Movie ReviewREVIEW

ดูมาแล้ว – The Invisible Man การกลับมาของมนุษย์ล่องหนในปี 2020

เริ่มต้นด้วยการเป็นนิยายวิทยาศาสตร์ของเอช.จี. เวลล์ส ที่ตีพิมพ์ลงต่อเนื่องในนิตยสารรายสัปดาห์ชื่อเพียร์สันตอนปี 1897 ก่อนที่จะกลายมาเป็นนิยายเล่มในปีเดียวกัน ซึ่งว่าด้วยตัวละครที่ชื่อกริฟฟิน นักวิทยาศาสตร์ที่ทุ่มเทตัวเองให้กับการทดลองที่จะทำให้ตัวเองกลายเป็นมนุษย์ล่องหน แม้จะประสบความสำเร็จร่างกายไม่สะท้อนหรือดูดซับแสง แต่เขาไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมได้​
จากนั้นก็กลายเป็นภาพยนตร์, ซีรีส์โทรทัศน์, ละครเวที, ละครโทรทัศน์ ทั้งในและนอกสหรัฐอเมริกา ซึ่งเรื่องราวก็ถูกดัดแปลงเสริมแต่งเปลี่ยนไปจากเดิมไปเรื่อยๆ แล้วก็มีแตกแขนงออกไปอีกไม่น้อย ที่ก็มีทั้งมนุษย์ล่องหนสาว หรือมนุษย์ล่องหนที่เป็นเด็กวัยรุ่น

ซึ่งก็มีทั้งที่ทำเป็นงานเขย่าขวัญ, เบาสมอง รวมไปถึงแอนิเมชัน แต่จะมีหนังเพลง หรือละครเพลงไหมยังไม่รู้

แต่ถ้าหากถามคอหนังรุ่นใหม่ๆ หนังเกี่ยวกับมนุษย์ล่องหนที่รู้จักกันดีก็คงไม่พ้น The Hollow Man ของผู้กำกับพอล เวอร์โฮเวน ที่เควิน เบคอนมารับบทนำ ซึ่งก็ผ่านมาตั้ง 20 ปีแล้ว

 

และในปีนี้เรื่องราวของมนุษย์ล่องหนก็กลับมาพบกับผู้ชมอีกครั้ง หลังเคยเป็นหนึ่งในหนังจักรวาลมืด (Dark Universe) ของยูนิเวอร์แซล ซึ่งวางนักแสดงไว้ให้ จอห์นนี เด็ปป์ มารับบทนำ แต่เมื่อหนังเรื่องแรกในจักรวาล The Mummy ออกฉายในปี 2017 และคว่ำไม่เป็นท่า จักรวาลมืดของยูนิเวอร์แซลก็ถูกเก็บเข้ากรุ ตัวหนังถูกเปลี่ยนมาเป็นงานเดี่ยว ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องอื่นๆ แทน แล้วก็ได้เจสัน บลัม โต้โผใหญ่ของบลัมเฮาส์ โปรดัคชันเข้ามาดูแล และ The Invisible Man ก็คือหนังเรื่องแรกที่ถูกเลือกมาทำ โดยลีก์ห วาห์นเนลล์ ผู้เขียนบทหนัง Saw ภาคแรกและบางตอนหลังจากนั้น รวมถึงเขียนบท Insidious ทั้งสามภาค ที่กำกับหนังภาคที่สามเป็นเรื่องแรก มารับหน้าที่เขียนบทและกำกับ

โดยไม่มีดาราใหญ่อย่างจอห์นนี เด็ปป์ มาเกี่ยวข้องอย่างที่เคยวางแผนเอาไว้ในตอนแรกเริ่ม

แน่นอนว่า The Invisible Man กลายเป็นงานสยองขวัญ/ เขย่าขวัญเล็กๆ ทุนสร้างไม่มากนัก และใช้นักแสดงที่ไม่ได้โด่งดังเท่าไหร่มารับบท ตามสไตล์ของบลัม เฮาส์ หากไม่ได้หมายความว่า ถ้ามองในเรื่องของคุณภาพแล้ว จะลดทอนลงไปด้วย

