ซีรีส์ฮิตอีกเรื่อง ที่ออกอากาศทางโทรทัศน์กันมาตั้งแต่ปี 2013 และได้รับความนิยมจนสร้างต่อมาถึงซีซันที่ 4 กัน ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตัวซีรีส์เป็นการสร้างสรรค์ของ จอน โบเคนแคมป์ ที่เคยเขียนบทหนังใหญ่อย่าง The Call หนังแอ็คชัน สุดระทึก ที่ฮัลลี เบอร์รีเล่นเป็นโอเปอเรเตอร์ 911 และได้รับโทรศัพท์จากเด็กสาวที่ถูกลักพาตัวโดยฆาตกรฆ่าต่อเนื่อง งานนี้เธอจะต้องหาทางเด็กสาวคนนี้ให้ได้ แล้วก็ Taking Live หนังระทึกขวัญอีกเหมือนกัน ของแองเจลินา โจลี และอีธาน ฮอว์ค
จากหนังใหญ่ทั้งสองเรื่อง ในแง่ของความสนุกสนานตื่นเต้น ถือว่าใช้ได้
โดยบางตอนของซีรีส์ ก็เป็นผลงานการกำกับของ โจ คาร์นาแฮน ที่กำกับหนังใหญ่อย่าง Smokin’s Aces, The A-Team และ The Grey มาแล้ว ซึ่งยังควบตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหารของซีรีส์ด้วย
The Blacklist เป็นเรื่องของ เรย์มอนด์ ‘เรด เรดดิงตัน อดีตทหารเรือที่กลายเป็นอาชญากรคนสำคัญ ที่ถูกทางการตามล่ามานานนับทศวรรษ แต่แล้วจู่ๆ ก็มามอบตัวกับเอฟบีไอ พร้อมยื่นข้อเสนอว่าจะให้ข้อมูลพวกวายร้ายตัวแสบทั้งหลาย ที่เขารวบรวมเอาไว้กับทางเอฟบีไอ โดยแลกกับสิทธิในการไปไหนมาไหน และเขาต้องทำงานผ่านเอฟบีไอสาวหน้าใหม่ เอลิซาเบ็ธ คีน เท่านั้น
เรื่องจะเกาะติดไปกับปฏิบัติการ ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างอาชญากรตัวแสบและทีมงานของเอฟบีไอ แต่ก็เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะหนังจะมีโครงเรื่องยาวๆ ที่เล่นได้นานๆ มาครอบอีกที ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหลังสามีของแคเธอรีน ความสัมพันธ์ของเธอกับเรด รวมไปถึงผู้คนในเอฟบีไอ และสาเหตุที่เรดตัดสินใจทำแบบนี้
ในช่วงแรกๆ ซีรีส์ดูค่อนข้างน่าเบื่อ เพราะไม่ต่างไปจากหนังสืบสวนสอบสวนที่เล่นกันเป็นตอนๆ แถมตัวเรดยังเก่งเว่อวัง ชนิดที่ว่าไม่น่าจะมามอบตัวกับเอฟบีไอไปเพื่ออะไร แต่พอผ่านครึ่งซีซันไปแล้ว มีสถานการณ์ที่ทำให้เรด หลุดจากการควบคุมของเอฟบีไอ หนังสนุกขึ้นมาได้ และกลายเป็นน่าติดตามไปในที่สุด แถมตอนจบของซีซันแรกก็ยังแสดงให้เห็นว่าเพราะอะไร ทำไม ต้องเป็นอาชญากรเหล่านี้ ที่ถูกตามตัวหรือต้องออกมาในที่แจ้ง รวมไปถึงความเกี่ยวพันของพวกมันกับเรด ก็ถือว่าเป็นจุดหักมุมที่ใช้ได้ทีเดียว
ทำให้หนังพ้นการเป็นซีรีส์อาชญากรรมว่ากันเป็นตอนๆ เป็นซีรีส์ยาวๆ ที่มีเส้นเรื่องสำคัญต่อเนื่อง เชื่อมโยงกัน รวมถึงมีความน่าติดตาม มีความโดดเด่นขึ้นมา
แต่ที่โดดเด่นเป็นพิเศษสำหรับซีรีส์เรื่องนี้ตั้งแต่ต้น ก็คือ การแสดงของเจมส์ สเปเดอร์ ที่เล่นเป็นเรดได้อย่างมีเสน่ห์ และเป็นทุกอย่างของซีรีส์เรื่องนี้ก็ว่าได้ โดยเฉพาะช่วงแรกๆ ที่เรื่องดูซ้ำๆ ซากๆ การแสดงที่ครบเครื่องของสเปเดอร์พอจะเป็นความดีงามให้ติดตามไปจนถึงช่วงเวลาสำคัญ ที่หนังพลิกมาได้ใจสำเร็จ
ตัวดีวีดีของ The Blacklist ซีซันแรก ทำมาแบบเดียวกับซีรีส์ทั่วๆ ไป เป็นบ็อกซ์ เซ็ท มีแจ็คเก็ทหุ้มกล่องพลาสติคใส ที่ต้องบอกว่าโคตรแน่น เอาแจ็คเก็ทออกไม่ง่ายเลย แผ่นมีทั้งหมด 6 แผ่น บรรจุซีรีส์ 22 ตอน ตัวภาพเป็นไวด์สกรีน และไม่มีพากย์ไทย แต่ไม่ได้มีแค่ตัวหนังให้ชม ยังมีเนื้อหาพิเศษติดมาด้วย
