Movie ReviewREVIEW

ดูมาแล้ว Jason Bourne ความมันส์สะเด็ดสะเด่าส์ ในความซ้ำซากของบท และพล็อต

jason_bourne_ver5JASON BOURNE: กลับมาแบบแพ็คคู่ทั้งผู้กำกับ พอล กรีนกราสส์ และนักแสดงแม็ทท์ เดมอน ที่แท็คทีมกันทำหนังเจสัน บอร์น ร่วมกันอีก กลายเป็นหนังบอร์นเรื่องที่สามของทั้งสองคน และเป็นหนังเรื่องที่ห้าในชุด

หนังให้บอร์นที่รับรู้ตัวตนของเขาแล้วว่าเป็น เดวิด เว็บบ์ ลูกชายของนักวิเคราะห์ของซีไอเอ ที่สมัครเข้าโครงการเทรดสโตน ซึ่งปฏิบัติการตามล่าหาความจริงของเขา นอกจากจะทำให้โครงการเทรดสโตนถูกเปิดโปง ก็ยังพังโครงการแบล็คไบรอาร์ไปพร้อมๆ กัน มาทำมาหากินเป็นนักชกใต้ดิน หาเลี้ยงตัวเองไปวันๆ แต่เขาก็ถูกกลับมาอยู่ในเกมอีกครั้ง เมื่อนิกกี พาร์สัน (น้องจูเลีย สไตล์ส ที่ความแก่ในวันนี้ แซงพี่เดมอนไปเรียบร้อยแล้ว) อดีตซีไอเอแฮ็คดึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับปฏิบัติการลับของซีไอเอมาได้ และทำให้ได้รู้ว่าพวกเขากำลังดำเนินโครงการใหม่ที่ชื่อว่า ไอออน แฮนด์ รวมไปถึงข้อมูลตัวตนของบอร์น ที่ย้อนไปไกลกว่าแค่ที่เขารู้

ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็ไม่ต่างไปจากการรีเซ็ทเรื่องใหม่ ให้บอร์นกลับไปอยู่ที่จุดเดิม ต้องสืบหา สืบค้นอะไรกันอีก และที่สำคัญ ดันไปเจอเข้ากับโครงการลับด้านมืดโครงการใหม่ของซีไอเออีกต่างหาก ซึ่งจะว่าไปแล้วทุกสิ่งอย่างมันมีน้ำหนักมากพอหรือเปล่ากับการให้บอร์นกลับเข้ามาสู่เกมอีกครั้ง!!!? ในแบบที่จำความได้

แม้หนังจะกระตุ้นด้วยการจากไปของคนที่ยืนอยู่ฝั่งเขาอีกคนก็ตามที

เห็นได้ชัดว่าหนังมีปัญหาในเรื่องของพล็อต ที่ราวกับเป็นการรีไซเคิล ตัวบทก็ดูยวบยาบไปเยอะในเรื่องของการวางแผนซับซ้อนซ่อนเงื่อน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดหน้าตัวละครบางคนที่เล่นบทตีสองหน้าซะตั้งแต่กลางเรื่อง ทำให้บทสรุปตอนท้าย ไม่ได้พีค หรือเป็นจุดหักมุมที่ ‘ว้าว!’ แต่ประการใด ไหนจะคู่ปรับของบอร์นที่ดันไปมีคดีกันแต่ปางหนไหน ซึ่งบางทีก็ดูเป็นเรื่องบังเอิญเกินไป ขณะที่ปมในเรื่องของพ่อที่จากไป ในเมื่อเทรดสโตนก็ถูกล้ม คนในโครงการก็แทบไม่เหลือใคร จำเป็นไหมที่เขาต้องกลับมา

บทดูสับสนจนกระทั่งว่า ในตอนหนึ่งบอกว่า บอร์นไปพบกับพ่อ เพื่อบอกเรื่องเข้าเทรดสโตน แต่อีกตอนหนึ่งกลับบอกว่า เขาเข้าเทรดสโตนเพราะการตายของพ่อ ตกลง… เอายังไง…

แต่ในขณะที่เรื่องและบท เต็มไปด้วยปัญหาคาใจ ฉากแอ็คชันของหนังยังคงเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้หนังเป็นงานที่ดูสนุกมันส์ กรีนกราสส์ทำให้ Jason Bourne เป็นเหมือนหนังที่มีฉากแอ็คชันเพียงหนึ่งฉาก แต่ลากยาวตั้งแต่ต้นเรื่องไปจนจบ นั่นหมายความว่า ทันทีที่หนังเริ่มต้น ผู้ชมก็จะได้วิ่งไปพร้อมกับบอร์น หนังมีฉากใหญ่ๆ ให้เกาะตาอยู่กับจอ อย่างฉากไล่ล่าที่กรีซ รวมไปถึงฉากแอ็คชัในตอนท้ายที่ลาส เวกัส ที่ทำเอาหนัง Fast & Furious กลายเป็นหนังการ์ตูนไปในทันที

การใช้กล้องแบบแฮนด์เฮลด์ ทำให้ฉากต่างๆ เหล่านี้ดูสมจริง เข้มข้นมากขึ้น ตื่นเต้นมากขึ้น รวมไปถึงในฉากธรรมดาๆ ก็ทำให้หนังออกมาในอารมณ์แบบหนังสารคดีแอบถ่าย…

แม็ทท์ เดมอน แสดงให้เห็นว่า ถ้าเป็นหนังบอร์น ต้องมีเจสัน บอร์น ทีแปลว่าต้องมีเขา แต่คนที่ได้ใจ และได้หนังไปทั้งเรื่องกลับเป็นอลิเซีย วิแคนเดอร์ อีน้องน่ารัก สวย น่าทะนุถนอม และร้ายกาจได้อย่างสุดๆ ได้ไม่ต้องทำหน้าตาบึ้งตึง ถลึงตา และพูดจาด้วยเสียงสูงๆ แบบละครไทย (เอ่อ… มันเกี่ยวกันไหม)

และทำให้การได้เห็นเธอบนจอ กับฉากแอ็คชันสองฉาก ก็ถือว่าคุ้มค่า และทำให้ลืมๆ บาดแผลของบท พล็อต ของหนังที่พังกว่าหนังบอร์น กรีนกราสส์-เดมอน เรื่องก่อนๆ หน้าได้บ้างในระดับหนึ่ง

ควรชมหากชอบ: หนังชุด Jason Bourne และ Green Zone

โดย นพปฎล พลศิลป์

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านงานวิจารณ์หนัง และเพลง แบบนี้ ได้ด้วยการกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์กันไว้ก่อน ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:Movie Review

Comments are closed.