และตลอดความยาวสองชั่วโมงนิดๆ วาห์นเนลล์ที่กำกับหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สามในชีวิต ก็แสดงให้เห็นว่า ด้วยทุนสร้างเพียง 7 ล้านเหรียญ เขาสามารถทำหนังเขย่าขวัญที่บีบกดอารมณ์ผู้ชมอย่างมีประสิทธิภาพได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

ในแบบที่เป็นการคิดใหม่ทำใหม่

ที่เด่นเป็นพิเศษก็คือ เรื่องราวของ The Invisible Man ฉบับวาห์นเนลล์ ไม่ได้ถูกเล่าผ่านจากสายตาของตัวมนุษย์ล่องหน และไม่ได้ถูกเล่าจากมุมมองของบุคคลที่สามแบบนิยายต้นฉบับ แต่เป็นการเล่าเรื่องจากมุมมองของเหยื่อ – ซิซีเลีย ภรรยาสาวที่อยู่ในสภาพนกน้อยในกรงทองของแอเดรียน กริฟฟิน สามีที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางทัศนศาสตร์ ที่ตัดสินใจหนีออกมาจากบ้านซึ่งระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนาราวกับเป็นที่คุมขัง โดยมีน้องสาวเอมิลี ให้ความช่วยเหลือ

ถึงจะหนีกริฟฟินสำเร็จ ซิซีเลียก็อยู่ในสภาพหวาดกลัวผู้คนรอบข้างอยู่พักใหญ่ จนได้รับข่าวดี กริฟฟินฆ่าตัวตายพร้อมมอบเงินก้อนโตให้เธอ โดยทะยอยให้เป็นงวดๆ ในแต่ละปี ทุกอย่างเหมือนจะเป็นข่าวดีท่ามกลางความสงสัยของซิซีเลีย และท้ายที่สุดก็ดูเหมือนว่ากริฟฟินยังไม่ได้หายไปไหน ที่สำคัญเขาอยู่ใกล้เธอกว่าที่ใครคิด ที่ร้ายที่สุดก็คือ มีแผนการที่ทำให้เธอต้องกลับไปหาเขาอีกครั้ง

เรื่องราวเริ่มต้นของ The Invisible Man อาจทำให้หลายๆ คนนึกถึง Sleeping with the Enemy หนังจูเลีย โรเบิร์ทส์จากต้นยุค ‘90s ที่ว่าด้วยชีวิตของหญิงสาวที่แฟนผู้แสนโรแมนติค กลายเป็นสามีที่เคร่งครัด-ระเบียบเป๊ะในชีวิตและขี้หึง แถมยังชอบลงไม้ลงมือ จนเธอต้องหาทางหนีจากชีวิตเขา แม้จะทำสำเร็จแต่ก็กินเวลาเพียงสั้นๆ แล้วยังเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรงที่ร้ายกาจยิ่งกว่าตามมา เมื่อเขารู้ความจริงและหาเธอจนเจอ ซึ่งก็ยังมีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่าง การแสดงให้ฝ่ายหญิงล่วงรู้ที่การมาถึงของฝ่ายชาย ที่ไม่ต่างกัน ให้นึกถึงอีกด้วย

แต่ท้ายที่สุดด้วยความแตกต่างของตัวละครหลัก และสภาพแวดล้อมของพวกเขาและเธอ ก็ทำให้ The Invisible Man ของวาห์นเนลล์ มาพร้อมกับบรรยากาศและแนวทางที่แตกต่าง เมื่อหนังพาตัวเองไปเป็นงานเขย่าขวัญที่จัดเต็มมากกว่า ขณะที่บรรยากาศก็อบอวลไปด้วยความกดดัน บีบคั้น ในแบบที่มีช่วงผ่อนลมหายใจให้ผู้ชมและตัวละครเพียงแค่น้อยนิด ที่เฉลยให้รู้ก็ได้ว่าเป็นชีวิตเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังรับรู้ถึงการจากไปของกริฟฟิน เท่านั้นแหละที่ซิซีเลียได้พบกับความสุขในชีวิต ที่ยังถือเป็นช่วงพักสั้นๆ ก่อนที่หนังจะเข้าเบรคยาวๆ อัดใส่ผู้ชมอย่างเต็มที่

