แอปเปิลกับอนาคตของบีทส์ มิวสิค

หลังซื้อบริษัทผู้ผลิตหูฟังบีทส์ของดร. เดร มาเมื่อราวๆ ต้นปี ในราคา 3 พันล้านเหรียญ ซึ่งนอกจากจะได้กิจการหูฟัง มาพร้อมๆ กับบรรดาผู้บริหารของบีทส์แล้ว แอปเปิลก็ยังได้บริการฟังเพลงสตรีมมิงที่ชื่อ บีทส์ มิวสิคมาด้วย และในช่วงเวลาที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าแอปเปิลจะยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันกับบีทส์ มิวสิคมากนัก และตอนนี้ดูเหมือนว่า พวกเขาจะเริ่มใช้งานบีทส์ มิวสิคในการเป็นอาวุธชิ้นสำคัญ สำหรับโลกของการฟังเพลงสตรีมมิง ในการต่อกรกับผู้ให้บริการรายอื่นๆ

สตีฟ น็อปเปอร์ จากนิตยสารโรงลิงสโตน เขียนถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า แอปเปิลมีแผนที่จะจับบีทส์ มิวสิคผูกเข้ากับระบบปฏิบัติการไอโอเอส ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการของไอโฟน, ไอแพด ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งจะทำให้มีผู้ที่มีโอกาสใช้งานแอพพ์ บีทส์ มิวสิคมากขึ้นถึงนับหลายล้านคน รวมไปถึงทำให้แอปเปิล มีความแข็งแกร่งมากขึ้นในการต่อสู้กับคู่แข่งอย่าง สปอติฟาย และยูทูบ

“ระบบการบอกรับสมัครสมาชิก อาจจะเป็นอนาคตของธุรกิจเพลง แต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่กระแสหลักในการฟังเพลง อะไรก็ตามที่แอปเปิลทำได้ก็คือ พยายามพามันไปสู่ตรงนั้นให้ได้เร็วที่สุด พอๆ กับการที่มันจะกลายเป็นระบบที่มีค่ามากที่สุด” แหล่งข่าวในค่ายเพลงใหญ่รายหนึ่งกล่าว “แอปเปิลไม่ได้เป็นคนที่ทำระบบดาวน์โหลดเป็นคนแรก แต่พวกเขาเป็นคนทำระบบดาวน์โหลดที่ดีที่สุด”

นั่นคือปฏิกริยาจากคนวงในที่เป็นผู้บริหารค่ายเพลง คนเหล่านี้จะเป็นผู้ให้อนุญาตใช้งานเพลงต่างๆ ที่พวกเขาถือสิทธิ์อยู่ กับผู้ให้บริการสตรีมมิง โดยลงทุนหลายล้านดอลลาร์ ไปกับสปอติฟายและผู้ให้บริการรายอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับมุมมองของเทย์เลอร์ สวิฟท์ ที่ถอดเพลงของเธอออกจากสปอติฟายเมื่อเดือนก่อน ในสัปดาห์เดียวกับวันวางอัลบั้ม 1989 และงานชุดนี้ขายได้ถึง 1.3 ล้านก็อปปีในสัปดาห์นั้น

สวิฟท์และศิลปินอีกหลายราย อาทิ เดวิด โลเวรี จากแครกเกอร์ และเดวิด เบิร์นนี อดีตสมาชิกของวง ทอลคิง เฮด มองว่าการที่ธุรกิจเพลงเปลี่ยนจากการขายซีดี และดาวน์โหลด ไปเป็นพึ่งรายได้จากโฆษณาในยูทูบ และสปอติฟาย รวมถึงการรับสมาชิกเดือนละ 10 เหรียญ ทำให้การจ่ายค่าลิขสิทธิ์ลดลง และต่ำมากจนน่าเกลียด

จากข่าวในนิว ยอร์ค ไทม์ส แอปเปิลพยายามเจรจาเพื่อให้ได้ราคาในการฟังสตรีมมิงที่ต่ำที่สุด โดยให้ลูกค้าของบีทส์ มิวสิค จ่ายค่าสมาชิกเพียงแค่ 5 เหรียญต่อเดือน แทนที่จะเป็น 10 เหรียญ แต่ก็เป็นเพียงการคาดการณ์ เพราะยังไม่มีการยืนยันตัวเลขอย่างเป็นทางการออกมา ตอนที่บีทส์เปิดตัวออกมาตอนต้นปี 2014 ผู้บริหารของบีทส์มองว่า พวกเขาจะเน้นการสมัครสมาชิกในการฟังมากกว่าจะเป็นการให้ฟังฟรีแต่มีโฆษณาแบบสปอติฟาย ซึ่งสามารถดึงคนมาสมัครใช้บริการได้เพียง 110,000 ราย ขณะที่ทางสปอติฟายมีลูกค้าถึง 50 ล้านคน โดย 12.5 ล้านคนเป็นผู้ใช้บริการแบบจ่ายเงินปีละ 120 เหรียญ ทำให้มีข่าวว่าทางแอปเปิลจะรวบบีทส์ มิวสิคเข้ากับไอทูนส์ และไอโอเอสดังกล่าว

ขณะที่ข่าวนี้ถูกปล่อยออกมา บรรดาผู้ให้บริการสตรีมมิงหน้าใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นราวกับดอกเห็ดทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ยูทูบเองที่เปิดบริการฟังเพลงแบบรับสมาชิกกับเขาด้วย แล้วก็ยังมีมิวสิค คีย์ ที่กำลังจะเปิดในอีกไม่นาน โดยเพิ่งเลือกลูกค้าจำนวนหนึ่ง เพื่อให้ไปทดลองใช้ระบบก่อนที่จะเปิดบริการจริงในอนาคต ขณะที่ไทดัล ก็เข้าไปบุกตลาดอเมริกาตั้งแต่เดิอนตุลาคม โดยให้บริการฟังเพลงสตรีมมิงด้วยไฟล์เพลงคุณภาพสูง

มาถึงตรงนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า กับผู้ใช้อุปกรณ์ที่ผูกกับระบบปฏิบัติการไอโอเอสนอกอเมริกานั้น จะมีโอกาสได้สัมผัสกับบีทส์ มิวสิคหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ กับผู้ให้บริการสตรีมมิงในบ้านเรา ที่ทำการตลาดจริงๆ จังๆ อยู่ 3 เจ้าอย่าง ดีเซอร์ ที่มาก่อนใคร, เคเคบ็อกซ์ และอาร์ดิโอ ได้ข่าวว่าต่างก็หืดจับกันทั้งนั้น…

จากเรื่อง แอปเปิลกับอนาคตของบีทส์ มิวสิค โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 27 ธันวาคม 2557