เณรกระโดดกำแพง [THE WALL]: งานบอกเล่าเรื่องส่วนตัวของบุญส่ง นาคภู่ ที่กำลังหาเงินทำหนังว่าด้วยเรื่องราวของตัวเองที่ต้องเจอกับปัญหาในเรื่องของเงินทุน และทีมงาน จนไม่น่าจะทำงานออกมาเป็นเรื่องเป็นราวได้ หรือหากทำได้ก็คงต้องปรับเปลี่ยนเพี้ยนไปจากความฝันที่เขาวาดเอาไว้ไม่น้อยเลย จนทำให้เจ้าตัวต้องหันมาตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับการทำงานภาพยนตร์อีกครั้ง
โดยหนังเลือกนำเสนอขนานไปกับชีวิตในช่วงวัยเด็กของเจ้าตัว ที่ไม่ได้เรียนตามระบบการศึกษาทั่วไป แต่เป็นการบวชเรียน ที่ด้วยความรักในภาพยนตร์ทำให้ดูเหมือนเรื่องที่รักกับชีวิตที่ต้องใช้ไปด้วยกันไม่ค่อยได้ ซึ่งก็ไม่ต่างไปจากชีวิตในปัจจุบันที่ต้องเจอกับอุปสรรคจนอาจจะทำให้ทำสิ่งที่รักได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง
ขณะที่ชีวิตในช่วงวัยเติบโตยังมีน้องๆ ที่คอยช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในช่วงที่เป็นสามเณรก็มีพระที่ให้การดูแลและเพื่อนที่ให้ความสนิทสนมด้วยเช่นกัน
หนังเล่าเรื่องได้อย่างอบอุ่น จริงใจ ทุกอย่างดูเป็นธรรมชาติ แล้วก็ดูลื่นไหล มีอารมณ์ขันเบาๆ แทรกใส่เข้ามาเป็นระยะๆ มีฉากน่ารักๆ ให้ได้ยิ้มบางๆ กับความเป็นไปของตัวละคร ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม หากก็ทำให้หนังไม่เครียดขึ้ง เป็นงานที่รื่นรมย์ด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่ตัวเรื่องก็ดูจริงจัง หนักหนาพอสมควร หากก็มีปัญหาอยู่บ้างกับการที่หนังไม่สร้างความแตกต่างระหว่างยุคสมัยได้ไม่ชัดเจนนัก ทำให้อาจจะสับสนในช่วงแรกๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปและจับต้นชนปลายได้แล้ว ก็น่าจะเข้าใจและรับรู้ถึงสิ่งที่หนังกำลังนำเสนอได้ชัดเจนมากขึ้น
แม้ในตอนท้ายหนังอาจจะไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่า ที่สุดแล้วบุญส่งตัดสินใจอย่างไรกับภาพยนตร์พีเรียด ที่มีงบไม่ถึงล้านให้ใช้ แต่หากเข้าใจและรับรู้เรื่องราวของหนังได้จริงๆ ก็คงรู้ว่าบทสรุปของหนังในฝันของ ที่เป็นบันทึกเรื่องราวของตัวเองของบุญส่งนั้น ไปจบลงตรงไหน
ซึ่งน่าจะทำให้ผู้ชมได้เดินยิ้มอย่างมีความสุขกับสิ่งที่บุญส่งตัดสินใจลงไป เพราะอย่างน้อยๆ ไม่ว่าจะไปเจอกับอะไร เณรกระโดดกำแพงได้ฉันใด บุญส่งก็ข้ามผ่านอุปสรรคได้เช่นกัน แต่ข้างหน้าต่อไปเป็นอะไรนั้น หนังเรื่องนี้บอกได้ด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว
โดย นพปฎล พลศิลป์
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่