Music ReviewREVIEW

ฟังไปแล้ว – ‘40 ปี ฅนคาราบาว’ งานที่สมวัยในมุมมองของเนื้อหา ดนตรี และโปรดัคชันสมวาระครบรอบ 40 ปี

40 ปี ฅนคาราบาว / คาราบาว
(วอร์นเนอร์ มิวสิก)

อัลบัมในวาระครบรอบ 40 ปีของวงดนตรีเขาควาย ที่หากนับเอาจริง ๆ ตั้งแต่ปีที่อัลบัมชุดแรก ‘ขี้เมา’ วางจำหน่าย ถือว่าคาราบาว จัดงานปีเกิดล่าช้าไปปีหนึ่งเลยทีเดียว แล้วหากไล่เรียงเฉพาะงานสตูดิโออัลบัมของวง ไม่นับอัลบัมพิเศษใด ๆ และไม่ใส่งานเดี่ยวของสามสมาชิกคนสำคัญของวงคั่น ‘40 ปี ฅนคาราบาว’ ยังทิ้งห่างจากอัลบัมก่อนหน้า ‘สวัสดีประเทศไทย’ ถึงร่วม ๆ 10 ปี ได้ชื่อว่าเป็นงานที่ทอดเวลาจากอัลบัมก่อนหน้านานที่สุด ของวงดนตรีในตำนานวงนี้มาครองเรียบร้อย

ซึ่งในห้วงเวลาดังกล่าว แน่นอนว่า ย่อมมีเรื่องราว ต่าง ๆ นานาเกิดขึ้น ทั้งเรื่องความเป็นไปของสังคม เหตุการณ์ทางการเมือง

และสิ่งเหล่านั้น ก็ถูกนำมาร้อยเรียงเป็นบทเพลง บอกเล่าเอาไว้ ใน ‘40 ปี ฅน คาราบาว’

เหมือน ๆ กับอีกมากมายเรื่องราวที่พวกเขา เคยนำมาขีดเขียนเป็นเพลงแล้วบันทึกไว้ในอัลบัมต่าง ๆ ก่อนหน้า ที่หลายครั้งยังมาพร้อมการแสดงมุมมอง ความเห็นต่อสิ่งต่าง ๆ ที่เกิด ซึ่งทำให้บทเพลงของพวกเขาคลับคลากับจดหมายเหตุบ้านเมือง หากแต่นำเสนอด้วยเสียงดนตรี

ตั้งแต่มุมมองในเรื่องความขัดแย้ง แบ่งแยก ที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง ที่ในภาพรวมก็คือ การประนีประนอม ให้ยอมรับซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันแบบเข้าใจความเห็นต่าง มากกว่าจะเอาชนะ ฟาดฟันกัน ไม่ว่าจะเป็น การนำเสียงดนตรีมาทำให้ผู้คนสนุกด้วยกัน “3 ช่าหาเพื่อน”, เหรียญสองด้าน หัว-ก้อยที่แตกต่าง หากก็ยังอยู่ในเหรียญเดียวกันได้ จากเพลงเนื้อหาคมคาย “หัวก้อย”, ความตั้งใจที่อยากให้ผู้คนรักกันใน “มาร์ช 40 ปีคาราบาว” หรือ “น้ำตาอรชุน” แม้จะย้ำตอนท้ายว่า ‘14 ตุลาคม’ แต่เนื้อหาก็เทียบเคียงกับสิ่งเห็นและเป็นไปในปัจจุบันได้ไม่ยาก และไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในโลก

มีเรื่องของวง ในวาระครบรอบ 40 ปี ที่ถูกนำมาเปิดหัว-ปิดท้ายอัลบัม “40 ปี ฅนคาราบาว” และ “มาร์ช 40 ปีคาราบาว” ที่เพลงหนึ่งคือการบอกเล่าความเป็นมาของวง จากจุดเริ่มต้นมาถึงปัจจุบัน กับอีกเพลงหนึ่งก็ไม่ต่างไปจากการขอบคุณผู้คน แฟนเพลง

มีเนื้อหาว่าด้วยความรัก ที่ประสบการณ์ทางดนตรี ของสมาชิกในวง ก็ทำให้บางแง่มุมที่ไม่ได้สดใหม่มากมาย อย่าง “รักสามเส้า” เรื่องราวเก่า ๆ ที่ถูกนำมาเล่าเป็นเพลงจำนวนมหาศาล กลายเป็นเพลงที่น่าฟังด้วยภาษา ที่หมัดเด็ดอยู่ที่ “เรื่องของคน 3 คน สุดท้ายต้องมีคนเศร้า” การเล่นกับคำจาก “เส้า” เป็น “เศร้า” และมุมมองความรักของคนที่ผ่านโลก ผ่านชีวิตมายาวนาน ใน “วิมานรักอากาศ” และ “ดอกไม้กับผีเสื้อ” จากความรักที่ไม่สมหวังหากไม่ฟูมฟาย และทำให้ตัวเองมีความสุขผ่านจินตนาการ ที่ไม่ไปรบกวนหรือทำให้ใครลำบากใจ มาเป็นเพลงในมุมมองเชิงปรัชญาต่อความรัก ด้วยสายตาของใครสักคนที่เคยสุข เศร้า กับสิ่งที่หนุ่ม-สาวแสวงหามาครบ

มีเรื่องราวชีวิตผู้คนในทุกวันนี้ ที่หลากแง่หลายมุม การติดอยู่กับมือถือ เรื่องราวบนหน้าจอของ “เรียบร้อยโรงเรียนจีน” ที่พาตัวเองก้าวไปอยู่หลังลูกกรงได้โดยไม่รู้ตัว, มุมมองการใช้ชีวิตที่เปรียบกับคำสอนของผู้ใหญ่เรื่องการกินข้าว – “ข้าวสวยข้าวสอน”, บางอย่างที่คิดว่าร้าย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีที่ร้ายกว่า “หนีเสือปะจระเข้”

