มาถึงตอนนี้ ต้องบอกว่า หนังชุด ‘Fast & Furious’ นั้น มาไกลจากจุดเริ่มต้น หนังแอ็กชั่นอาชญากรรม แก๊งรถซิ่งรับขนของข้ามแดน ที่ทางการส่งสายสืบไปแทรกซึม แต่ไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นพี่เป็นน้องกับตัวแสบหัวหน้าแก๊ง มหาศาล
หนังภาคที่ 9 (หรือเรื่องที่ 10) ในชุด แก๊งรถซิ่งก๊วนนี้ ซึ่งกลายเป็นทีมพิเศษของทางการในการจัดการกับบรรดาผู้ก่อการร้ายตัวเจ็บ ที่มีเป้าหมายครองโลก หรืออย่างน้อยที่สุดข่มขู่ผู้คนบนโลกใบนี้ มาได้ 2-3 ภาคแล้ว จะเจอกับผู้ร้ายรายใหม่ในภารกิจคล้าย ๆ เดิม ที่เพิ่มเติมก็คือหนนี้ ตัวเจ็บรายที่ว่า ไม่ใช่ใครอื่น เจค็อบ (จอห์น ซีนา) น้องชายของโดมินิก ทอเร็ตโต (วิน ดีเซล)
ซึ่งน่าแปลกใจไม่น้อยที่คนอย่างดอม ผู้ยึดมั่น เชื่อมั่น ในเรื่องของ ‘ครอบครัว’ หนักหนา กลับไม่เคยหลุดเรื่องน้องชายออกมาเลย แล้วก็ต้องรวมไปถึงมีอา (จอร์ดานา บริวสเตอร์) น้องสาวของทั้งคู่ด้วย ทำให้ตัวละครรายนี้ ไม่ใช่แค่จู่ ๆ ก็โผล่มา แต่เป็นจู่ ๆ ก็ยัดเข้ามา เพื่อให้มีเรื่องราว มีตัวละครรายใหม่ที่ ‘น่าสนใจ’ โดยไม่สนความสมเหตุสมผลของตัวละครหรือเรื่อง หากมองในมุมบวก บทก็พยายามสร้างปม สร้างประเด็นให้กับตัวละคร ว่าเพราะอะไรทำไม ดอมถึงไม่เคยมองเห็นน้องชายมีตัวตน หรือพูดถึง แต่ในเวลาเดียวกัน หนังก็ดันวางปูมหลังตัวละครรายนี้เอาไว้ด้วยว่า พยายามจะหลุดจากเงาของพี่ชาย แต่ 8 ภาคที่ผ่านมา ไม่มีชื่อของเขาโผล่แผลมออกมาให้ได้ยินเลย
เมื่อรวมเข้ากับการกลับมาของตัวละครที่ ใคร ๆ ก็คิดว่า ‘ตาย’ ไปแล้ว อย่าง เล็ตตี้ (มิเชลล์ ร็อดริเกวซ) ในภาคก่อน ๆ หน้า และฮาน (ซุงกัง) ในภาคนี้
มันก็มาถึงจุดที่ว่า จะใส่ใครเข้ามา จะปลุกใครฟื้น จะทำให้ใครตื่นจากความตาย ก็ตามสบายเถอะ…
เพราะที่สุดแล้ว หนังก็จะพยายามหาเหตุผลในแบบที่เจ็บสีข้างแสบ ๆ มาอธิบาย อย่าง ในภาคนี้เรื่องราวก็กลายเป็นว่า มร. โนบอดี (เคิร์ต รัสเซลล์) ที่เพิ่งโผล่มามีบทบาทในภาคหลัง ๆ จริง ๆ แล้วมีส่วนร่วมกับเรื่องราวของหนังชุดนี้มาตั้งนานนม และฮานก็ไม่ใช่คนในแก๊งมาเฟียธรรมดา ๆ แต่เป็นส่วนหนึ่งในหน่วยของโนบอดีมานานแล้ว…
ด้วยเหตุนี้ หากเป็นตัวละครที่ผู้ชมรัก หรืออยากเห็น ต่อให้ตายไปแล้วในเรื่อง ก็มีโอกาสที่จะกลับมาเสมอ ซึ่งกับการที่หนังเหลืออีกภาคเดียวให้ได้ชม ตัวละครของกัล กาด็อต ถ้ากลับมาก็ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ ตัวร้ายอย่างลูค วิลสันจะยังไม่ตายก็คงไม่น่าแปลกใจ
อาจจะยกเว้นแค่ตัวละครของดเวย์น จอห์นสัน ที่มีข่าวว่ากินเกาเหลากับดีเซลในกองถ่าย
