จากไปแล้ว เจมส์ ฮอร์เนอร์ เจ้าของงานดนตรีและเพลงประกอบรางวัลออสการ์จาก Titanic

เจมส์ ฮอร์เนอร์ คอมโพเซอร์ดนตรีประกอบภาพยนตร์ที่ได้รับการยอมรับ และเป็นเจ้าของผลงานที่กระชากใจอย่าง Field of Dreams, Braveheart และ Titanic ซึ่งทำให้เขาคว้ารางวัลออสการ์กลับบ้านถึงสองรางวัล จากไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน จากอุบัติเหตุเครื่องบินตกใกล้ๆ ซานตา บาร์บารา ด้วยวัย 61 ปี

การเสียชีวิตของฮอร์เนอร์ได้รับการยืนยันโดย ซิลเวีย แพทรีเซีย ที่เป็นผู้ช่วยของเขา

“เราได้สูญเสียคนที่น่าทึ่ง ที่มีหัวจิตหัวใจอันยิ่งใหญ่และเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์” แพทริเซีย โพสท์ข้อความเอาไว้ในเฟซบุ๊คเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา “เขาเสียชีวิตจากการทำในสิ่งที่เขารัก ขอบคุณทุกๆ การสนับสนุน และความรัก”

ฮอร์เนอร์เป็นนักบินของเครื่องบินเล็ก ที่ตกห่างไปทางตอนเหนือของซานตา บาร์บาราราวๆ 60 ไมล์ โดยรายงานในตอนแรกระบุว่า เครื่องบินที่จดทะเบียนในชื่อของเขาตก แต่ยังไม่มีการระบุตัวนักบินว่าเป็นใคร

กับงานที่ทำเมื่อปี 1997 ให้กับหนังยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์ของผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน Titanic ทำให้ฮอร์เนอร์ได้รับรางวัลออสการ์ทั้งในสาขาดนตรี และเพลงประกอบยอดเยี่ยม โดยรางวัลหลังได้รับจากเพลง My Heart Will Go On ที่เขาแต่งทำนอง วิลล์ เจนนิงส์ แต่งเนื้อร้อง และมีซิลีน ดิออน ร้องนำ

“งานของผม และสิ่งที่ผมถกกับจิมตลอดเวลาก็คือ ต้องมั่นใจว่าทุกๆ เหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนในหนัง คนดูต้องสามารถสัมผัสมันได้ด้วยหัวใจของเขา” ฮอร์เนอร์ว่าไว้ในการให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2009 “ตอนที่เราสูญเสียตัวละคร ตอนที่ใครบางคนประสบชัยชนะ ตอนที่ใครบางคนพ่ายแพ้ ตอนที่ใครบางคนหายไป ทุกช่วงเวลานั้น ผมต้องเกาะติดความรู้สึกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้หัวใจรู้สึกถึงสิ่งเหล่านั้นได้ นี่คือบทบาทหลักของผม”

โดยอัลบั้มซาวนด์แทร็ค Titanic ของเขาสามารถขายได้ถึงกว่า 27 ล้านก็อปปีทั่วโลก

ฮอร์เนอร์ทำงานกับคาเมรอนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งงานที่เขาทำให้กับ Aliens (1986) และ Avatar (2009) ก็ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วยเช่นกัน โดยมีรายงานข่าวว่า ทั้งคู่กำลังทำงานร่วมกันอีกในหนังภาคต่อของ Avatar

คอมโพเซอร์ชาวแอลเอผู้นี้ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มากถึง 10 ครั้ง ขณะที่งานซึ่งเป็นที่จดจำของเขา ก็เป็นงานที่ทำให้กับหนังยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์อย่าง Braveheart (1995) และ A Beautiful Mind (2001) หนังเรื่องสำคัญๆ ที่ทำให้เขาเข้าชิงรางวัลก็อย่าง An American Tail (1986), Field of Dreams (1989), Apollo 13 (1995) และ House of Sand and Fog (2003) นอกจากนี้ยังมีผลงานในหนังดังๆ อีกมากมายเช่น The Lady in Red (1979), Wolfen (1981), Star Trek II: The Wrath of Khan (1982) and Star Trek III: The Search for Spock (1983), Red Heat (1988), Glory (1989), The Rocketeer (1991), Patriot Games (1992), Searching for Bobby Fischer (1993), Jumanji (1995), How the Grinch Stole Christmas (2000), Troy (2004) และ The Amazing Spider-Man (2012).

สำหรับปีนี้ ฮอร์เนอร์จะมีผลงานในภาพยนตร์ถึง 3 เรื่อง ได้แก่ Southpaw หนังชกมวยของเจค กิลเลนฮาลกับราเชล แมคอดัมส์, หนังของผู้กำกับ ฌอง-ฌาคส์ อังโนด์ Wolf Totem และ The 33 หนังดรามาที่สร้างจากเหตุการณ์เมืองถล่มในชิลี เมื่อปี 2010

โดยครอบครัวของฮอร์เนอร์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งครอบครัวบันเทิง เพราะแฮร์รี ฮอร์เนอร์ พ่อของเขาก็เคยคว้ารางวัลออสการ์มาครองถึง 2 ครั้ง จากงานกำกับศิลป์/ ออกแบบฉากจากหนังเรื่อง The Heiress กับ The Hustler

“ผมเป็นคนช่างเลือก” ฮอร์เนอร์กล่าวไว้ในการให้สัมภาษณ์ “ผมไม่ต้องการทำดนตรีในหนังพวกนี้ ซึ่งทุกวันนี้มีคอมโพเซอร์ราวๆ 85-90 คนอยากทำ หนังพวกนี้ทั้งหมดเป็นหนังแอ็คชัน ซึ่งเห็นๆ กันอยู่ว่า ผมไม่ได้รับข้อเสนอให้ทำงานกับทุกเรื่อง แต่ผมก็ได้ดูหนัง และถูกขอให้ทำงานให้ด้วยอยู่หลายเรื่อง ผมรู้ว่าพวกเขาไม่ได้ขอให้ผมทำสิ่งที่เป็นตัวตนของผม พวกเขาขอให้ผมทำอะไรที่เป็นสูตรสำเร็จ และผมก้เป็นพวกขบถหัวแข็งซะด้วยซิ”

สามารถกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่