คิดถึงวิทยา (Teacher’s Diary): เป็นหนังที่หากแยกชิ้นส่วน แตกรายละเอียดออกมา ดูจะเต็มไปด้วยข้อบกพร่องมากมาย ไม่ว่าจะสถานการณ์ในเรื่องที่ทำให้นึกถึงหนังเรื่องนั้นเรื่องนี้มากมาย แล้วความสมจริงของเหตุการณ์ การกระทำหรือพฤติกรรมของตัวละคร ก็ดูหลุดๆ การหาทางออกให้กับเงื่อนปมของหนัง ตัวละครก็มาง่ายๆ ถึงขนาด จู่ๆ ก็มีตัวช่วยโผล่เข้ามาก็มี มุขตลกก็ดูแทบจะเป็นการ์ตูน หนังก็ฟีลกูด ใสจนดูฝันๆ รวมทั้งดูประดิษฐ์จนรู้สึกได้
แต่การเล่าเรื่องได้ดี ก็กลบ หรือทำให้ให้อภัยทุกอย่างจนหมด เรื่องหลักที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ของคนสองคน ที่ผูกพันกันผ่านไดอารีเล่มหนึ่ง ถูกนำเสนออย่างมีเสน่ห์ พาคนดูเกาะติดไปได้ตลอด หนังสร้าง “ความหวัง” ให้กับทั้งตัวละคร และผู้ชม แล้วก็มีความน่ารัก น่าชังจากบรรดาเด็กๆ นักเรียนของโรงเรียนกลางน้ำ กับสอดแทรกปัญหาเรื่องการศึกษาในชนบทลงมาด้วย แม้จะดูบางเบา แต่ก็ทำให้หนังมีอารมณ์ที่หลากหลาย ไม่เลี่ยน
และในโทนเบาๆ หากมองลึก หนังก็มีบางอย่างให้ได้คิด ตีความลงไปอีก การแสดงก็จับคนดูได้อยู่หมัด ไม่ใช่แค่ของสองพระ-นาง สุกฤษฎิ์ และเฌอมาลย์ ที่เคมีเนียนเป๊ะ แต่รวมไปถึงตัวละครรายรอบ โดยเฉพาะเด็กๆ ทั้งหลายที่ทำให้คนดูหลงรักโดยใช้เวลาไม่นาน
ถึงจะคาดเดาถึงบทสรุปได้ไม่ยาก แต่เมื่อฉากสำคัญมาถึงก็ยังรู้สึกได้ถึงพลัง ซึ่งก็ต้องยกนิ้วให้กับการนำเสนอที่ปูและพาคนดูเดินทาง มาถึงจุดสุดท้ายของหนังได้อย่างอบอุ่น ซาบซึ้ง และเดินออกจากโรงไปอย่างประทับใจ
โดย นพปฎล พลศิลป์