Movie ReviewREVIEW

ดูมาแล้ว – ALICE IN BORDERLAND การผสมผสานที่แสนลงตัว

เด็กหนุ่มสามคนที่เป็นเพื่อนกัน อะริสุ (เคนโตะ ยามาซากิ), คารุเบะ (เคอิตะ มาชิดะ) และ โชตะ (ยูกิ มอรินากะ) พบว่าตัวเองอยู่ในโตเกียวที่ไร้ผู้คน แต่ขณะที่กำลังงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาก็กลายเป็นผู้เล่นในเกมที่ต้องเคลียร์ให้ผ่านไม่งั้นต้องตาย ทั้งสามเอาตัวรอดสำเร็จ โดยมีรางวัลเป็นไพ่สามดอกจิก กับวีซาต่อชีวิต และได้ชิบูกิ (อะยะเมะ มิซะกิ) สาวออฟฟิศที่เคยผ่านการเล่นเกมมาแล้ว เข้าร่วมกลุ่มอีกคน

เพราะโชตะบาดเจ็บ อะริสุและคารุเบะจึงเข้าร่วมเกมต่อมาเพียงสองคน เพื่อหาคนที่เป็นหมอมารักษาเพื่อน ปล่อยให้ชิบูกิดูแลโชตะ แม้จะชนะแต่ก็ไม่เจอใคร แถมคารุเบะยังบาดเจ็บเพิ่ม บีบให้ทุกคนต้องเล่นเกมต่อไป แล้วต้องชนะเพื่อชิบูกิและโชตะจะได้ต่อวีซาชีวิต ถ้ารอดตาย

และเกมนี้ก็เปลี่ยนชีวิตและชะตากรรมของพวกเขา ที่นำไปสู่บีช ดินแดนยูโทเปีย ที่มีการจัดองค์กรอย่างเป็นระบบ ดูแลผู้รอดชีวิตให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เล่นเกมแบบมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่เพื่อรอดตาย ซึ่งเป็นเป้าหมายแรกของทุกคน

ซีรีส์ความยาวตอนละราวๆ 45-50 นาที ขนาด 8 ตอนจบเรื่องนี้ แม้จะมีที่มาจากมังงะชื่อเดียวกัน ที่ตีพิมพ์ตอนแรกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2010 แล้วจบลงในเดือนมีนาคม 2016แต่ก็ทำให้นึกถึงหนังเอาตัวรอด หรือ Survival ที่ตัวละครต้องเอาชนะในเกมเพื่อรักษาชีวิต เช่น Battle Royale, The Hunger Games หรือซีรีส์รอดชีวิต ที่ตัวละครเจอวิกฤตในโลกที่ไม่เหมือนเดิม ที่บางครั้งก็ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ อย่าง Lost หรือบางทีก็มีศัตรูที่ชัดเจนอย่าง The Walking Dead และ Van Helsing รวมถึงหนังอย่าง 28 Days Later

ถึงจะพูดได้ไม่เต็มปากว่า เป็นงาน ‘ดั้งเดิม’ หรือ Original แต่ความคลับคลาต่างๆ ก็เรียกได้ชัดๆ ว่า เป็นอิทธิพล ที่นำมาต่อยอด-ผสมผสาน จนเรื่องราวมีบรรยากาศ มีลักษณะเฉพาะ ที่แตกต่าง แล้วก็มีการสร้างตัวละครที่โดดเด่นเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ ที่ต่างมีความชัดเจนในตัวเอง ไม่ถูกกลืนหายไปในตัวละครกลุ่มใหญ่ มีปูมหลัง มีความลึก ที่ยังเป็นตัวแทนคนกลุ่มต่างๆ ในสังคมได้ เช่น สามหนุ่มอะริสุ, คารุเบะ และโชตะ ก็คือเด็กหนุ่มที่ใช้ชีวิตแบบเลื่อนลอย คนหนึ่งไม่รู้ว่าจะทำอะไรกับชีวิต อีกคนอาจมีความฝันแต่ก็ยากจะไปถึง คนสุดท้ายก็ทำเพื่อคนอื่นจนไม่เหลือเวลาให้ตัวเอง ขณะที่ชิบุกิ ก็คือคนที่ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย

บางราย อย่าง คนขายหมวก (โนบุอะกิ คาเนโกะ) ผู้นำของบีช กับหัวหน้ากองกำลังติดอาวุธของบีช (โช อะโอยะกิ) ก็ซับซ้อนอีกชั้น เมื่อต่างมีวาระซ่อนเร้นที่ส่งผลต่อตัวละครอื่นๆ และความเป็นมาของคุอินะ (อายะ อาซะฮินะ) ก็กลายเป็นเรื่องสุดเซอร์ไพรส์

