Movie ReviewREVIEW

ดูมาแล้ว – THE SILENT SEA ท้องทะเลที่แสนสงัด สุดเงียบสงบ **1/2

บิ๊กโปรแกรมส่งท้ายปี 2021 ของเน็ตฟลิกซ์ นอกจากจะมีดารานำระดับแม่เหล็ก (และระดับอินเตอร์) อย่าง กงยู ประกบแบดูนาแล้ว แนวทางของหนังก็ถือเป็นความสดใหม่ สำหรับงานเค-ดรามาส์ กับการเป็นงานไซ-ไฟ, เขย่าขวัญ ซึ่งจากที่เห็น ๆ กันก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีทำออกมาก่อนหน้า (หากจำไม่ผิด) แล้วถ้ามองว่านี่คือหนังไซ-ไฟที่เรื่องราวเกิดขึ้นในห้วงอวกาศแล้ว กระทั่งหนังใหญ่ ก็เพิ่งมี ‘Space Sweepers’ ของอีจุนกี ปล่อยฉายเป็นเรื่องแรกเมื่อต้นปี 2021 เรื่องเดียวเองด้วยซ้ำ (ถ้าจำไม่ผิด Again)

เหตุการณ์ใน ‘The Silent Sea’ เกิดขึ้นในโลกอนาคต ที่ผืนโลกกำลังจะกลายเป็นทะเลทราย น้ำและอาหารขาดแคลนอย่างหนักจนต้องมีการปันส่วนกัน ตามลำดับชั้นของประชากร ที่เป็นอีกครั้งกับการนำเรื่องชนชั้นมาเล่นในหนังและซีรีส์เกาหลี เมื่อสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติ ทางการเกาหลีจึงตัดสินใจส่งหน่วยพิเศษไปยังดวงจันทร์ เพื่อไปเก็บตัวอย่างของบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในสถานีทดลองบัลแฮ ที่เกิดเหตุร้ายไม่มีใครรอดชีวิตจนถูกทิ้งร้าง โดยมีฮันยุนจา (กงยู) เป็นหัวหน้าคณะเดินทาง และดร. ซงจีอัน (แบดูนา) เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทำหน้าดูแลเรื่องกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้น

แต่การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่น หลังลงจอดบนดวงจันทร์แบบทุลักทุเล และเสียเพื่อนร่วมทีมบางรายไป สถานการณ์ที่เป็นไปในสถานีอวกาศบัลแฮก็มากไปด้วยความไม่น่าไว้ใจ และสัมผัสได้ถึงอันตราย ก่อนที่บางสิ่งบางอย่างจะค่อย ๆ คร่าชีวิตสมาชิกไปทีละคน ยุนจาและจีอันจะต้องร่วมมือกันเพื่อหาทางเอาตัวอย่างในการทดลองที่นี่กลับไปยังโลกให้ได้ โดยที่ทั้งคู่ดูเหมือนจะมีกำแพงบางอย่างตั้งขวางกันเอาไว้ และที่ร้ายไปกว่านั้นเพื่อนร่วมทีมบางคนก็ใช่ว่าจะไว้ใจได้ทุกคน

หากเป็นคอหนังสยองขวัญ/ ไซ-ไฟในห้วงอวกาศจากฮอลลีวูด ก็น่าจะคุ้นเคยกับพล็อตในทำนองนี้ดี และมีหนังมากมายหลายเรื่องที่นึกถึงขึ้นมาระหว่างชม ตั้งแต่งานคลาสสิกอย่าง ‘Alien’ ของริดลีย์ สก็อตต์ ไปจนถึงงานพื้น ๆ อย่าง ‘Mission to Mars’ ของไบรอัน เดอ พัลมา ทั้งในเรื่องของพล็อต ที่ว่าด้วยการไปปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งของรัฐบาล ที่จริง ๆ แล้วมีเป้าหมายบางอย่างแอบแฝงอยู่ ที่อาศัยเรื่องการหาทางรอดให้กับโลกเป็นเรื่องรอง เป็นของบังหน้า ทั้งตัวละครที่ต่างก็มีวาระซ่อนเร้นของตัวเอง ยุนจาก็ทำเพื่อใครบางคนที่อยู่ข้างหลัง จีอันเองก็ต้องการสืบหาความจริงที่เกิดขึ้นบนสถานีแห่งนี้ ซึ่งหนึ่งในผู้เสียชีวิตก็คือพี่สาวของเธอ แล้วกับสมาชิกในทีมบางคนก็มีภารกิจบางอย่างที่ต้องทำ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเป็นไปของเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ เลย

ด้วยจุดเริ่มต้นที่ดูลึกลับ – สถานีอวกาศที่ทีมเสียชีวิตหมด และถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง ทั้ง ๆ ที่มีตัวอย่างสำคัญ

ด้วยปูมหลังของตัวละครที่ดูมีเลศนัย มีเป้าหมายบางอย่างของตัวเอง ที่ทั้งไม่เป็นผลดีกับภารกิจ ทั้งไม่เป็นเรื่องดีกับคนอื่น ๆ ที่เดินทางมาด้วยกัน

