By Sadaos
แอนดรูว์ เฟล็ตเชอร์ มือคีย์บอร์ดส์ และสมาชิิกผู้ร่วมก่อตั้งวงอิเล็กทรอนิกจากอังกฤษ Depeche Mode เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 60 เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2022 โดยแถลงการณ์ผ่านทางโซเชียลมีเดียของทางวงระบุว่า “เราตกใจและเต็มไปด้วยความโศกเศร้า กับการจากไปก่อนเวลาอันควรของเพื่อนที่รักยิ่ง, สมาชิกครอบครัว และเพื่อนร่วมวง แอนดี “เฟล็ตช์” เฟล็ตเชอร์”
เดเพชี โหมด ตั้งวงกันที่บาซิลดอนในช่วงปลายยุค 1970s และมีอัลบัมถึง 17 ชุดที่ขึ้นไปถึงท็อปเท็นบนชาร์ตอัลบัมของอังกฤษ รวมถึงมีเพลงที่ประสบความสำเร็จในอันดับเพลงทั่วโลกมากมาย อาทิ “Enjoy The Silence”, “Personal Jesus” และ “Just Can’t Get Enough”
ทางวงกล่าวในแถลงการณ์ด้วยว่า “เฟล็ตคือคนที่จิตใจดีงาม และเมื่อคุณต้องการการสนับสนุน เขาจะอยู่ตรงนั้นเสมอ ด้วยการพูดคุยที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา, เสียงหัวเราะ หรือเบียร์เย็น ๆ สักไพนต์ เราขอส่งใจไปให้คนในครอบครัวของเขา และขอให้ทุกรำลึกถึงและเคารพความเป็นส่วนตัวของพวกเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบาก”
เฟล็ตเชอร์เกิดเมื่อปี 1961 ที่น็อตติงแฮม แล้วก็ย้ายมาอยู่ที่บาซิลดอน และที่นี่เขาก็ฟอร์มวง No Romance In China ร่วมกับวินซ์คลาร์กในช่วงปลายยุค 1970s แต่พอได้มาร์ติน กอร์เข้ามา ก็เปลี่ยนเป็น Composition Of Sound ก่อนหน้าเดฟ กาห์นจะกลายมาเป็นนักร้องนำของวง ที่พวกเขาเปลี่ยนชื่อเป็น เดเพชี โหมด ชื่อของวงดนตรีที่เป็นเจ้าของเพลงฮิต และความสำเร็จมากมายในช่วงต้นยุค 80s
เดเพชี โหมด ในรายการ Top The Pops เมื่อปี 1981 จากซ้าย: แอนดรูว์ เฟล็ตเชอร์, เดฟ กาห์น, มาร์ติน กอร์ และวินซ์ คลาร์ก
เมื่อคลาร์กออกจากวง เพื่อไปทำวง Yazoo และตามด้วย Erasure หลังจากเดเพชี โหมด ออกอัลบัมแรก ‘Speak & Spell’ ในปี 1981 กอร์กลายมาเป็นหัวหน้าทีมแต่งเพลงของวง และกับการได้อลัน ไวลเดอร์มาร่วมงาน ซาวนด์เพลงของวงเปลี่ยนไปจากเดิม หม่นและมีความเป็นงานกอธิกมากกว่าที่เคยเป็นและทำให้วงประสบความสำเร็จไปทั่วโลกมากขึ้น ในช่วงปลายยุค 80s ต่อต้นยุค 90s
