Music ReviewREVIEW

ฟังไปแล้ว – Summer Solstice งานปลดเปลื้องสรรพเสียงอิเล็กทรอนิกส์ของอะ-ฮา

ถ้าเป็นแฟนเพลงสากลในยุค 80 ชื่อของ อะ-ฮา (a-Ha) คือชื่อสามัญประจำบ้าน จากความฮิตของเพลงอย่าง “Take On Me”, “The Sun Always Sines on TV” สองซิงเกิลจากอัลบัมแรกของพวกเขา Hunting High and Low เมื่อปี 1985

ถึงแม้จะผ่านช่วงเวลาสุดยอดของตัวเองไปแล้ว เมื่อผ่านเข้าสู่ยุค 90 อะ-ฮาที่ประกอบด้วยมอร์เทน ฮาร์เค็ท (Morten Harket) ร้องนำ/ กีตาร์, แมกเน ฟูรูโฮลเมน (Magne Furuholmen) คีย์บอร์ดส์ และพอล แวคตาร์ (Paul Waaktaar-Savoy) ยังคงสร้างงานออกมาเรื่อยๆ แม้จะมีสะดุดอยู่บ้าง เมื่อพวกเขาประกาศแยกวงถึงสองช่วง ตอนปี 1994-1998 และ ปี 2007 – 2015 แต่ระหว่างนั้นสมาชิกของวง อย่าง ฮาร์เค็ท ก็มีงานเดี่ยวออกมาให้ฟังกัน ไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหน

กับกระแสการกลับมาของเพลงเทคโน-ป็อป ที่ไม่ใช่แค่เพลงจากยุคนั้นมามีอิทธิพลใน “เสียง” ดนตรีของยุคนี้ แต่บทเพลงจากอดีตก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในจอภาพยนตร์ ที่เพลงจากยุค 80 ถูกหยิบมาใช้กันเรื่อยๆ ซึ่งก็ต้องมีเพลงของอะ-ฮารวมอยู่ด้วย เพราะพวกเขาคือหนึ่งในศิลปินที่สร้าง “เสียง” ของยุค 80 ขึ้นมา เช่นเดียวกับวงอย่าง Duran Duran ศิลปินเดี่ยวอย่าง มาดอนนา (Madonna) รวมไปถึง จอร์จ ไมเคิล (George Michael)

ล่าสุดหนังบิ๊กๆ สองเรื่องที่ออกฉายไล่ๆ กัน Ready Player One และ Deadpool 2 ต่างก็ใช้เพลง Take on Me ของอะ-ฮาทั้งคู่ เรื่องแรกใช้ประกอบหนังตัวอย่าง เรื่องหลังใช้ในหนัง กับฉากสำคัญของเรื่องตอนท้าย ที่บางการกระทำของตัวละคร ทาบทับกับบางภาพของมิวสิค วิดีโอเพลงนี้ที่ทำออกมาได้เริ่ดมากๆ ในยุคสมัยของมันพอดี แถม Take on Me ที่ได้ยินในหนัง Deadpool 2 ยัง เป็นเวอร์ชันอะคูสติค ฟังซึ้ง หวาน เจือปนไปด้วยความเศร้ามากกว่าเวอร์ชันเทคโน-ป็อป ที่ได้ยินกันจากต้นฉบับมากมาย กลายเป็นการตีความใหม่ ที่ให้อรรถรสต่างจากเดิม และสร้างมุมมองใหม่ให้กับเพลงได้ในทันที

ต้นทางที่มาของ Take on Me ฉบับนี้ก็คือ อัลบัมคู่ A-Ha: MTV Unplugged – Summer Solstice งานบันทึกการแสดงสดแบบอะคูสติคของวง ที่เดอะ ฮาร์เบอร์ ฮอลล์ ในโอเชียน ซาวนด์ เรคอร์ดิงส์ ที่เมืองกิสคา ประเทศนอร์เวย์ บ้านเกิดของพวกเขา เมื่อ 22-23 มิถุนายน 2017 ที่อะ-ฮาหยิบเอาเพลงถึง 21 เพลงมาเรียบเรียงใหม่ในแบบอะคูสติคได้อย่างไพเราะเพราะพริ้ง ในแบบที่แทบจะลืมตัวตนแท้ๆ ของเพลงเหล่านี้ไปเลยก็ว่าได้

ไม่ว่าจะเป็น “I’ve Been Losing You”, “Stay on These Roads”, “The Living Daylights” เพลงจากหนังเจมส์ บอนด์ชื่อเดียวกัน และขาดไม่ได้กับสองเพลงดังของวง แล้วก็มีเพลงพิเศษอย่าง “Sox of the Fox” เพลงเก่าของ Bridges วงดนตรีก่อนหน้าจะมาเป็นอะ-ฮา ของแวคทาร์-ซาวอยกับฟูรูโฮลเมน และ “Killing Moon” เพลงของ Echo and the Bunnymen ซึ่งเอียน แม็คคัลล็อค นักร้องนำของวงมาเป็นแขกรับเชิญร่วมร้องเพลงนี้ และ Scoundrel Day ร่วมกับอะ-ฮาด้วย

การได้ยินเพลงที่เคยมีเครื่องเคราอิเล็กทรอนิกส์เป็นเสียงหลัก กลายเป็นเพลงอะคูสติคแบบนี้ นอกจากจะทำให้ได้ความรู้สึก “สด”, “ใหม่” แตกต่างไปจากเดิมได้อย่างชัดเจนแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงชั้นเชิงความสามารถทางดนตรีของอะ-ฮาไปพร้อมๆ กัน โดยเฉพาะเสียงร้องของฮาร์เค็ทที่เปลือยอารมณ์ได้มากกว่าที่เคยเป็น กับเสียงเปียโนของฟูรูโฮลเมนที่ฟังพลิ้วไหว หรือหากไม่ใช่ชั้นในเรื่องการเล่นดนตรี ก็คือการเรียบเรียงเพลง ที่วันนี้อะ-ฮากลายร่างเพลงเทคโน-ป็อป ให้กลายเป็นงานอะคูสติคเพราะๆ ได้อย่างลงตัว และไม่ขัดหู

ที่พอฟังเพลงทั้งหมดครบทั้งอัลบัม ก็พบคำตอบได้ในทันทีว่า เพราะอะไรทำไมพวกเขาถึงยังเป็นดาวค้างฟ้าจากยุค 80 มาจนถึงยุคนี้ได้อย่างที่เห็น….

โดย นพปฎล พลศิลป์ จากเรื่อง Summer Solstice งานปลดเปลื้องสรรพเสียงอิเล็กทรอนิกส์ของอะ-ฮา คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 18 พฤษภาคม 2561

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

 

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:Music Review

Comments are closed.