อีกตำนานที่จากไป ลีออน รัสเซลล์

เลนนาร์ด โคเฮน นักร้อง, นักแต่งเพลง ระดับตำนานคนหนึ่งของวงการ เพ่ิงจากไปได้เมื่อ 7 พฤศจิกายน 2559 อีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ลีออน รัสเซลล์ นักแต่งเพลง และนักดนตรี เจ้าของเพลงอมตะอย่าง A Song for You ก็จากโลกนี้ไปอีกคน เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ด้วยวัย 74 ปี

โดยมีข้อความแจ้งข่าว ขึ้นบนเว็บไซท์ของเจ้าตัวว่า “ลีออน รัสเซลล์ เสียชีวิตแล้วในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2016 ที่แนชวิลล์ ด้วยอายุ 74 ปี ภรรยาของเขาบอกด้วยว่า เขาจากไปในขณะที่หลับอยู่”

รัสเซลล์ซึ่งได้รับการจารึกชื่อในหอประกาศเกียรติคุณร็อคแอนด์โรลล์ และหอประกาศเกียรติคุณนักแต่งเพลง ต้องรับมือกับปัญหาสุขภาพรุมเร้ามานาน จนถึงขั้นเข้ารับการผ่าตัดไม่ให้ของเหลวในสมองไหลในปี 2010 และเกิดหัวใจวายจนต้องทำการผ่าตัด เมื่อเดือนกรกฎาคมที่่ผ่านมา

คล็อด รัสเซลล์ บริดเจส เกิดที่นอกเมืองทุลซา, โอคลาโฮมา ในปี 1942 และเริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่ยังเรียนไฮสคูลตามไนท์คลับในเมือง แล้วก็ตั้งวงดนตรีของตัวเองที่ชื่อ the Starlighters พอเรียนจบ เจอร์รี ลี ลิวอิส ก็พาเขาไปออกทัวร์ด้วย เจ้าตัวเล่าถึงชีวิตช่วงนั้น ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจของเขาในเวลาต่อมาว่า “ตอนมีโอกาสได้ออกทัวร์กับเจอร์รี ลี ลิวอิส ผมต้องใช้เวลา 3 วันต่อสัปดาห์ วันละ 12 ชั่วโมง เพื่อทำข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุลซา แล้วก็คิดว่า… มันเสียเวลาโดยใช่เหตุ เพราะผมต้องเรียนอะไรตั้งเยอะที่ไม่สนใจ” และเขาก็ตัดสินใจเลือกดนตรี

ด้วยวัยแค่ 17 ปี รัสเซลล์ย้ายมาที่ลอส แองเจลีส ค่อยๆ ไต่เต้าด้วยการทำงานเป็นนักดนตรีตามคลับ จากที่ไม่เคยมีใครรู้จัก เขากลายเป็นหนึ่งคนที่ใครๆ ก็อยากได้ตัว โดยช่วงนั้นรัสเซลล์ก็มีโอกาสทำงานกับศิลปินอย่าง the Byrds, เฮิร์บ อัลเบิร์ท และ ฟิล สเปคเตอร์ ในฐานะสมาชิกวง Wrecking Crew ของฝ่ายหลัง และการเล่นคีย์บอร์ดของเขามีให้ได้ยินใน Be My Baby เพลงอมตะของ the Ronettes และ River Deep – Mountain High ของ Ike & Tina Turner

จนปี 1968 รัสเซลล์ที่ได้รับฉายาในการทำงานว่า ‘The Master of Space and TIme’ ถึงได้ทำงานของตัวเอง เริ่มจากอัลบั้ม Look Inside the Asylum Choir ที่เขาทำร่วมกับมาร์ค เบนโน และอีกสองปีต่อมา เขาก็มีอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก Leon Russell ที่มีเพลงอมตะของวงการเพลง A Song for You อยู่ในอัลบั้ม เพลงนี้ถูกศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิ แอนดี วิลเลียมส์, ดอนนี แฮธาเวย์, the Carpenters, the Temptations, วิลลี เนลสัน กับเรย์ ชาร์ลส์ นำไปร้องใหม่จนโด่งดัง และฉบับของชาร์ลส์ ก็ทำให้เขาคว้ารางวัลแกรมมีสาขาศิลปินชายเดี่ยวอาร์แอนด์บีได้ในปี 1993 และเมื่อปี 2005 เพลงนี้ที่ร้องโดยเฮอร์บี แฮนค็อค กับคริสตินา อากีเลรา ก็เข้าชิงรางวัลแกรมมีอีกครั้ง

นอกจากทำงานเพลงของตัวเอง รัสเซลล์ยังเป็นคนทำงานเบื้องหลังชั้นดี เขาเคยโปรดิวซ์อัลบั้ม Joe Cocker! ร่วมกับโจ ค็อคเกอร์ในปี 1969 แล้วยังเรียบเรียงดนตรีออเคสตราให้ทัวร์ Mad Dogs & Englishmen tour ของค็อคเกอร์ด้วย แล้วโปรดิวซ์เพลงให้บ็อบ ดีแลน,ทำงานร่วมกับ แฟรงค์ ซินาตรา, The Rolling Stones, จอร์จ แฮร์ริสัน, ริงโก สตาร์ร์, the Beach Boys, แซม คุก, the Gap Band อีกด้วย

ในฐานะนักแต่งเพลง รัสเซลล์ยังเป็นเจ้าของเพลงฮิต Superstar ที่ร้องโดย the Carpenters แล้วก็มี Tight Rope ที่ตัวเองร้องเอาไว้ในปี 1972 รวมทั้ง This Masquerade ที่จอร์จ เบนสันเอาไปร้องใหม่จนได้รางวัลแกรมมี เพลงในการบันทึกเสียงยอดยี่ยมมาครองเมื่อปี 1977

ยุค 80 และ 90 งานเดี่ยวของรัสเซลล์ ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก จนปี 2009 เอลตัน จอห์น ชวนเขามาทำงานด้วยกันในอัลบั้ม The Union ที่ออกในปีต่อมา และทำให้รัสเซลล์กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง และในปี 2011 จอห์นก็เป็นคนนำรัสเซลล์เข้าสู่หอประกาศเกียรติคุณร็อคแอนด์โรลล์ และเขาก็พูดถึงการจากไปของรัสเซลล์เอาไว้ว่า“ลีออน รัสเซลล์ อันเป็นที่รักของผม จากไปแล้วเมื่อคืนนี้ เขาเป็นอาจารย์, แรงบันดาลใจ และเป็นคนที่สุภาพมากสำหรับผม” จอห์นเขียนเอาไว้ในแถลงการณ์

“ขอบคุณพระเจ้า ที่เราได้เจอและทำอัลบั้ม The Union ร่วมกัน เขาได้รับชื่อเสียงกลับคืนมา และรู้สึกว่าชีวิตได้รับการเติมเต็ม ผมรักเขาและจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป”

จากเรื่อง อีกตำนานที่จากไป ลีออน รัสเซลล์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ โดย นพปฎล พลศิลป์ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2559

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่