ON THE ROAD: ORIGINAL MOTION PICTURE SOUNDTRACK
Original Score and Songs Composed by Gustavo Santaolalla / Various Artists
[Universal]
วอลเตอร์ ซัลเลส ผู้กำกับชาวบราซิล และกุสตาโว ซานตาโอลาญ่า ถือเป็นคู่ทำงานผู้กำกับ-คนทำดนตรีคู่บุญอีกคนหนึ่งของวงการ เหมือนๆ กับ สตีเวน สปีลเบิร์กและจอห์น วิลเลียมส์ หรือทิม เบอร์ตันกับแดนนี่ เอลฟ์แมน และกับหนังเรื่องล่าสุดของซัลเลส ที่สร้างจากนิยายของแจ็ค เครูแอค ก็เป็นอีกครั้งที่เขาเรียกใช้คนทำงานดนตรีคู่บารมีอย่าง ซานตาโอลาญ่า
เรื่องราวของ On the Road ก็อาจจะทำให้นึกถึงงานสร้างชื่อของทั้งคู่ Motorcycle Diaries อยู่เหมือนกันด้วยความที่เป็นหนังโรด มูฟวี่ ที่เรื่องราวดำเนินไประหว่างการเดินทางของตัวละคร ซึ่งในเรื่องก็คือ ซัล พาราไดซ์ นักเขียนหนุ่มที่กำลังหาวัตถุดิบในงานเขียนหลังการเสียชีวิตของพ่อ และเขาก็ได้พบกับดีน มอริอาตี้ ที่นำพาเขาไปสู่โลกกว้าง ได้พบพานสิ่งต่างๆ มากมาย กับการใช้ชีวิตที่ปลดปล่อยตัวเองอย่างเต็มที่ของดีน ทำให้เขากลายเป็นเหมือนฮีโร่ของซัล และในท้ายที่สุดวัตถุดิบ และแรงบันดาลใจในการเขียนชั้นเยี่ยม
ซึ่งจะว่าไปแล้ว เรื่องราวของหนังก็คือเรื่องราวชีวิตของเครูแอคนั่นเอง ทำให้ตัวหนังนั้นไม่ต่างไปจากบันทึกการเดินทางของเจ้าของเรื่องทรเป็นการบอกเล่าถึงช่วงชีวิตหนึ่งของตัวเอง ที่เป็นช่วงชีวิตที่ทำให้เขาเป็นอย่างที่เป็นในทุกวันนี้
ที่พอนำไปวางเคียงกับ Motorcycle Diaries ก็คงพอจะเห็นได้เลาๆ ถึงความคล้ายคลึงกัน แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตามที และกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังการเดินทาง อย่างผลกระทบต่อสังคม ความเป็นตำนานของคนในเรื่อง สำหรับหนังเรื่องนี้ดูเป็นสิ่งที่เล็กน้อยกว่าสิ่งที่เกิดกับเช เกวร่า และสิ่งที่เช เกวร่าทำให้เกิดกับโลก
ซาวนด์แทร็คของหนังจะมีทั้งงานเพลง-สกอร์ของซานตาโอลาญ่า และงานเพลงจากศิลปินต่างๆ ในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็น เกรก เครเมอร์, ดีนาห์ วอชิงตัน, บิลลี่ ฮอลิเดย์, ชาร์ลี ปาร์คเกอร์, เอลล่า ฟิทซ์เจอรัลด์, ดิซซี่ จิลเลสพี ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นศิลปินแจ็ซซ์ บี-บ็อป, โซล รวมไปถึงบลูส์ ระดับตำนาน ที่นอกจากจะให้อารมณ์ของยุคสมัยแล้ว งานเพลงเหล่านี้จะมีความดิบ สด ทำให้รู้สึกถึงพลังที่อัดแน่นอยู่ในเพลง เช่นเดียวกับพลังที่อัดแน่นอยู่ในตัวละครหนุ่มๆ ของหนังไม่ว่าจะเป็นซัล โดยเฉพาะดีน
ตัวเพลงอาจจะไม่ถึงกับเสนาะเพราะพริ้งในแบบป็อป แต่ก็มีเสน่ห์ในเรื่องของการบรรเลงที่ให้ความรู้สึก ดิบ สด อย่างที่บอกมา แล้วก็เป็นงานที่ขายลูกเล่น ลีลา โดยเฉพาะการบรรเลงแบบด้นสด มีการปรุงแต่งด้วยเทคนิคที่น้อยมาก เสียงที่ได้ยินคือเรื่องของฝีมือการเล่น ตัวดนตรีที่ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหวอยู่แทบตลอดเวลา และที่สำคัญที่สุดทุกเสียงที่ได้ยินนั้นมี “อารมณ์” ออกมาให้สัมผัสเต็มที่
ทั้งหมดทั้งมวลที่เป็นจุดเด่นในเพลงที่ถูกใช้ในหนังเรื่องนี้ แทบจะเป็นสิ่งที่หาได้อย่างยากยิ่งจากเพลงในยุคปัจจุบัน
งานของซานตาโอลาญ่าเอง ก็มาในลักษณะของงานดนตรีแบบเวิร์ลด์ มิวสิค เป็นงานสกอร์ที่เป็นสกอร์ประกอบหนังแบบเต็มๆ ที่แทบไม่เผื่อช่องว่างสำหรับการฟังในรูปแบบอื่นๆ หลายๆ ธีมมีความโดดเด่นที่เครื่องดนตรีประกอบจังหวะที่รุกเร้า กับบางธีมที่ฟังหม่นๆ ทึมๆ ก็อาจจะทำให้นึกถึงงานเก่าๆ ของเจ้าตัว โดยเฉพาะอารมณ์ที่งานในกลุ่มนี้ จะมีโทนใกล้เคียง หรือคล้ายๆ กับธีมที่ได้ยินในช่วงท้ายๆ ของ Motorcycle Diaries ที่เช เกวร่าได้รู้แล้วว่าโลกไม่ได้ “สวย” อย่างที่เห็น หรือรู้สึก เมื่อได้เดินทางผ่านประเทศต่างๆ ในทวีปอเมริกาใต้ ทั้งหมดจะเป็นคิวดนตรีสั้นๆ บรรยากาศอาจจะฟังหลอนๆ แต่เข้ากับอารมณ์เรื่องราวของหนัง ที่ตัวละครเดินทางไปพร้อมกับสุรา กัญชา และนารี ไม่แปลกที่จะรู้สึกว่างานดนตรีที่ซานตาโอลาญ่าทำให้กับหนัง On the Road อาจจะไม่ใช่งานที่รื่นรมย์นัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ใช่งานที่ดี ยังคงเป็นดนตรีในแบบของซาตาโอลาญ่า เป็นงานที่สอดผสมกันได้อย่างลงตัวกับหนัง
ภาพรวมของอัลบั้มซาวนด์แทร็ค ที่เต็มไปด้วยงานเพลงในยุคสมัยเดียวกับเรื่องราวในหนัง แน่นอนว่าไม่ใช่งานที่ป็อป โดนใจ แต่ที่แน่ๆ หากได้ฟังย่อมรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้งานชุดนี้แตกต่างไปจากงานดนตรีประกอบหนังหลายๆ เรื่องนั่นก็คือ “วิญญาณ” ในเสียงเพลง ที่มีแบบแน่ปึ้กเลยทีเดียว
จาก คอลัมน์ สะกิดร่องเสียง โดย นพปฎล พลศิลป์ นิตยสาร เอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1123 วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555