Movie ReviewREVIEW

ดู Man of Steel เกรียนๆ แบบเกรียนหนัง

Man of Steel (2013): บุรุษเหล็กฉบับแอ็คชั่นนอน-สต็อปแบบซูเปอร์!
โดย เกรียนหนัง
ที่มา https://www.facebook.com/photo.php?fbid=198838446939156&set=a.113215048834830.20429.112834835539518&type=1&theater

man-of-steel-new-poster-2หลังจากที่ Superman Returns หนังเวอร์ชั่นก่อนให้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจเท่าไหร่นัก สตูดิโอผู้สร้างจึงพับโครงการหนังเรื่องต่อๆ มาของซูเปอร์ฮีโร่รายนี้ไว้นานถึงเจ็ดปี ก่อนจะถูกรีบู๊ตขึ้นมาอีกครั้งในเวอร์ชั่นนี้ ที่สร้างขึ้นมาจากไอเดียตั้งต้นที่ว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าซูเปอร์แมนมีตัวตนขึ้นจริงๆ ในโลกยุคปัจจุบัน”

โดยมีจุดมุ่งหมายในการนำซูเปอร์แมนกลับมาขึ้นจอในเวอร์ชั่นที่สมจริงสมจัง ซึ่งได้ เดวิด เอส. โกเยอร์ มาเป็นคนเขียนบท และมี คริสโตเฟอร์ โนแลน เป็นป๋าดันในฐานะโปรดิวเซอร์ ทั้งคู่เคยทำให้แบทแมนกลับมาผงาดจนขึ้นหิ้งไปแล้วกับ The Dark Knight ขณะที่ผู้กำกับตัวจริงของงานคือ แซ็ค สไนเดอร์ ที่หลายคนรู้จักกันดีจากหนังอย่าง 300, Watchmen, Zucker Punch

ส่วนที่ต้องบอกว่าผู้เขียนรอดูมากๆ ถ้าชูเปอร์แมนฉบับนี้จะยึดถือความสมจริงเป็นที่ตั้ง ก็คือ คนเขียนบทอย่าง โกเยอร์ จะแก้ปัญหายังไง กับเรื่องราวความสัมพันธ์อันน่าขันระหว่าง โลอิส เลน กับ คลาร์ก เค้นต์ ที่มีความสมจริงในระดับเดียวกับละครทีวี และเป็นเหมือนจุดตายจุดอับของหนังซูเปอร์แมนมาตลอด

มันเหลือเชื่อไปหน่อยไหมว่านักข่าวฉลาดๆ อย่าง โลอิส เลน นางเอกของเรื่องจะขาดสติปัญญา และตาถั่วขนาดที่มองไม่ออกว่า คลาร์ก เค้นต์ กับซูเปอร์แมนคือคนๆ เดียวกัน ทั้งๆ ที่คนทั้งสองคนต่างกันแค่ใส่แว่นกับไม่ใส่แว่นเท่านั้นเอง ซึ่งต่อให้เรื่องส่วนอื่นหนักแน่นสมจริงยังไง ถ้าไม่ยอมแก้เรื่องตรงจุดนี้ ทั้งหมดมันก็ยังเป็นความน่าขัน และความสมจริงที่พยายามก็ล้มทั้งกระดานอยู่ดี

ซึ่งเป็นไปตามคาด บทหนังของ โกเยอร์ หาทางออกด้วยการเลือกที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่างระหว่างซูเปอร์แมนกับนางเอกขึ้นมาใหม่ แบบเปิดตัวกันไปตั้งแต่แรกเลยว่าอะไรเป็นอะไร และเล่าเรื่องโดยโฟกัสไปที่ซูเปอร์แมนในช่วงตั้งต้น ก่อนจะกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่คอยปกป้องโลกแบบเต็มตัว เหมือนเอาซีรี่ส์ Smallville ซีซั่นสุดท้าย กับซูเปอร์แมนภาคหนึ่งช่วงต้นๆ มาประมวลใหม่แล้วขยายออกมาเป็นเรื่อง

ผลที่ได้ก็คือ ซูเปอร์แมน ที่ยังไม่ถูกเรียกว่า ซูเปอร์แมน เป็นแค่เป็นคนหนุ่มที่เต็มไปด้วยความสับสน รู้ซึ้งถึงพลังความสามารถเหนือธรรมดาของตัวเองเป็นอย่างดี แต่ยังไม่รู้ว่าควรจะใช้มันไปในทิศทางไหน เพื่ออะไร รวมถึงยังเป็น “คนนอก” ที่ต้องซ่อนตัว ซ่อนความสามารถไว้แบบเงียบเชียบ เนื่องจากกลัวว่าหากเปิดเผยออกไป อาจจะทำให้คนทั้งโลกแตกตื่น มองเป็นตัวประหลาด เป็นเอเลี่ยน หรือแม้แต่เป็นพระเจ้า ที่สั่นคลอนความเชื่อต่างๆ บนโลกให้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ก่อนที่การโผล่มาคุกคามโลกของนายพลซ็อดจากดาวคริปตั้น จะกลายเป็นการยืนยันการมีตัวตนอยู่ของมนุษย์จากดาวอื่น ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายที่ทำให้ ซูเปอร์แมน ต้องออกมารับมือกับวายร้ายจากต่างดาวรายนี้ ขณะเดียวกันก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง และสร้างความเชื่อใจกับเหล่ามนุษย์ไปด้วยในอีกทาง