ด้วยภยันตรายบางอย่างที่อยู่ในสถานีอวกาศ ที่ค่อย ๆ จัดการสมาชิกในทีมไปทีละคน

‘The Silent Sea’ มีของครบสำหรับการเป็นงานเขย่าขวัญ หรือสยองขวัญในห้วงอวกาศ โดยเฉพาะเมื่อหนังสามารถเม้มความลึกลับของสถานี และความตั้งใจของสมาชิกในทีมบางคนเอาไว้ แล้วค่อย ๆ ปล่อยออกมาทีละนิด ๆ รวมถึงมีสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานให้ตัวละครแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นระยะ ๆ สร้างความตื่นเต้นได้เป็นพัก ๆ ทำให้เรื่องที่อาจจะนิ่งเนิบเกินไปในทีแรก ค่อย ๆ ทวีความน่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเดินหน้ามาถึงตอนที่สาม เหตุการณ์ต่าง ๆ ดูเขม็งเกลียวมากขึ้น

แต่เมื่อหนังยังมีเวลาอีกถึง 5 ตอนให้ได้เล่าเรื่อง สถานการณ์กดดัน บีบคั้นตัวละคร ที่แคนนอนมาถึงผู้ชม เลยกลับไปสู่ความนิ่งเงียบ เรียบเรื่อยกันต่อ เพราะแต่ละเหตุการณ์ที่น่าจะตื่นเต้น ถูกทอดยาวออกไปจนความตื่นเต้นหดหาย ขณะที่สถานการณ์หักมุม หรือตัวตนที่แท้จริงของตัวละครที่ถูกเปิดเผย ก็เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ไม่ยาก และการที่หนังวางตัวละครกลุ่มนี้เอาไว้ถึงสองขยัก ก็แสดงให้เห็นว่าตัวเองยังไม่สามารถหนีพิมพ์เขียวที่หนังเรื่องก่อน ๆ สร้างเอาไว้ได้ และหาทางออกใหม่ ๆ ที่จะทำให้ตัวเองแตกต่าง และไม่ซ้ำซากไม่สำเร็จ

แม้จะพยายามสร้างความซับซ้อนให้กับเรื่อง ด้วยการแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปบนโลก เปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของเหล่าผู้บริหาร เผยเป้าหมายที่น่าจะทำให้เห็นใจตัวละคร และน่าจะสร้างความซาบซึ้งให้กับผู้ชม ซึ่งนำมาเล่าตัดสลับกับความเป็นไปบนสถานีอวกาศ แต่เมื่อเรื่องหลักกลับกลายเป็นความหนืดเนือย หนังก็กลายเป็นความสงัดสมชื่อ และเผยแผลที่เด่นชัดของหนัง นั่นก็คือ เรื่องราวที่ให้เล่ามีน้อยเกินไปและมีความตื่นเต้นไม่มากเลยสำหรับการเป็น ‘ซีรีส์’ ความยาว 8 ตอน จนมี สเปซ (Space) ที่ไม่ได้หมายความถึงอวกาศในการเล่าเรื่อง เวิ้งว้าง อย่างกับหลุมดำ ที่ถมยังไงก็ไม่เต็ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นมาของยุนจา, ความตั้งใจของจีอัน, ความร้ายกาจของผู้อยู่เบื้องหลังภารกิจนี้ หรือการทดลองที่เกิดขึ้นบนดวงจันทร์ ยิ่งตัวเรื่องรวม ๆ แทบไม่ต่างไปจากหนังทางนี้เรื่องอื่น ๆ และอย่าลืมว่า แนวทางที่แปลกใหม่ ก็แปลกใหม่เฉพาะอุตสาหกรรมหนังเกาหลีเท่านั้น

‘The Silent Sea’ จึงเป็นความซ้ำ และช้ำ ในที่สุด เป็นงานไซ-ไฟที่ไม่ระทึกขวัญ หากอย่างน้อย ก็ไม่ต่างไปจาก ‘Space Sweepers’ ที่แสดงถึงความก้าวหน้าเรื่องงานโปรดัคชัน ที่สามารถสนับสนุนแนวทางหนังที่แตกต่างต่างไปจากเดิมได้สำเร็จ และน่าจะเป็นพอร์ทฟอลิโอ หรืองานโชว์ชั้นดีให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลี ว่าพวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง

แต่จะสร้างแรงกระเพื่อมได้ขนาดไหน ก็ต้องดูผลงานที่ปล่อยออกมาต่อไปหลังจากนี้ ว่าเมื่อมีของแล้ว พวกเขามีเรื่องให้เล่าไหม และที่สำคัญเล่าได้สนุกเพียงใด ถ้าไม่มากไปกว่านี้ ‘The Silent Sea’ ก็คือหินก้อนเล็ก ๆ ที่ถูกโยนลงไปในมหาสมุทรหรือทะเลอันกว้างใหญ่และเงียบสงบ แล้วไม่สามารถสร้างหรือรู้สึกถึงแรงกระเพื่อมใด ๆ มีให้แค่ความสงัด ที่แสนสงบ อย่างที่หนังเรื่องนี้ ‘ทดลอง’ ให้เห็น
(THE SILENT SEA ทางเน็ตฟลิกซ์)

โดยนพปฎล พลศิลป์

เป็นกำลังใจให้ www.sadaos.com ด้วยการสนับสนุนทางการเงิน ได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนเงินมาที่ shopsadaos@gmail.com เพื่อดำเนินการมอบรางวัลให้กับผู้สนับสนุนที่โชคดีต่อไปเป็นประจำทุกเดือน

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
1
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:Movie Review

Comments are closed.