอังกฤษที่ใช้พวกเขาทำงานสกปรกให้หลายต่อหลายครั้งสั่งกวาดล้าง โดยมีทอม บัคกิงแฮม (แซม ฮิวจ์แฮน) เป็นผู้นำทีมบุก
ภารกิจครั้งนี้ทำได้ไม่สำเร็จสะเด็ดน้ำ สองพี่น้องลิวอิสหนีรอดไปได้
และขณะที่ทอมเดินทางไปปารีสกับแฟนสาว – โซเฟีย ฮาร์ต (แฮนนาห์ จอห์น-คาเมน) โดยตั้งใจจะขอเธอแต่งงานที่นั่น รถไฟที่พวกเขานั่งก็ถูกกลุ่มหงส์ดำบุกยึด ขณะเข้าไปในอุโมงค์เชื่อมช่องแคบอังกฤษ เพื่อเรียกเงินก้อนโตจากรัฐบาลอังกฤษ
ทอมเล็ดรอดออกจากรถไฟขบวนนี้ได้ และพยายามช่วยแฟนสาว รวมถึงผู้โดยสารคนอื่น ๆ ตลอดจนประสานงานกับหน่วยเอสเอเอสที่ถูกส่งมา ซึ่งดำเนินไปอย่างยักแย่ยักยัน เมื่อกลุ่มหงส์ดำทำอะไรเร็วกว่าหนึ่งก้าวทุกครั้ง แถมเป้าหมายจริง ๆ ของเกรซและพี่ชายไม่ใช่อยู่ที่เงิน แต่มีจุดประสงค์หลักคือ ล้างแค้น ด้วยความเหี้ยมโหดและเลวร้ายยิ่งกว่าที่คาดกันไว้
อาจจะไม่ใช่พล็อตที่แปลกใหม่อะไรนัก ที่น่าจะทำให้นึกถึงหนังของสตีเวน ซีกัล ‘Under Siege 2 – Dark Territory’ อยู่บ้าง แต่ก็เหมาะเหลือเกินกับการเป็นงานแอ็กชั่น แล้วก็เปิดกว้าง สำหรับการใส่ฉากมันส์ ๆ หรือสถานการณ์พลิกผันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานที่ตัวละครต้องใช้ความสามารถทั้งบู๊และบุ๋นคลี่คลาย มีอีแอบตัวแสบในองค์กรที่ทำให้การทำงานของทอมและหน่วยเอสเอเอสยากขึ้นไปอีก โดยหนังก็ใช้มาเป็นจุดหักมุม พลิกผัน สร้างเซอร์ไพรส์ ในแบบที่มีตัวหลอก ตัวล่อ ให้คาดเดา แม้จะมีผิด ๆ ถูก ๆ กันได้ แต่ก็ไม่พ้นตัวละครกลุ่มหนึ่งที่ตกเป็นตัวเลือกให้กา
แผนการที่วางเอาไว้แบบหมกเม็ด ก็ทำให้ตัวละครหงส์ดำเป็นกลุ่มทหารรับจ้างที่โหดเหี้ยม และร้ายกาจไปอีกระดับ
ซึ่งการสร้างตัวละครก็เป็นสิ่งที่หนังเรื่องนี้ ที่ดัดแปลงจากนิยายของ แอนดี้ แม็กแน็บมาอีกทีทำให้หนังมีความน่าสนใจ ตั้งแต่สามพ่อลูก – ลิวอิส ที่พ่อไว้ใจลูกสาวกว่าพี่ชาย ทำให้โอลิเวอร์มีปมพ่อไม่ให้ความสำคัญ และต้องการพิสูจน์ตัวเองอยู่ในตัว เกรซ – ก็เหี้ยมเกรียม ไม่ต่างไปจากเครื่องจักรสังหาร หากมีความฉลาดเฉลียว ฝั่งคนดีทอมกับแฟนก็มีความแตกต่าง คนหนึ่งทำงานฆ่าคนอีกคนช่วยชีวิต แถมทัศนคติก็ผิดแผกจากกัน แล้วก็ยังมีตัวละครเทา ๆ เกือบดำอีกกลุ่มใหญ่ อย่าง นายกรัฐมนตรีอังกฤษ หรือเจ้าหน้าที่เคลเมนต์ส ที่เล่นโดยแอนดี้ เซอร์คีส
หนังใช้ประโยชน์จากลักษณะตัวละครเหล่านี้ได้ แต่ก็ไม่มากถึงกับทำให้เรื่องมีเนื้อมีหนังมากมาย พอแค่ไม่แบนสนิท ช่วยส่งประเด็นเรื่องอำนาจและผลประโยชน์ที่ต้องมีคนทำงานสกปรกอยู่เบื้องหลัง มีเรื่องความรัก การหักหลัง การเลือกนักแสดงส่วนใหญ่ใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็น เซอร์คีสกับเคลเมนต์ส, วิลคินสันกับวิลเลียม และแน่นอนโรสกับเกรซที่ทำได้เยี่ยม จะมีขัดใจอยู่บ้างก็ที่จู่ ๆ เธอก็เรียกหาหมอมาดูแลตัวประกัน ทั้งที่เพิ่งสังหารโหดไปหยก ๆ ซึ่งหลุดและไม่เป็นเหตุเป็นผลนัก แถมลดความน่าเกรงขามไปเยอะ ที่พลาดแรงก็คือ ตัวเอกอย่าง ทอม ที่ฮิวจ์แฮนทำได้ดีแค่มาดของคุณชาย แต่พอเป็นสายลุยแล้วขาดเสน่ห์และสีสันเหลือเกิน รวมไปถึงหัวหน้าทีมเอสเอเอส ผิวดำที่หนังพยายามวางให้เป็นตัวหลอกจนดูน่ารำคาญ
เห็นได้ชัดว่า หนังน่าจะเข้มข้น จริงจังกว่านี้ได้ ถ้าเล่นกับสิ่งที่มีอยู่ในมือได้ดีกว่านี้ ขณะที่ฉากแอ็กชั่นการแก้ไขสถานการณ์ของตัวเอกก็ดูง่าย หากใส่ลูกเล่นชั้นเชิงลงมาดีกว่าที่เป็น หนังก็น่าจะมีคลาสส์มากกว่า แค่ ‘หนังแอ็กชั่นเน็ตฟลิกซ์’ ที่ดูแค่เอามันส์ และเพื่อความบันเทิง
และสำหรับคนที่ชอบเรื่องเทคโนโลยี ใครที่มีโทรทัศน์รุ่นใหม่ ๆ ภาพที่ได้จากหนังนั้น คมชัดเหลือเกิน
(SAS – THE RISE OF BLACK SWAN ทางเน็ตฟลิกซ์)
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ชำแหละแผ่นฟิล์ม นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1336 ปักษ์หลัง กันยายน 2564
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่