RIO 2: เป็นอีกครั้งที่บลู นกมาคอว์สีฟ้าเลี้ยง ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เมื่อออกเดินทางพร้อมกับเพื่อนๆ และครอบครัว เข้าไปตามหานกมาคอว์สีฟ้าในป่าอะเมซอน ที่ลินดากับทูลิโอที่ดูแลบลูกับฌูว์ล ไปพบเข้า
แต่การเป็นปลาแปลกน้ำของบลูในหนนี้ กลับมีเสน่ห์ได้ไม่เท่ากับหนแรก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนี่คือสถานการณ์ที่เจอกันซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าในแอนิเมชันว่าด้วยสิงสาราสัตว์ทั้งหลาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวเรื่องที่พยายามจะเอื้อความเป็นหนังครอบครัว เน้นความอบอุ่น จนตัวเรื่องนุ่มขาดสีสันจัดจ้านแบบที่ภาพนำเสนอไป ส่วนหนึ่งเพราะหนังพยายามใส่เรื่องการอนุรักษ์เข้ามา ในแบบที่ทั้งผสมไม่กลมกลืน แล้วยังทำให้หนังเสียจังหวะในการเล่าเรื่อง และที่สำคัญที่สุด หนังดูจะขาดลูกบ้าไปเยอะ
แล้วก็ใช้ตัวละครมาสร้างความบันเทิงได้ไม่คุ้มค่านัก อย่าง ไนเจล นกกระตั้วจอมแสบ กับกบพิษ ที่ปล่อยมุขอย่างได้ผลทุกครั้ง ก็ไม่ถูกใช้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว มาๆ หายๆ
รวมไปถึงพยายามขาย… จนเกินความจำเป็น เช่น ฉากนกแข่งฟุตบอล ที่นอกจากจะยกทิ้งได้ทั้งฉาก ก็ยังตัดเรื่องนกมาคอว์สีแดงออกไปได้ทั้งยวงเลยด้วยซ้ำ
ยังดีที่หนังมาพร้อมกับเสน่ห์ด้านภาพ ที่เล่นสี เล่นสันได้จับตา กับมาพร้อมเพลงเพราะๆ เต็มไปหมด ในแบบงานแอนิเมชัน มิวสิคัล ที่เห็นกันโต้งๆ ว่า ฉากระบำรำฟ้อนทั้งหลายนั้น ได้รับอิทธิพลของแอนิเมชัน ดิสนีย์ ในอดีตมาเต็มๆ
Rio 2 ก็เลยอยู่ในสภาพทรงๆ ไม่ได้แย่ แต่อย่าไปคิดว่าจะทาบติดที่ภาคแรกทำไว้
โดย นพปฎล พลศิลป์