ด้วยตัวเพลงที่เป็นการร่าย ไม่ใช่การร้อง กับดนตรีที่ส่วนใญ่ โดยเฉพาะงานในยุคแรกๆ จะมีแต่บีทด้วยแล้ว งานฮิพ-ฮ็อพ ไม่ใช่งานเพลงที่ฟังง่ายนักสำหรับคอเพลงทั่วๆ ไป ทั้งที่มีให้ฟังมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ โดยแตกหน่อต่อก้านมาจากงานแจ๊ซซ์, ฟังค์ และโซลในยุคเก่า แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนที่เปิดรับและนี่คือ 10 อัลบั้มฮิพ-ฮ็อพที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบฮิพ-ฮ็อพ ที่แอเดรียน สปิเนลลี แห่งเว็บไซต์ pastemagazine.com เลือกมาให้ฟังกัน ที่มีทั้งงานของ Digable Planets, Jurassic 5, Deltron 3030, RJD2, Gnarls Barkley, Kid Cudi, The Roots และวันนี้คืองานสามชุดสุดท้าย
Kanye West อัลบั้ม My Beautiful Dark Twisted Fantasy: อัลบั้มที่ย่อกันสั้นๆ ว่า MBDTF กลายเป็นหนึ่งในงานที่เลือกมา เพราะความจริงที่ว่า คานเย เวสท์เป็นชื่อที่ติดปากผู้คนในวัฒนธรรมป็อป และนี่คืองานที่เขาทำได้ดี ซึ่งพิสูจน์กันได้จากเพลง “Lost In The World” ที่เขาสามารถจับเอาเสียงร้องอินดี-ร็อค แบบโบราณๆ ของ Justin Vernon แห่ง Bon Iver มาทอเข้ากับความเป็นฮิพ-ฮ็อพในเนื้องานของเขาได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่ตัวอัลบั้มก็สร้างขึ้นมาจากโปรดัคชันที่อลังการ มีตั้งแต่เพลงที่ฟังฟรุ้งฟริ้งอย่าง “All of The Lights” ที่ร้องโดย Rihanna ไปจนถึงงานบัลลาดสวยๆ อย่าง “Blame Game” ที่มี John Legend มาแจม แคเร็คเตอร์ของคานเย เวสท์ มักจะดึงเอาปฏิกริยาตอบโต้แรงๆ ออกมา แต่กับ MBDTF เป็นการแสดงให้เห็นถึงขั้วที่ตรงข้ามอย่างสุดๆ ของหนึ่งในอัจฉริยะทางดนตรีรายนี้
Chance The Rapper อัลบั้ม Acid Rap: แร็ปเปอร์จากชิคาโกรายนี้ กลายเป็นศิลปินฮิพ-ฮ็อพที่ก้าวมาอยู่ในความสนใจได้อย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่เป็นศิลปินอินดีขนานแท้ ไม่มีสังกัดเพลง มีแต่ดนตรีของเขา นี่คือศิลปินที่มีเสียงร้องเฉพาะตัว, น่าฟัง และมีลักษณะพิเศษสำหรับบรรดาโปรดิวเซอร์ทั้งหลาย ที่ล้วนแบ่งปันอุดมการณ์ทางดนตรีที่น่าหลงใหลไม่ต่างกัน แชนซ์ปรากฏตัวในวงการ ในฐานะแร็ปเปอร์หนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยความหวัง ขณะที่ธีมเรื่องราวของเขาก็มีตั้งแต่ การสะท้อนความคิดที่มีอยู่ออกมาในเพลงอย่าง “Acid Rain” ไปจนถึงเพลงสนุกๆ ง่ายๆ “Favorite Song” และบางทีสิ่งเหล่านี้ก็คือสิ่งที่ทำให้ Acid Rap เป็นงานที่ชวนฟัง เป็นงานที่ทำให้มีความสุขและความภาคภูมิใจ มากกว่าจะโกรธขึ้ง หรือเกลียดชัง อารมณ์ต่างๆ ที่แกว่งไกวไปมาใน Acid Rap คือผลลัพธ์ของพลังขับเคลื่อน, ความคิดสร้างสรรค์ และผู้คนในยุคสหัศวรรษของอเมริกาที่ซับซ้อนอย่างน่ามหัศจรรย์
Run The Jewels อัลบั้ม Run The Jewels 2: เป็นงานที่เขาถึงได้ง่าย พอๆ กับเข้าถึงไม่ได้ Killer Mike และ El-P แห่งรัน เดอะ เฌเวลส์ กลายเป็นเสียงของคนที่ปราศจากเสียง อัลบั้มชุดที่สองของพวกเขาที่บรรดานักวิจารณ์แห่แหนกันยกย่อง มีทั้งธีมที่เป็นเรื่องทางการเมือง ซึ่งฟังดูหนักหนาเอาการ เพราะเป็นเรื่องความรุนแรงของตำรวจ และการคอร์รัปชันในองค์กรทางกฎหมายแห่งนี้ ก่อนหน้าเหยื่อความรุนแรงของตำรวจอย่าง Eric Garner และ Mike Brown จะกลายเป็นชื่อสำคัญที่ผู้คนรู้จักด้วยซ้ำ นอกจากจะชำแหละยุคสมัยของความขัดแย้งทางสังคม ตัวเพลงยังมีทั้งความจริงจังและความเพลิดเพลินให้สัมผัสไปพร้อมๆ กัน ซึ่งนั่นคือสัญลักษณ์ของศิลปินที่มีอิทธิพล
อัลบั้มชุดนี้ยังแสดงให้เห็นถึงรังสีของพวกเขา ที่สร้างความสนุกสนานให้เกิดขึ้นได้อย่างน่ามหัศจรรย์ โดยมีศิลปินมากมายมาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น Travis Barker แห่ง Blink-182 ที่มาตีกลองให้ในเพลง “All Due Respect” และนักร้องนำของ Rage Against The Machine – Zack De La Rocha มาร่วมร้องในเพลง “Close Your Eyes (And Count to Fuck”) ซึ่งเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า ฮิพ-ฮ็อพ กับดนตรีร็อค ค้นพบพื้นฐานร่วมกัน ทั้งในเรื่องของธีม และการปลดปล่อยพลังความคิดออกมา RTJ2 ยังเป็นงานที่บ่งบอกถึงความสำเร็จที่ดนตรีฮิพ-ฮ็อพทำได้ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา นั่นก็คือการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างผู้คนที่ต้องดำเนินชีวิตไปตามครรลอง ที่มีกลุ่มคน ชนชั้นแตกต่างกันไป ผ่านความรักในเสียงเพลง และความสามารถในการถ่ายทอดความคิดผ่านบทเพลงของพวกเขา
จากเรื่อง 10 อัลบั้มฮิพ-ฮ็อพ สำหรับคนที่ไม่ชอบฮิพ-ฮ็อพ (3) โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 27 ตุลาคม 2558
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านงานวิจารณ์หนัง และเพลง แบบนี้ ได้ด้วยการกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์กันไว้ก่อน ได้ที่นี่