ในแผ่นแรก นอกจากหนังตอนแรกไปถึงตอนที่ 4 ตัวเนื้อหาพิเศษจะมี ความเห็นของผู้สร้างสรรค์ โบเคนแคมป์, ผู้กำกับ คาร์นาแฮน และ จอห์น ไอเซนแดร็ธ ผู้อำนวยการสร้าง ที่เผยเกร็ดเล็ก-เกร็ดน้อยในการทำงานเพียบ อย่าง เครื่องแต่งกายของเรดในฉากการปรากฏตัวครั้งแรก ก็เป็นไอเดียของสเปเดอร์ เหมือนการให้ตัวละครคุกเข่ากลางโถงในสำนักงานเอฟบีไอ แล้วก็มี Beyond The Blacklist ที่เป็นการสรุปเรื่องราวของแต่ละตอนในแผ่นให้ดูกัน ซึ่งไม่เหมาะอย่างแรงที่จะชมก่อนดูตัวหนังจริงๆ แต่ถ้าชมแล้วค่อยมาดูเนื้อหาพิเศษในส่วนนี้ ก็น่าจะเข้าใจ และติดตามเรื่องได้สนุกมากขึ้น นอกจากนี้ยังสอดแทรกเรื่องราวของการทำงานเบื้องหลังเข้ามาด้วย เช่น การคัดเลือกนักแสดงมารับบท การเขียนบท การกำกับในบางฉาก โดย Beyond The Blacklist จะเป็นเนื้อหาพิเศษที่มีให้ชมทุกตอน ตามที่อยู่ในแต่ละแผ่น
แผ่นที่สอง เนื้อหาพิเศษนอกจาก Beyond The Blacklist ก็คือ The Insider: Behind the Scenes of Season 1 หรือเบื้องหลังการทำงานของซีรีส์ในปีแรก ที่จะเก็บความเป็นมาของซีรีส์มานำเสนอในแบบ ถ้าไม่ครบก็เกือบครบ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกนักแสดง การวางเรื่อง การสร้างลักษณะของตัวละคร สำหรับตัวเรื่องในแผ่นนี้ก็มี 4 ตอนเช่นเดียวกับแผ่นแรก
แผ่นที่สาม จะมีตอน Anslo Garrick ที่เป็นจุดเปลี่ยนของซีรีส์ที่มีถึง 2 ตอนให้ชม ใครที่รู้สึกเลี่ยนๆ กับซีรีส์ยังไงๆ พยายามมาให้ถึงตอนนี้ให้ได้ เพราะหลังจากนี้จะติดหนึบกันขึ้นมาทีเดียว ส่วนเนื้อหาพิเศษนอกจากภาคบังคับอย่าง Beyond The Blacklist ก็จะมีความเห็นของทีมงานให้ฟังได้ขณะชม Anslo Garrick ตอนแรก
แผ่นที่สี่ กับแผ่นที่ห้า ตัวหนังในแผ่นยังคงมีให้ชมกัน 4 ตอน โดยทุกตอนพ่วงเนื้อหาพิเศษ Beyond The Blacklist มาให้ครบ ไม่มีอะไรเพิ่มเติมนอกจากนี้
ปิดท้ายกันที่แผ่นที่ 6 ซึ่งจะมีหนังเพียงแค่ 3 ตอน ส่วนเนื้อหาพิเศษนอกจาก Beyond The Blacklist ก็จะเป็นความเห็นของทีมงาน ซึ่งเปิดฟังได้ในตอนสุดท้าย Berlin: Conclusion
ตัวหนัง ก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้น อาจจะใช้เวลาอุ่นเครื่องนานหน่อย กว่าจะติด แต่พอติดแล้ว ก็งานสนุกเลย โดยเฉพาะตัวเรื่องยาวที่หนังวางเอาไว้ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ ‘ติด’ ซีรีส์เรื่องนี้ ส่วนปฏิบัติการในแต่ละตอน ก็ถือเป็นความหลากหลายเป็นสีสัน เพิ่มเติมนิดสำหรับเนื้อหาพิเศษที่ใส่เข้ามา มีบรรยายไทยให้ครบไม่ต้องกลัวว่าจะดูไม่รู้เรื่อง 😀
สรุป: สนุกใช้ได้
THE BLACKLIST: THE COMPLETE FIRST SEASON (เดอะแบล็คลิสท์: บัญชีดำล้างอาชญากร ปี 1) DVD ZONE: 3 GENRE: Series, Drama, Action, Thriller RELEASED: 25/08/2014 DISTRIBUTOR: United DISCS: 6 Discs LENGTH: 940 Mins COVER PRICE: 1,199 Baht RATE: น18+
PICTURE: Anamorphic Widescreen 1.78:1 LANGUAGE : 5.1 – English, Portuguese, Spanish SUBTITLES: English, Portuguese, Spanish, Chinese, Korean, Thai
SPECIAL FEATURES: 1. Executive Producer Commentary on the Pilot episode, “Anslo Garrick Part 1” and “Berlin: Conclusion” 2. The Insider: Behind the Scenes of Season 1 3. 22 Episodes of “Beyond the Blacklist”
โดย นายสะเด่าส์ คอลัมน์ แกะกล่องหนังแผ่น นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1221 ปักษ์แรกธันวาคม 2559
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่