ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของวงการเพลง เมื่อวิทนีย์ ฮุสตัน จากไปเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งหมายความว่า โลกต้องขาดเสียงร้องระดับดิวาตัวจริง-เสียงจริงไปอีกคน เหลือทิ้งไว้เพียงผลงานเพลง รวมไปถึงผลงานการแสดง ให้ได้หยิบมาฟัง มาชม ให้หายคิดถึง
และดีวีดีชุด Whitney Houston Live: Her Greatest Performance ก็เป็นอีกหนึ่งการรวบรวมผลงานของเธอ ที่เป็นการแสดงสดในวาระต่างๆ ที่น่าจดจำ ครั้งสำคัญ หรือมีเรื่องราวในตัว ซึ่งก็ต้องชมฝรั่งกันละ ที่เก็บการแสดงในช่วงเวลาต่างๆ ของวิทนีย์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี
โดยว่ากันตั้งแต่การแสดงทางโทรทัศน์ครั้งแรกของเธอ ทางรายการ The Merv Griffin Show เมื่อปี 1983 ที่เธอร้องเพลง Home จาก The Wiz ละครเพลงชื่อดัง ซึ่งในตอนนั้น เธอก็ฉายความสามารถออกมาให้เห็นกันแล้ว ในร่างนักร้องสาววัยรุ่นเจ้าของพลังเสียงมหัศจรรย์ แล้วก็ไล่เรียงเพลงตามปีมาเรื่อยๆ จนมาถึงเพลงสุดท้าย I Didn’t Know My Own Strength จากรายการ The Oprah Winfrey Show เมื่อปี 2009
ซึ่งการไล่เรียงเพลงตามช่วงเวลา ทำให้เห็นถึงพัฒนาการของตัววิทนีย์ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเสียง หรือว่าภาพลักษณ์ รวมไปถึงการแสดง ที่จากร้องเพียงอย่างเดียวในช่วงแรกๆ ช่วงหลังๆ จะได้เห็นเธอเล่นกับกล้อง กับคนดู หรือสื่อสารผ่านกล้องได้อย่างเป็นธรรมชาติ ในแบบคนเจนเวทีมากขึ้น
ที่น่าสนใจก็คือการร้องเพลงของวิทนีย์นั้น เธอจัดมาครบ พลัง และอารมณ์ โดยที่งานในส่วนแรกก็ไม่ใช่งานพ่นไฟ ที่น่ารำคาญเมื่อได้ยินไปนานๆ ขณะที่งานในส่วนหลังก็ไม่ใช่ร่ายกันตามอารมณ์จนฟังไม่รู้เรื่องอย่างที่นักร้องในบ้านเราหลายๆ คนเป็น
ในทุกเพลง เธอโชว์ทุกอย่างให้เห็นสมกับที่เป็นเบอร์ 1 ของวงการมาแล้ว ที่ชอบมากๆ ก็คือ เพลง How Will I Know ที่เธอร้องกับดนตรีแบ็คกิ้งแทร็ค แต่เสียงร้องนั้นทำให้ดนตรีที่น่าจะแห้งๆ ตามสไตล์ของดนตรีแบ็คกิ้ง แทร็คทั่วไป ให้อารมณ์เหมือนงานเล่นสดยังไงยังงั้น อีกเพลงที่เยี่ยมก็คือ lI’ll Always Love You ที่ในช่วงท้ายวิทนีย์ส่งอารมณ์ไปยังคนดูได้อย่างซาบซึ้ง น่าประทับใจ
รวมไปถึงการร้องคู่กับมารายห์ แคร์รีย์ ในเพลง When You Believe เพลงประกอบหนัง The Prince of Egypt ที่บอกเล่าเรื่องราวของโมเสส, บัญญัติ 10 ประการ เหมือนๆ กับหนัง Exodus: Gods and Kings นี่ละ ซึ่งทั้งคู่ร้องในงานออสการ์ปี 1999
นอกจากจะรวบรวมโชว์สำคัญๆ ของวิทนีย์แล้ว เพลงใน Whitney Houston Live: Her Greatest Performance ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานเพลงฮิต (ไม่นับเพลงชาติสหรัฐอเมริกา ที่เธอร้องในซูเปอร์โบลว์ปี 1991 ซึ่งนำมาใส่ในอัลบั้มชุดนี้ด้วย) นอกจากที่ว่ามาแล้วก็ยังมี One Moment in Time เพลงของทีมโอลิมปิค สหรัฐฯ ในปี 1988, Greatest Love of All, I’m Your Baby Tonight หรือที่พิเศษๆ ก็ เมดลีย์เพลง I Loves You-Porgy/ I Am Telling You I’m Not Going/ I Have Nothing
พูดง่ายๆ งานชุดนี้ก็คืองานรวมเพลงฮิตของวิทนีย์ ในรูปแบบแสดงสดนั่นเอง
ปิดท้ายด้วยคำพูดถึงงานชุดนี้ของไคลฟ์ เดวิส คนที่ดึงเธอมาสู่วงการ และเป็นโปรดิวเซอร์ของอัลบั้มชุดนี้ ที่ว่า “งานชุดนี้ของวิทนีย์จะทำให้ทุกคนทึ่ง นี่คือการแสดงที่เป็นนิยามความโดดเด่นเฉพาะตัวของเธอ และต้องถูกจัดอยู่ในลำดับแรกๆ ตลอดกาลอย่างไม่ต้องสงสัย มันเต็มไปด้วยอารมณ์ แล้วก็ตอกย้ำว่า ไม่มีใครที่เหมือนเธอ และยิ่งทำให้การจากไปของเธอ ทั้งๆ ที่อายุยังน้อย เป็นเรื่องน่าเศร้าและเจ็บปวดมากๆ การได้ชมการแสดงของเธอจะทำให้ได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์ที่ผ่านไป เสียงร้องแสนมหัศจรรย์และเพลงของเธอนั้น จะยืนหยัดผ่านกาลเวลาไปได้นานแสนนาน และสร้างมนตร์เสน่ห์ได้ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า”
ดูแล้วก็ต้องบอกว่า “ใช่เลย”
จากเรื่อง ที่สุดของการแสดง ของวิทนีย์ ฮุสตัน โดย นพปฎล พลศิลป์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 10 ธันวาคม 2557
ให้กำลังใจด้วยการกด Like เพจสะเด่าส์ได้ ที่นี่