เฟล็ตเชอร์เล่นดนตรีในสตูดิโออัลบัมทุกชุดของเดเพชี โหมด นับตั้งแต่งานชุดแรกเมื่อปี 1981 ‘Speak & Spell’ รวมถึง ‘Songs Of Faith And Devotion’ (1993) และ ‘Ultra’ (1997) ซึ่งขึ้นไปถึงอันดับ 1 ในชาร์ตเพลงของอังกฤษ จนมาถึง ‘Spirit’ งานชุดล่าสุดเมื่อปี 2017 โดยทางวงขึ้นเวลาแสดงสดครั้งสุดท้ายร่วมกันเมื่อ 25 กรกฎาคม 2018 ที่เบอร์ลิน นับมาถึงตอนนี้เฟล็ตเชอร์เป็นสมาชิกของวงมายาวนานกว่า 40 ปี โดยไม่ใช่นักร้องนำหรือคนแต่งเพลงหลักของวง แต่ในช่วงหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา เขามักจะได้รับการกล่าวถึงในฐานะผู้จัดการทุกสิ่งอย่างของเดเพชี โหมดจากแฟน ๆ เป็นคนดูแลเรื่องธุรกิจของวง ที่ขายงานเพลงได้มากกว่า 100 ล้านเพลงทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงที่วงไม่มีผู้จัดการวงเต็มตัว ในปี 2013 เฟล็ตเชอร์พูดในการให้สัมภาษณ์ว่า เขาเป็น “ชายตัวสูง ๆ ที่อยู่เบื้องหลัง ที่หากปราศจากเขาบริษัทข้ามชาติที่ชื่อ เดเพชี โหมดก็อาจทำงานได้ไม่ดี” และในสารคดีเรื่อง ‘101’ เมื่อปี 1989 ของผู้กำกับดี เอ เพนเนเบเกอร์ ซึ่งมีที่มาจากการทัวร์ Music For The Masses วันที่ 101 ของวง เฟล็ตเชอร์ตอกย้ำถึงบทบาทดังกล่าวที่เขามีต่อวง ด้วยการบอกว่า “มาร์ตินเป็นนักแต่งเพลง, อลันเป็นนักดนตรีฝีมือดี, เดฟเป็นนักร้อง และผมก็เดินเล่นไปมา”
ตอนต้นยุค 2000s เฟล็ตเชอร์ ทำค่ายเพลงของตัวเอง โทสต์ ฮาวาย ขึ้นมา โดยเป็นสังกัดเพลงในเครือของมิวต์ ที่เป็นต้นสังกัดของวงมายาวนาน นอกจากนี้ยังออกทัวร์บ่อย ๆ ในฐานะดีเจ และเป็นคนที่เติมความสนุกสนานให้กับการแสดงของตัวเองด้วยการเอาเพลงของเดเพชี โหมดมาทำรีมิกซ์ หลังไวลเดอร์ออกจากวงไปในปี 1995 เดเพชี โหมดกลายเป็นวงทรีโอ และพวกเขาก็ได้รับการจารึกชื่อในหอประกาศเกียรติคุณร็อกแอนด์โรงในปี 2020 งาน
แอนดรูว์ เฟล็ตเชอร์ (ขวา) กับเพื่อน ๆ เดเพชี โหมด เมื่อปี 1984 จากซ้าย: มาร์ติน กอร์, เดฟ กาห์น และอลัน ไวลเดอร์
หลังข่าวการจากไปของเฟล็ตเชอร์ถูกเผยแพร่ออกมา บรรดาศิลปินต่างออกมาแสดงความเสียใจ ไม่ว่าจะเป็น ลอล ทอลเฮิร์สต์ สมาชิกก่อตั้งของ the Cure, อลิสัน โมเยต์ นักร้องนำวงยาซู ที่ทำงานในสังกัดเดียวกับเดเพชี โหมด และรู้จักกับเฟล็ตเชอร์มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ๆ ขณะที่ Pet Shop Boys ก็ออกมาไว้อาลัยเฟล็ตเชอร์ผ่านทางไซเชียล มีเดียของวง เช่นเดียวกับวง Orchestral Manoeuvres in the Dark ที่ระบุว่าการแสดงคอนเสิร์ตของพวกเขาในคืนวันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคมเต็มไปด้วยความรู้สึกโศกเศร้า
เฟล็ตเชอร์แต่งงานกับเกรนนี ที่ใช้ชีวิตร่วมกันมากว่า 30 ปี โดยมีลูกด้วยกันสองคน เมแกน และโจ
ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่
What is your reaction?
