AFTER EARTH: ถึงจะเป็นงานไซ-ไฟ แต่ประเด็นหลัก หรือหัวใจของเรื่องที่หนังต้องการนำเสนอก็คือ ความสัมพันธ์ของพ่อ-ลูกที่ห่างเหิน ซึ่งเล่นโดยพ่อ-ลูกในชีวิตจริง วิลล์ และจาเดน สมิธ ที่ตัวเรื่องเปิดช่องเอาไว้อ้าซ่า สำหรับการแต่งแต้มสีสันให้กลายเป็นหนังผจญภัย ลุ้นระทึกได้ไม่ยาก แต่หนังกลับใช้ประโยชน์จากประตูที่เปิดกว้างไม่ได้
เมื่อหนังเดินหน้าไปแบบพิรี้พิไร เนิบช้า ไม่สามารถสร้างความตื่นเต้น ระทึกใจอะไรให้กับเรื่องได้ หนังขาดสิ่งที่จะกลายเป็นเซอร์ไพรส์ เป็นงานในแบบหนังตามสูตรที่ผ่านไปไม่นานก็มองเห็นฉากจบรออยู่ข้างหน้าเรียบร้อย
แล้วกับความสัมพันธ์ของตัวละครที่เป็นหัวใจของหนัง ก็เป็นพัฒนาการที่ดูจะไม่มีเหตุ มีผลนัก โดยเฉพาะการทำความเข้าใจผู้เป็นพ่อ ที่มาที่ไปในเรื่องการเรียนรู้ชีวิตของลูกชาย ที่ต้องออกบินเดี่ยวในเหตุการณ์จริงเป็นครั้งแรกในชีวิต
เป็นงานที่มีจุดอ่อนให้เห็นเต็มไปหมด โดยไม่ต้องไปนึกถึงว่าหนังมาทีหลัง Oblivion ที่พูดถึงโลกอนาคตที่เป็นดินแดนถูกทิ้งร้างเหมือนกัน แต่มีเซอร์ไพรส์ ชัดเจนในประเด็นที่ต้องการเล่า แล้วในแง่มุมของคนทำงาน เห็นได้ชัดว่า ผู้กำกับ เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน ที่มือตกเอาๆ แต่ยังได้ทำหนังใหญ่ๆ ไม่ใช่คนที่ทำหนังแอ็คชั่น ที่มีลุ้น มีตื่นเต้นได้ดีนัก
ขณะที่ในส่วนของการแสดง จาเดน สมิธ ยังต้องติวเข้มอีกเยอะ หากจะเล่นบทหนักๆ แบบนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้ “เสียง”
โดย นพปฎล พลศิลป์