ความเป็นมาของตัวละครที่ใส่เข้ามา ยังช่วยให้การกระทำของพวกเขามีความหนักแน่น อาทิ ความเก่งกาจของอุซากิ (ทาโอะ ทสุชิยะ), การแก้ไขปัญหาในเกมของคนที่เป็นเซียนเกมแบบอะริสุ, ความเชี่ยวชาญของอัน (อายะกะ มิโยชิ) ก็มีเรื่องหน้าที่การงานก่อนหน้าเกิดเหตุการณ์รองรับ หรือคุอินะที่จู่ๆ ก็ไม่ได้เก่งกล้าสามารถขึ้นมาเฉยๆ

กับคนที่ยังไม่มีที่มาที่ไปชัดเจน เช่น ชิชิยะ (นิจิโระ มุระคะมิ) ก็ถูกสร้างเป็นตัวละครลึกลับ น่าติดตาม น่าค้นหา ที่ยกกำลังด้วยภาพลักษณ์และการกระทำ ที่ต้องให้เครดิตกับมุระคะมิด้วย ที่ทำให้ตัวละครรายนี้มีความโดดเด่นอย่างที่เป็น

ส่วนใครที่สงสัยว่า แล้วเกี่ยวอะไรกับอลิซ นั่นก็เพราะคำนี้ถ้าอ่านแบบญี่ปุ่น จะออกเสียงว่า อะลิซุ ที่พ้องกับชื่อตัวเอกของเรื่องพอดี

ไม่ใช่แค่คน การดีไซน์เกม และผลลัพธ์ที่ตัวละครได้รับหากชนะเกมได้ ก็มีไอเดีย มีลูกเล่น เมื่อรูปแบบของเกมจะแตกต่างกันไปตามหน้าไพ่ที่เป็นรางวัล

ตัวละครก็มีพัฒนาการ อย่าง อะริสุที่ชีิวิตดูว่าเปล่า ก็มีจุดมุ่งหมายหลังเจอการสูญเสียครั้งสำคัญ ความสัมพันธ์กับอุซะกิก็แน่นแฟ้นเรื่อยๆ ตัวเรื่องก็เช่นเดียวกัน จากการแก้ปัญหาระหว่างเกมและในชีวิตไปทีละเปลาะๆ ของครึ่งแรก เรื่องราวครึ่งหลังยกระดับความเข้มข้น และขยายวงไปเป็นเรื่องการช่วงชิงอำนาจ การใช้ชีวิตร่วมกันของคนกลุ่มใหญ่ ที่บางคนไม่ใช่ขอแค่อยู่อย่างมีความสุข ชนะเกมไปเรื่อยๆ เพื่อต่อวีซาชีวิต หากยังมีแผนการในใจ เมื่อ (เหมือนจะ) รู้ว่า ‘เป้าหมาย’ ของเกมที่คืออะไร? และหากทำได้รางวัลตอบแทนคืออะไร? กลายเป็นการเติมความซับซ้อนให้กับเรื่อง เพิ่มความเข้มข้นไปตามเลขตอน

ความสนุกก็ครบอารมณ์ มีตื่นเต้น, มีระทึกขวัญ, มีเศร้า, มีซึ้ง, มีสะเทือนใจ ใส่ความเซ็กซีเป็นอาหารตา การวางปมต่างๆ น่าติดตาม มีเรื่องหักมุมให้เซอร์ไพรส์เป็นระยะ แถมยังจัดการตัวละครแบบไม่ไว้หน้า มีไม่กี่รายหรอกที่ได้รับการยกเว้น จนไม่รู้เลยว่า คนที่น่าจะอยู่จะได้ไปต่อหรือเปล่า

งานโปรดัคชันเนี้ยบ ทั้งงานด้านภาพ ดนตรีประกอบ และการออกแบบงานสร้างต่างๆ

แม้จะจบแบบคลี่คลายปมบางอย่างให้เบาใจได้บ้าง แต่ก็มีเรื่องใหม่ๆ ถูกใส่เข้ามาให้ค้างคาใจ ปริศนาสำคัญก็ยังอยู่ ที่พอบวกกับความบันเทิงในฤดูฉายแรก ซึ่งเชื่อว่าผู้ชมส่วนใหญ่น่าจะชมกันรวดเดียวจบ หรือเว้นวรรคพักไม่นานเกิน 24 ชั่วโมง การรอคอยเรื่องราวต่อไป มันยาวนานเหลือเกิน
[ALICE IN BORDERLAND ชมได้ทางเน็ทฟลิกซ์]

โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ชำแหละแผ่นฟิล์ม นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1319 ปักษ์แรก มกราคม 2564

What is your reaction?

Excited
0
Happy
1
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:Movie Review

Comments are closed.