ที่สังเกตุได้เลยว่า ไม่ได้มาพร้อมกับความพลุ่งพล่าน หรือพลังในแบบคนหนุ่มสาวอย่างที่เคยเป็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก-สังคม หรือการเมือง หากเป็นสายตาที่รู้ร้อน-หนาว เข้าใจโลกว่าไม่ได้มีสีขาวกับดำ หากยังมีเทาที่ต่างก็มีเฉดปลีกย่อยออกไป สีของความสัมพันธ์ก็ไม่ได้มีแค่สีชมพู เป็นมุมมองที่นุ่มนวล เป็นการบันทึกเรื่องราวที่อ่อนโยน เมื่อเทียบกันวันเก่า ๆ ที่เลยล่วงมาของพวกเขา

แม้จะไม่ได้มีเพลงไหนที่ฟังแล้วรู้สึกเซอร์ไพรส์ หรือประหลาดใจ หากทั้งหมด หรืออย่างน้อยส่วนใหญ่ ก็อยู่ในระดับมาตรฐาน เป็นงานที่อยู่ตัวตามสไตล์ของคาราบาว บอกเล่าผ่านท่วงทำนองที่มีความเป็นพ็อปในตัว ฟังติดหู ร้องตามได้ไม่ยาก แนวทางดนตรีก็หลากหลาย และถูกนำมารับใช้เนื้อหาได้อย่างน่าสนใจ ในแบบที่ทุกเพลงอยู่ในโทนอารมณ์เดียวกัน ไม่มีเพลงที่หลุดหรือแปลกแยกจากบรรยากาศโดยรวมของอัลบัม แล้วยังส่งให้หลาย ๆ เพลงเป็นไฮไลต์ของงานชุดนี้ อย่าง ดนตรีบลูส์ของ “ยอดมนุษย์ 2%”, เพลงที่เด่นด้วยเสียงกีตาร์ตแว๊ง (Twang) “รักสามเส้า” ที่อาจจะเรียกว่าเป็นซาวนด์ใหม่ในเพลงของคาราบาวก็ว่าได้ แม้จะไม่ถึงกับแปลกหู หากก็ให้รู้สึกถึงความแตกต่าง เป็นความสดใหม่ที่ไม่ได้ยินบ่อยนักจากพวกเขา

หรือ “วิมานรักอากาศ” ที่เรียบเรียงออกมาเป็นงานคันทรี-ร็อค ในอารมณ์พ็อปใส ๆ ที่เมื่อรวมเข้ากับเสียงร้องของเทียรี่ เมฆวัฒนา และยืนยง โอภากุล ที่ร้องล้อ คลอกันได้อย่างกลมกลืน รวมถึงภาษาที่ใช้ และเรื่องราวในเพลง ก็กลายเป็นเพลงน่ารัก ๆ ที่ฟังแล้วอดอมยิ้มแบบที่ตัวละครในเพลงรู้สึกขึ้นมาได้

ที่โดยส่วนตัวแล้ว สองเพลงรัก “รักสามเส้า” กับ “วิมานรักอากาศ” คือเพลงในแบบมิเชลิน ไกด์ในอัลบัมชุดนี้

แล้วก็มีของตาย ที่แฟน ๆ คุ้นเคยกันดี ร็อคแบบคาราบาวจาก “ลูกแก้ว” หรือ “ล้างบาง” ที่หาฟังได้ใน “หนีเสือปะจระเข้” สามช่าเครื่องหมายการค้าก็ยังทำได้สนุก อย่างที่ได้ยินใน “3 ช่าหาเพื่อน” ที่ยังถูกใช้เป็นกิมมิกเก๋ ๆ ในการเล่าเรื่องด้วยดนตรี ให้กับสองเพลงที่เป็นเรื่องราวของวง ที่ไม่ต่างจากการตอกย้ำถึงลายเซ็นของพวกเขาเข้าไปในเพลง

ทั้งหมดทุกเพลง ล้วนได้รับการบันทึกเสียงที่ประณีต ให้ซาวนด์ที่ละเอียด สัมผัสได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟัง พูดได้เต็มปากว่าเป็นเสน่ห์ หรือความโดดเด่นของอัลบัมชุดนี้ ก่อนจะได้ทำความรู้จักอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ลงลึกไปถึงรายละเอียดของเนื้อหา ท่วงทำนอง และการเรียบเรียง ด้วยซ้ำ

กับผลงานของวงดนตรีที่มีอายุอานามมานาน การทำงานอยู่ตัวแล้ว ‘40 ปี ฅนคาราบาว’ อาจจะไม่ใช่งานที่หวือหวา แต่ทุกอย่างก็อยู่ในระดับมาตรฐานในทุกองค์ประกอบ ไม่มีงานส่วนไหนที่หล่นหาย แล้วยังมีไฮไลต์ให้ได้ฟังซ้ำบ่อย ๆ

มองถึงตรงนี้… นี่คืองานที่สมวัยในมุมมองของเนื้อหา ดนตรี และโปรดัคชัน

ซึ่งการไม่ได้มีเพลงฮิต เปรี้ยงปร้าง โด่งดัง อย่างที่เคยเป็น ไม่ได้หมายความว่านี่คืองานที่น่าผิดหวังแต่อย่างใด

โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ วิจารณ์-แนะนำ นิตยสารสีสัน ปีที่ 33 ฉบับที่ 10 พฤศจิกายน 2566

ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:Music Review

Comments are closed.