JOBS: เพราะความเป็นสตีฟ จ็อบส์ ทำให้หนังเรื่องนี้ที่เป็นหนังอินดี้ทุนสร้าง 15 ล้านเหรียญ กลายเป็นจุดสนใจขึ้นมาในทันที โดยเฉพาะกับการที่หนังประกาศสร้างหลังการจากไปของสตีฟ จ็อบส์ได้ไม่นาน
แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว หนังดูจะมีปัญหาอยู่หลายอย่าง โดยเฉพาะ “บท” ที่ไม่ได้โฟกัสตรงไหนจริงๆ จังๆ ชีวิตส่วนตัวก็มาแบบผิวๆ เราไม่ได้รู้เลยว่าการคลี่คลายจากผู้ชายไม่รับผิดชอบกลายเป็น “พ่อ” มีจุดเปลี่ยนจากตรงไหน เรื่องหน้าที่การงาน ก็ไม่ได้เห็นถึงความแรงขับในการสร้างงาน หรือความเขี้ยวในการดำเนินธุรกิจที่ ที่ร้ายที่สุดก็คือ จ็อบส์ดูมีแต่แง่มุมร้ายๆ จนไม่รู้สึกว่า ทำไมบรรดาพนักงานในเรื่องถึงอยากทำงานกับคนที่เอาแต่ใจ ดื้อ ปากร้ายคนนี้ รวมทั้งมองไม่เห็นศักยภาพในเรื่องการบริหารองค์กร หรือดำเนินธุรกิจ จนบอร์ดถึงกัยต้องดึงเขากลับมาทำงานอีกครั้ง
ที่น่าตลกก็คือ หนังเปิดด้วยฉากเปิดตัวไอพ็อด ที่เปลี่ยนทั้งโลก ทั้งบริษัทแอปเปิล แต่ แทนที่จะมาบรรจบวัฏจักรในการเล่าเรื่องที่นี่ กลับกลายหลงทิศ หลงทางไปไหนต่อไหน ไม่รู้ ตัวเรื่องเองก็ไม่มีพีค หรือความน่าตื่นเต้นในแบบหนัง Feature Film เลยด้วยซ้ำ บทจะจบ ก็จบซะ…
ไม่แปลกที่หนังดูเป็นงานกึ่งสารคดีไฮไลท์ชีวิต สตีฟ จ็อบส์มากกว่า จะนำเสนอ หรือวิเคราะห์ ด้านใด ด้านหนึ่งของจ็อบส์ให้รู้จักมากขึ้น
จนรู้สึกเสียดายบรรดานักแสดงที่เล่นกันแบบมาเต็ม โดยเฉพาะ เดอร์มอท มัลโรนีย์ กับ แมทธิว โมไดน์ ที่เล่นได้ลึก และมีมิติมากๆ ขณะที่จอช แกดด์ กับบทวอซเนียคก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม กับแอชตัน คุทเชอร์ ก็ไม่ได้แย่ แต่ก็เห็นถึงความ “พยายาม” และ “ตั้งใจ” จนการแสดงไม่เป็นธรรมชาติอยู่หลายต่อหลายครั้ง
คิดซะว่าไปดูหนังกึ่งสารคดีที่ฉายกันในช่องดิสคัฟเวอรี่ บนจอใหญ่ก็แล้วกัน
โดย นพปฎล พลศิลป์