ตายยับเยิน หรือเละเทะขนาดไหน ถ้าขายได้ ผู้ซื้อ ทุกคนพร้อมกลับมา
อีกอย่างที่หนังขาย และผู้ชม (ที่อาจจะเป็นส่วนใหญ่ เมื่อดูจากรายได้) ต้องการ ก็คือ ความมันส์จากฉากแอ็กชั่น ที่นอกจากจะมาเยอะ ว่ากันยาว ๆ แล้ว ยังต้องใหญ่ขึ้น โตกว่าเดิม แถมไม่สนใจเรื่องความสมจริงของเหตุการณ์ ผู้ชมจึงได้เห็นตัวละครในหนังชุดนี้ทำอะไรที่เหนือมนุษย์ ในแบบที่มีพลังพิเศษในตัวยิ่งกว่า ซูเปอร์ฮีโรอย่าง แอร์โรว์, แบล็กวิโดว์ หรือว่าฮอว์กอาย กระทั่งมนุษย์ค้างคาว ด้วยซ้ำ เช่น เปลี่ยนทิศทางของตอร์ปีโดด้วยมือ หรือกระโดดพุ่งตัวจากที่ต่ำไปยังที่สูง รวมทั้งใช้อุปกรณ์ไฮเทกสุดล้ำ ที่สามารถใช้งานได้ด้วยการติดตั้งในรถทั่ว ๆ ไป รวมถึงใส่ชุดแบบปกติธรรมดาขับรถซิ่งบนผืนน้ำแข็งในขั้วโลก อะไรทำนองนั้น
ที่หากเปลี่ยนมาใส่ชุดรัดรูป สีสันจี๊ดจ๊าด แก๊งของดอม ก็คือซูเปอร์ฮีโรดี ๆ นี่เอง
ด้วยดีกรีที่ต้องหนักกว่า แรงกว่า ที่เคยเป็นมาในภาคก่อน ๆ หนังเลยจัดฉาก ‘โม้ ๆ’ ใส่เข้ามาเต็มที่ ตั้งแต่ฉากเปิดที่ตัวละครขับรถไต่ไปบนสะพานเชือกที่กำลังขาด การใช้แม่เหล็กจัดการกับฝ่ายตรงข้าม ที่บางทีคนอื่น ๆ ก็เจอผลกระทบ บางหนก็ไม่มีซะอย่างนั้น
รวมไปถึงฉากไล่ล่ากลางเมือง ที่สร้างความวินาศสันตะโรได้พอ ๆ กับที่อัลตรอนทำให้เกิดขึ้นในหนัง ‘Avengers’ หรือสเต็พเพ็นวูล์ฟจัดให้ใน ‘Justice League’
แน่นอนว่า ในแง่ความสุดขีดจินตนาการ หนังไป ‘สุดทาง’ จริง และด้วยทัศนคติแบบนี้ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่พาหนังอาชญากรรมว่าด้วยแก๊งรถซิ่ง เปลี่ยนเป็นหนัง ‘ฉก’ แล้วก็กลายมาเป็นหนังสายลับ ขบวนการอย่างที่เห็น โดยนอกจากฉากซิ่งที่ยังเป็นของต้องมีในหนัง อีกอย่างเดียวที่ไม่เปลี่ยนไปไหน ก็คือคอนเซ็ปต์ที่ว่าด้วย ‘ครอบครัว’
หากไม่เชื่อว่าหนังมาไกลจากจุดเริ่มต้นจริง ๆ คำตอบอยู่ที่ ตัวละครใช้รถซึ่งโมมาประมาณหนึ่ง ติดจรวด แล้วสวมชุดดำน้ำโบราณ ขึ้นไปปฏิบัติภารกิจ ‘นอก’ โลก โดยคนที่จัดการเรื่องนี้ก็คือ ตัวละครจากหนังเรื่องที่สาม ‘Fast & Furious: Tokyo Drift’ อดีตเด็กดริฟต์ในโตเกียว ที่กลายเป็นเด็กเนิร์ดในระดับที่นักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์คิดค้นของนาซาต้อง ‘อาย’
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ชำแหละแผ่นฟิล์ม นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1339 ปักษ์แรกพฤศจิกายน 2564
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่