กว่าจะเป็นเพลงในหนัง Ready Player One การรวมเพลงคลาสสิคจากยุค 70 และ 80 โดยสตีเวน สปีลเบิร์ก

แม้เรื่องราวของ Ready Player One หนังใหม่จากสตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในปี 2045 แต่กับบรรดาเพลงในหนังนั้น ล้วนเป็นเพลงจากศตวรรษก่อนทั้งสิ้น ขณะที่งานสกอร์ก็เป็นฝีมือของ อลัน ซิลเวสตรี (Alan Silvestri) ซึ่งมีเพลงฮิตๆ จากยุค 70, 80 มาแทรกแซมระหว่างดนตรีประกอบที่บอกเล่าถึงเรื่องราวในโลกอนาคต อาทิ “I Wanna Be Your Lover” ของพรินซ์ (Prince), “Blue Monday” จากนิว ออร์เดอร์ส (New Orders) และ “Stayin’ Alive” ของบีจีส์ (Bee Gees) ซึ่งจะทำให้ผู้ชมหลายๆ คนนึกถึงวันวาน เมื่อครั้งที่ยังเล่นเกมตู้หยอดเหรียญกันอยู่

ไม่ได้มีแค่ได้ยินในหนัง บทเพลงเหล่านี้ยังถูกนำมาใส่อัลบัมซาวนด์แทร็ค Ready Player One: Songs From The Motion Picture ที่ยังมีอัลบัมดนตรีประกอบของซิลเวสตรีที่ชื่อ Ready Player One: Original Motion Picture Soundtrack ออกมาอีกชุดหนึ่ง ซึ่งหลายๆ ฝ่ายคาดกันว่า อัลบัมเพลงประกอบของหนังน่าจะไปได้สวยพอๆ กับอัลบัมซาวนด์แทร็คหนัง Guardians of the Galaxy ภาคสองที่ออกมาเมื่อปี 2017 โดย 14 เพลงจากยุค 70, 80 ในอัลบัมชุดนี้มีความต้องการฟังเพิ่มขึ้นถึง 231% จากตลาดสตรีมมิง และมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 388%

ตัวหนัง Ready Player One สร้างจากนิยายไซ-ไฟปี 2011 ของเออร์เนสท์ ไคลน์ (Ernest Cline) ว่าด้วยการต่อสู้ในโลกเสมือนที่ชื่อว่าโอเอซิส (Oasis) ซึ่งตัวเพลงในหนังก็ได้รับการกล่าวถึงในหนังสือด้วยเช่นกัน โดยนิยายเรื่องนี้อ้างถึงเพลงเป็นร้อยๆ เพลง ที่กลายเป็นการชี้แนะให้คนทำหนัง เมื่อถึงเวลาที่จะนำมาขึ้นจอใหญ่ “มีเพลงถึง 500 เพลงในหนังสือ ซึ่งมันครอบคลุมทุกอย่าง” แซ็ค เพ็นน์ ผู้เขียนบทหนังร่วมกับไคลน์กล่าว

“ตัวหนังสือจริงๆ เต็มไปด้วยสารพันสารพัดที่เกิดขึ้นในยุค 80 เพราะการแข่งขันในเรื่องทุกอย่างมันเกี่ยวข้องกับยุค 80 แต่เมื่อคุณต้องสร้างโอเอซิสขึ้นมา ไม่ใช่ทุกอย่างที่นี่ที่พาดพิงถึงยุค 80” เพ็นน์เล่าต่อ เราเลยมีโอกาสได้ยินเพลงฮิทจากยุคก่อนนั้นอย่าง “Just My Imagination” จากปี 1971 ของ เดอะ เทมพ์เทชันส์ (The Temptations) ซึ่งถูกใส่เข้ามาเพราะเป็นหนึ่งในเพลงโปรดของสปีลเบิร์ก เพ็นน์บอกอีกว่า สปีลเบิร์กยังเป็นคนเลือกเพลง “Stand On It” ของบรูซ สปริงสทีน (Bruce Springsteen) ด้วยตัวเอง โดยเพลงนี้เป็นเพลงหน้าบีของซิงเกิล “Glory Days” ที่เคยใช้ในหนัง Ruthless People เมื่อปี 1986 มาแล้ว

คนตัดสินใจเลือกเพลงในท้ายที่สุดก็คือ สปีลเบิร์ก โดยอาศัยการชี้แนะจากหนังสือ, เพ็นน์, ไคลน์ และกระทั่งบรรดานักแสดง ซึ่งก็รวมไปถึงเบน เมนเดลซอห์น (Ben Mendelsohn) ที่เล่นเป็นตัวร้ายในเรื่อง “เขาเปิดกว้างสำหรับทุกอย่าง โคตรให้ความร่วมมือเลย” เพ็นน์เล่า “แต่ท้ายที่สุดเขาคือคนที่ตัดสินใจ ในการทำเพลย์ลิสท์ขึ้นมา เออร์นีได้รายชื่อที่ยาวเหยียดมาชุดหนึ่ง ผมเล็มให้สั้นลงหน่อย แล้วเราก็ให้กับสปีลเบิร์ก และท้ายสุดท้ายแล้ว เพลงพวกนี้เขาคือคนเลือก”

โดยปกติแล้วคนดูแลด้านดนตรี จะช่วยประสานงานในการเลือกเพลง ซึ่งสปีลเบิร์กเองไม่เคยใช้ใครมาทำหน้าที่นี้ เนื่องจากหนังส่วนใหญ่ของเขาจะใช้สกอร์เป็นส่วนใหญ่ และใช้งานเพลงที่ต้องขออนุญาตไม่มากนัก “สตีเวนจะวางเพลงไม่เยอะ แทบจะไม่มีเพลงในหนังของเขาเลยด้วยซ้ำ” เพ็นน์เล่า “ผมยังเล่นมุขกับเขาเลยว่า หนังเรื่องนี้ยังกับงานของ สกอร์เซซี (Martin Scorsese) ที่วางเพลงแทบทั้งเรื่อง” เขายังให้เครดิตกับโทบี เอ็มเมอริช (Toby Emmerich) ที่ถูกแต่งตั้งเป็นประธานวอร์เนอร์ บราเธอร์ส พิคเจอร์ กรุ๊ป (Warner Bros. Pictures Group) ขณะที่หนังกำลังสร้าง “เขาช่วยได้เยอะมาก” เพ็นน์ กล่าว “มีไม่กี่เพลงที่มีการเปลี่ยนเข้าเปลี่ยนออก และเป็นเรื่องดีจริงๆ ที่มีเขาอยู่ด้วย”

โดย นพปฎล พลศิลป์ จากเรื่อง กว่าจะเป็นเพลงในหนัง Ready Player One การรวมเพลงคลาสสิคจากยุค 70 และ 80 โดยสตีเวน สปีลเบิร์ก คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 3 เมษายน 2561

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่