By Sadaos
STAR WARS: THE FORCE AWAKEN; หลังปลุก Mission: Impossible ให้กลับมาเดินหน้าต่อไปได้ ตามด้วยการฟื้นชีวิตให้กับหนังชุด Star Trek ที่แฟนเก่าก็ชื่นชม แถมได้กลุ่มคนดูใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น เจเจ เอบรามส์ ก็มาจับหนังโอเปราอวกาศ คลาสสิคของวงการภาพยนตร์ Star Wars ที่เป็นตอนเริ่มต้นของไตรภาคสุดท้าย
หนังเปิดเรื่องในแบบที่เหมือนจะเป็นการทำซ้ำ ตามหาแผนที่, แผนที่ซ่อนอยู่ในดรอยด์, ไปอยู่ในมือของคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่, ต้องหนีออกจากรังของศัตรู ฯลฯ แต่ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อหนังเดินหน้าไปเรื่อยๆ ก็จะรู้ว่า นี่ไม่ใช่งานทำซ้ำ แต่เป็นงานที่ย้ำเตือน หรือทำให้ผู้ชมหลายๆ คนนึกถึงงานไตรภาคต้นฉบับสุดแสนจะคลาสสิค ซึ่งก็หมายความรวมไปถึงการยกย่องไปพร้อมๆ กัน และไม่ใช่เพียงแค่นี้ หนังยังเต็มไปด้วยสถานที่และอะไรอีกหลายอย่าง ที่ทำให้นึกถึงความยอดเยี่ยมของหนังไตรภาคชุดนั้น ทะเลทรายบนดาวแจคคู ที่ก็ไม่ต่างไปจากทาทูอีน, แคทีนา ที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาด และที่ขาดไม่ได้วงดนตรีประจำร้าน และอีกจิปาถะ ในแบบที่ทำให้แฟนเก่า ถึงกับขนลุก หรือปลื้มปริ่มสุดๆ ยามได้เห็น โดยไม่ต้องพูดถึงการปรากฏตัวของ ฮัน โซโล, ชิวแบ็คกา หรือว่าตัวละครอีกหลายๆ คนจากหนังชุดนั้น ที่แม้ร่างกาย สังขารอาจจะไม่เหมือนวันนั้น แต่รัศมี และประกายในตัวยังคงเต็มไปด้วยพลังที่ไม่ต่างกัน
และ ‘พลัง’ นี่เอง ที่กลายมาเป็นตัวสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยใหญ่อย่างจักรวาล ไล่ลงมาถึงในระดับครอบครัว รวมไปถึงในจิตใจของตัวละคร
เจเจ เอบรามส์เล่าเรื่องได้สนุก วางตัวละครได้อย่างมีสีสัน ตัวเรื่องมีสถานการณ์ที่ให้ได้ติดตามเดินหน้าไปตลอดทั้งเรื่อง มีจุดพลิกผัน มีสถานการณ์ที่น่าตื่นเต้นเป็นระยะๆ และจุดหักมุม ที่เชื่อว่า พอผ่านมาถึงครึ่งทางแฟนก็น่าจะรู้แล้วว่า จะเจอกับการสูญเสียอะรบ้าง
หนังเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้ฉับไวจนหายใจหายคอไม่ทัน แต่เป็นในสปีดที่เร็วกว่างานต้นฉบับ ซึ่งน่าจะสอดรับกับรสนิยมของคอหนังในยุคนี้ ที่สัมผัสกับหนังที่เต็มไปด้วยความฉับไวมากขึ้น หนังมีครบอารมณ์ขัน ความซาบซึ้ง ประทับใจ และฉากแอ็คชัน แต่ละส่วนของมีสถานการณ์ และตัวละครที่เอาคนดูอยู่ ที่แตกต่างกันไป จากหุ่นบีบี-เอท ที่ทำให้ใครๆ หลงรักในตอนแรก มาจนถึงการปรากฏตัวของตัวละครต้นฉบับ ขณะที่ตัวละครใหม่ๆ ก็ถูกปูพื้นเอาไว้อย่างแน่นหนา และวางปมเพื่อที่จะสานต่อไปอีกได้อย่างน่าสนใจ ที่สำคัญหนังมีบรรยากาศที่อบอุ่น คุ้นเคยอบอวลตลอดทั้งเรื่อง
แฮร์ริสัน ฟอร์ด ไม่ใช่แค่ยังเป็นฮัน โซโลได้อย่างมีพลังและสนิทใจ แต่ยังพาตัวละครตัวนี้ดิ่งลึกไปไกลกว่าที่เคย ฮัน โซโลใน the Force Awakens เต็มไปด้วยริ้วรอยการใช้ชีวิตมาอย่างโชกโชน และมีบาดแผลในจิตใจที่ยากจะลบเลือน ขณะที่ตัวละครหลักหน้าเก่าคนอื่นๆ ก็แสดงให้เห็นถึงมิติ และอารมณ์มากกว่าที่เคยสัมผัสได้จากหนังต้นฉบับ เพียงแค่แรกเห็น ก็สามารถสัมผัสถึง ‘พลังงาน’ บางอย่างในตัว
ขณะที่ตัวละครใหม่ เรย์ – ของเดซี ริดลีย์ เต็มไปด้วยเสน่ห์ และความน่าสนใจ กับการเป็นตัวละครที่แคเร็คเตอร์เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างตัวละครหลักสองคนในเรื่อง ที่พร้อมจะเป็นตัวสานต่อเรื่องราวต่อไปเช่นเดียวกับตัวละครนักบินของฝ่ายต่อต้านที่รับบทโดย ออสการ์ ไอแซ็ค และสตอร์มทรูเปอร์ ทรยศ – จอห์น โบเยกา และที่ขาดไม่ได้ ตัวร้ายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่น่าลุ่มหลง ไคโล เร็น และนายพลฮักซ์ ที่เล่นได้อย่างไร้หัวจิตหัวใจ โดย ดอห์มเนลล์ กลีสัน จากเอ่อ… About Time
ฉากแอ็คชันยังคงดูตื่นตา โดยเฉพาะกับเทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้น หลายๆ ฉากที่เป็นการบูชาครูจากของเก่า ดูตื่นเต้น ให้ความรู้สึกระทึกมากขึ้น ฉากดวลกระบีแสง แม้จะไม่พีคเท่ากับฉากใหญ่ๆ ในภาคก่อน แต่ก็ยังคงสวยงามและน่าตื่นตา
เป็นงานที่ทำให้ความรู้สึกดี กับการได้เห็นหนังชุดนี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งอย่างที่ควรเป็น และในขณะเดียวกัน ก็สามารถนำสิ่งที่หายไปจากหนังชุดนี้มานาน ไม่ว่าจะเป็นความสนุกสนาน ตื่นเต้น และที่สำคัญที่สุด ความประทับใจ กลับคืนมา
โดย นพปฎล พลศิลป์
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านงานวิจารณ์หนัง และเพลง แบบนี้ ได้ด้วยการกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์กันไว้ก่อน ได้ที่นี่
What is your reaction?