แซ็ค สไนเดอร์ เดินเรื่องเร็วจี๋แบบไม่ปล่อยให้คนดูได้พักหายใจ ราวกับจะชดเชยให้กับความเนิบนาบของหนังเวอร์ชั่นก่อน ทั้งยังอัดฉากแอ็คชั่นเข้ามาแบบล้นปรี่ตั้งแต่ต้นจนจบ และบ้าพลังแบบขีดสุด (ซัดกันทีตึกทะลุ เมืองถล่ม) แม้จะดูแล้วมีความเป็นการ์ตูนในตัวอยู่สูง และขัดแย้งกับจุดประสงค์หลักของหนังที่พยายามจะเน้นเรื่องความสมจริง แต่ก็ไม่ได้ชวนให้ตะขิดตะขวงใจอะไร เพราะต้องไม่ลืมว่านี่มันคือซูเปอร์แมน ถ้าแอ็คชั่นมันจะเป็นความเว่อร์ระดับซูเปอร์ ซูเปอร์ ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเกินรับได้

ซึ่งฉากแอ็คชั่นสเกลใหญ่ๆ ที่ถูกใส่เข้ามาอย่างต่อเนื่องก็สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจได้เป็นอย่างดี ยิ่งเมื่อถูกซับพอร์ตด้วยโปรดักชั่นเนี๊ยบๆ จากงานซีจีกับสไตล์ภาพที่สวยงามเฉียบขาด อันเป็นจุดเด่นที่คาดหวังได้ในผลงานของ สไนเดอร์ มาโดยตลอด แทบจะทำให้คนดูลืมความยาวระดับสองชั่วโมงกว่าๆ ไปเลย

โอเคหล่ะ ว่าท้ายที่สุดแล้วหนังมันไม่ได้มีเมสเสจอะไรในทางเนื้อหาที่คมคายนัก และการพยายามหาเหตุผลมาสร้างความน่าเชื่อถือในแง่ที่ว่าถ้าซูเปอร์แมนเกิดมีอยู่จริงๆ ในโลกยุคปัจจุบันจะเกิดผลกระทบอะไรขึ้นมาบ้าง ก็เป็นไปแบบแกนๆ กลางๆ ไม่ได้ขยี้เสียจนกลายเป็นความหนักแน่น หรือนำมาสร้างความขัดแย้งจนที่ทำให้เรื่องราวใน Man of Steel ยกระดับตัวเองขึ้นไปสู่ความเข้มข้นที่มากไปกว่าหนังซูเปอร์แมนเรื่องที่ผ่านมาสักเท่าไหร่

แต่ผู้เขียนอยากยกประโยชน์ให้ในแง่ของความบันเทิง ที่บางทีหนังทุกเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องไปตอบโจทย์เรื่องของสาระ หรือปมประเด็นอะไรให้ต้องขบคิดกันมากมาย ซึ่งมองในมุมนี้ การกลับมาของซูเปอร์แมนใน Man Of Steel ถือเป็นการกลับมาที่สมศักดิ์ศรีสมราคา และเป็นการกลับมาที่คาดหวังภาคต่อๆ ไปได้อย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งบทหนังของเดวิด โกเยอร์ เองก็ปูพรมไว้เรียบร้อยแล้ว กับการตบเรื่องในช่วงท้ายให้เข้ามาสู่โหมดซูเปอร์แมนตามแบบฉบับดั้งเดิมที่ทุกคนคุ้นเคยแบบพอดิบพอดี

คะแนน : สี่ดาวจ้า

PS.1 สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ดูซีรี่ส์ Smallville คือซีรี่ส์เกี่ยวกับซูเปอร์แมนในช่วงวัยรุ่นที่อกกผดุงคุณธรรมในชุดแจ็คเก็ตหนังสีแดง
PS.2 หนังเข้าฉายแล้วจ้า แอ็คชั่นมาเต็มตลอดทั้งเรื่อง เตรียมตัวดีๆ หนังยาวสองชั่วโมงกว่าๆ

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:Movie Review

Comments are closed.