วาห์นเนลล์ที่ผ่านงานเขียนบทมาทั้ง Saw และ Insidious เผยความช่ำชองในการเล่นกับอารมณ์ของตัวละครและผู้ชม ตั้งแต่เลือกที่จะเล่าเรื่องผ่านมุมมองของเหยื่ออย่างซิซีเลีย ที่นอกจากจะทำให้คนดูรู้สึกตระหนกไปกับเธอแล้ว ด้วยภาพของหญิงสาวที่กระทั่งเดินไปหยิบหนังสือพิมพ์ที่หน้าบ้านยังไม่กล้า รวมถึงอาการที่เหมือนลูกนกตกน้ำอยู่ตลอดเวลา แม้จะพ้นเงื้อมมือของสามีผู้รักจริง แม้จะยังไม่ได้รับรู้แบ็คกราวนด์อะไรมากมาย ผู้ชมก็พร้อมยืนอยู่เคียงข้างเธอเรียบร้อย

จังหวะช็อคคนดูที่มีไม่กี่ครั้ง ก็เล่นเอาคนดูหนุ่มๆ สาวแตกได้ไม่ยาก แต่ที่โดดเด่นมากกว่าก็คือ การเล่นกับอารมณ์คนดู ที่ทำให้อยู่ในสภาพไม่ใช่ก็ใกล้เคียงกับซิซีเลีย กดดัน-หวาดระแวง ซึ่งทุกอย่างเป็นผลจากการใช้ความเงียบและดนตรีประกอบอย่างได้ผล หากที่โดดเด่นที่สุดก็คงไม่พ้นการใช้พื้นที่ว่างเปล่าในฉากให้เป็นประโยชน์ เพราะไม่ใช่แค่เธอที่รู้สึกไม่มั่นใจหรือเชื่อว่ามีใครนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ดูว่างเปล่า หรือมีคนยืนอยู่ที่มุมห้องซึ่งไม่น่าจะมีอะไรอยู่ตรงนั้นไหม ผู้ชมก็ไม่แตกต่างกัน แต่ที่หนักข้อกว่าก็คือ ยังรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเธอคล้ายๆ ไม่ผิดไปจากตัวละครที่อยู่รอบซิซีเลีย

นอกจากจะสอบผ่านเรื่องของการเล่นกับอารมณ์ผู้ชมและตัวละคร The Invisible Man ยังมีหักมุมให้ได้เซอร์ไพรส์เล็กๆ ในช่วงท้ายๆ ที่ทำให้เรื่องราวดูซับซ้อนขึ้นในอีกระดับ

แต่ไม่ใช่จะปราศจากความผิดพลาด อย่างน้อยในหลายๆ ครั้งความพยายามจะสร้างสถานการณ์ล่อหลอกคนดู (และตัวละคร) ก็ดูจะละเลยความสมเหตุสมผลของตัวละครและสภาพแวดล้อมต่างๆ ซึ่งบางครั้งก็ซุกเอาไว้ภายใต้พรมได้มิด แต่บางทีก็เกิดความสงสัยตั้งแต่ตอนนั้น แต่ด้วยบรรยากาศโดยรวมที่กดผู้ชมอยู่หมัดแทบตลอดทั้งเรื่อง บวกกับมักมีสถานการณ์แก้ตัวตบท้าย ก็ทำให้สิ่งละอันพันละน้อยเหล่านี้เป็นรอยตำหนิที่ถูกละเลยผ่าน เช่น เหตุการณ์ตอนท้าย ที่เหมือนติ่งจะมีก็ได้ไม่มีก็ได้ แต่วาห์นเนลล์ก็ทำให้ผู้ชมได้สะใจกับการกระทำของตัวละครส่งท้าย

ด้วยบทสรุปอย่างที่เป็น หนังน่าจะมีภาคต่อออกมา ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ แต่จากเงื่อนไข และสถานการณ์ที่แตกต่าง น่าติดตามเหลือเกินว่า ถ้ายังอยู่กับหนังต่อ วาห์นเนลล์จะเล่าเรื่องและนำเสนอออกมายังไงในคราวหน้า…

โดย นพปฎล พลศิลป์ จากเรื่อง การกลับมาของมนุษย์ล่องหน The Invisible Man ในปี 2020 คอลัมน์ หรรษา วันจันทร์ – HAPPY MONDAY หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 9 มีนาคม 2563
 

 

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:Movie Review

Comments are closed.