Movie ReviewREVIEW

ดูมาแล้ว – VAN HELSING แวมไพร์ในโลกอนาคต โหด เดือด แต่ถึงใจ

VAN HELSING: แม้จะชื่อ Van Helsing เหมือนกันแต่ซีรีส์โทรทัศน์เรื่องนี้ ที่เป็นสร้างสรรค์โดยนีล ลาบิวท์ ผู้กำกับหนังใหญ่ในช่วงปลายยุค 90 อย่าง In the Company of Men หรือ Nurse Betty ก็เป็นคนละเรื่องเดียวกันกับหนังใหญ่ Van Helsing เมื่อปี 2004 ของผู้กำกับสตีเฟน ซอมเมอร์ส ที่แสดงนำโดยฮิวจ์ แจ็คแมน และเคท เบคคินเซล

ที่ว่าเป็นคนละเรื่องเดียวกันก็เพราะต่างเป็นเรื่องของผู้คนตระกูลแวน เฮลซิง ที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับปีศาจร้ายที่มาในรูปของแวมไพร์เหมือนกัน แต่คนละยุคสมัย เป็นคนละคน โดยหนังใหญ่จะเป็นตัวพ่อของตระกูล – อับราฮัม และฉากหลังเป็นศตวรรษที่ 18 แต่ซีรีส์จะเป็นผู้สืบเชื้อสายตระกูลนี้ที่เป็นผู้หญิงชื่อวาเนสซา และเกิดเรื่องราวในโลกหลังหายนะ เมื่อเกิดภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ทำให้เถ้าภูเขาไฟกระจายหนาแน่นในอากาศ กรองแสงอุลตราไวโอเล็ตจากดวงอาทิตย์ จนแวมไพร์สามารถออกมาใช้ชีวิตได้ และสิ่งแรกที่พวกมันทำก็คือ ล่าเหยื่อที่มีเกลื่อนกลาด จนมนุษย์แทบสูญพันธุ์

หนังเปิดตัววาเนสซาด้วยการให้เธอเป็นเจ้าหญิงนิทรา หลับไหลตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ในวันแรกๆ โดยอยู่ในการดูแลของนาวิกโยธินนายหนึ่ง ที่อีกสามปีต่อมา เธอก็ฟื้นขึ้นมาหลังโดนแวมไพร์กัด ยิ่งไปกว่านั้นเลือดของเธอทำให้มันกลับเป็นมนุษย์อีกครั้ง และตัวเธอก็กลายเป็นกุญแจสำคัญในการต่อต้านแวมไพร์ของมนุษย์ที่ยังหลงเหลืออยู่ แล้วก็เป็นความหวังของแวมไพร์บางกลุ่มที่อยากจะใช้ชีวิตท่ามกลางแสงแดดได้อย่างสบายใจ แล้วก็เป็นอาวุธสำคัญสำหรับแวมไพร์บางพวก ที่จะใช้ล้มอำนาจพวกที่เหนือกว่า เพื่อตัวเองจะได้ครองอำนาจแทน

หนังยังมีพล็อตรอง พล็อตย่อย และตัวละครอีกมากมายที่ปรากฏในแต่ละตอน ซึ่งช่วยให้หนังมีความซับซ้อน อย่าง การช่วงชิงอำนาจ การทรยศ หักหลัง ทั้งแวมไพร์ด้วยกัน และมนุษย์กับมนุษย์ แล้วก็ความสัมพันธ์ในแง่มุมต่างๆ ที่โดยตัวเรื่องและตัวละครอาจทำให้นึกถึงซีรีส์อย่าง Blindspot ที่ตัวละครที่ฟื้นขึ้นมาโดยความจำ (ที่ในเรื่องนี้เป็นอดีตที่แท้จริง) หายไป กับ The Walking Dead ที่ว่าด้วยการเอาตัวรอดของมนุษย์ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี (ที่หนนี้เป็นแวมไพร์) หากก็ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว กลมกลืน ที่เมื่อลงไปถึงรายละเอียดต่างๆ ก็รู้สึกได้ถึงลักษณะเฉพาะตัวของซีรีส์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากนิยายภาพของซีเนสโคป เอนเตอร์เทนเมนท์อีกที

การเล่าเรื่องก็สนุก ดูได้เพลินๆ แม้จะมากความรุนแรงอยู่บ้าง เนื้อหาโดยรวมเป็นหนังที่ให้เรื่องพาตัวเองไปข้างหน้า มีการวางปมต่างๆ ได้น่าติดตาม ไม่ทำให้ตัวเรื่องหลักและเป้าหมายของตัวละครเสียจังหวะ หรือเดินไปผิดทิศผิดทาง แต่ก็ต้องยอมรับว่าขาดอารมณ์ขัน ดูเคร่งเครียด ซึ่งก็เหมาะกันดีกับเรื่องราวที่ว่าด้วยโลกที่เต็มไปด้วยความเสื่อมโทรม และความหดหู่ ไม่เจริญหูเจริญตา

หากความเป็นไปของเหตุการณ์ ตลอดจนการกระทำของตัวละคร ก็มีอยู่หลายครั้งที่ดูหลวมๆ ไม่สมเหตุสมผล แล้วก็มีทำอะไรโง่ๆ ไม่น้อย ฉากหรือโปรดัคชัน ดีไซน์ก็ดู Look Cheap อยู่บ้าง แต่ไม่ถึงกับลดทอนความสนุกมากนัก นักแสดงก็ทำหน้าที่ได้ดี อย่าง ตัวเอกที่เล่นโดยเคลลี โอเวอร์ตัน โดยรูปลักษณ์ก็มีเสน่ห์แปลกๆ ที่ทำให้ตัวละครมีความลึกลับ ที่น่าสนใจก็คือตัวละครส่วนใหญ่เป็นตัวละครเทาๆ ไม่ใช่ขาวจัด-ดำจัด ตัววาเนสซาเองก็ไม่ได้ดีจ๋าสักเท่าไหร่ แล้วตัวเรื่องเองก็ไม่ลังเลที่จะกำจัดหรือปิดฉากตัวละครบางราย เพื่อลดความพะรุงพะรัง หรือสานต่อเรื่องไปข้างหน้า ทำให้พวกตัวละครน่ารำคาญมีเวลาอยู่กับหนังได้ไม่นาน และทำให้หนังกระชับ

แม้จะมีจุดอ่อนให้เห็นและรู้สึก แต่ Van Helsing ก็มีของที่ทำให้ดูสนุก และน่าติดตาม มากกว่าจะพาลเบื่อไปซะก่อน

โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ชำแหละแผ่นฟิล์ม นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1263 ปักษ์แรก กันยายน 2561

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

 

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:Movie Review

Comments are closed.