FEATURESMusic Featuresดนตรีมีเหตุอัลบั้มคลาสสิค - Classic Album

ตอนจบของการย้อนอดีต 44 ปี อัลบั้มคลาสสิค Sticky Fingers จาก The Rolling Stones

(อ่านตอนแรกได้ที่ http://bit.ly/1Ck7nJg, อ่านตอนที่สองได้ที่ http://bit.ly/1LPjgc1, อ่านตอนที่สามได้ที่  http://bit.ly/1NRzLnc) แม้จะผ่านกระบวนการทำงานที่ทุลักทุเล กระทั่งเนื้อร้องก็ต้องให้ทีมงานในวง ที่เป็นหัวหน้ารปภ. แกะ แต่อะไรก็ตามที่แจกเกอร์ร้อง ปรากฏว่าใช้ได้ เมื่ออัลบั้ม Sticky Fingers ออกจำหน่ายในวันที่ 23 เมษายน 1971 แล้วขึ้นอันดับ 1 ได้ทั้งสองฟากฝั่งของแอทแลนติค

จากอัลบั้มที่ ‘ถ้าไม่ทำก็แตกวง’ และไม่ใช่แค่อัลบั้มแรกสำหรับทศวรรษใหม่ สำหรับเดอะ สโตนส์ แต่ยังเป็นงานชุดแรกหลังการจากไปของไบรอัน โจนส์, เป็นงานชุดแรกที่ทำกับมิค เทย์เลอร์, และงานชุดแรกที่ทำกับสังกัดใหม่ของตัวเอง, รวมทั้งเป็นการทำงานระหว่างมีคดีทางกฎหมายกับอัลเลน ไคลน์ ผู้จัดการวงคนเก่า กลายเป็นงานชุดสำคัญของเดอะ สโตนส์ ที่ไม่ได้รับการพูดถึงแค่เพียงตัวเพลง แต่ยังตกเป็นข้อถกเถียงจากเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับดนตรี นั่นก็คือปกอัลบั้ม ที่ออกแบบได้อย่างโดดเด่นโดยแอนดี วอร์ฮอล ที่เป็นภาพเป้าของชายหนุ่มในกางเกงยีนส์ฟิตปั๋ง ซึ่งมีเข็มขัดและซิปที่รูดได้ เพื่อเผยให้เห็นกางเกงในผ้าคอตตอนข้างใน แม้ตัวซิปจะทำให้ร้านค้าไม่พอใจ เพราะกลัวจะไปทำความเสียหายให้กับแผ่นเสียงที่อยู่ข้างใน แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แพ็คเกจของอัลบั้มชุดนี้ก็ทำงานของมันเองแล้ว

ในช่วงเวลานั้น ไม่ใช่แค่เดอะ สโตนส์ ที่ต้องมีแรงส่งพิเศษจากสิ่งอื่นๆ เพื่อกระตุ้นการขาย การจัดการสิ่งต่างๆ ก็จะเน้นเรื่องของการขาย และความคิดสร้างสรรค์เป็นหลัก ซึ่งทำให้ Sticky Fingers เป็นมากกว่าอัลบั้มชุดหนึ่ง แต่นี่คืองานที่ เปิดตัวโรลลิง สโตนส์ กับแฟนเพลงและวงการอีกรอบ เป็นอัลบั้มที่ทำให้พวกเขาเริ่มบทใหม่ ที่ทำให้เดอะ โรลลิง สโตนส์ เป็นอย่างที่เห็นกันในทุกวันนี้ ‘เครื่องหมายของร็อคแอนด์โรลล์’ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนี้ ซึ่งทุกเครื่องหมายต้องการโลโก และพวกเขาก็ไม่แตกต่าง ทางวงจ่ายให้นักออกแบบด้านภาพ – จอห์น ปาสเช ไป 50 ปอนด์ เพื่อกลับมาพร้อมกับสัญลักษณ์ใหม่ที่ได้รับแรงดลใจจากปากและลิ้น ซึ่งมีที่มาจากความคิดของแจกเกอร์ “ผมกำลังมองหาสัญลักษณ์ที่เราจะใช้กับ โรลลิง สโตนส์ เรคอร์ดส์” นักร้องนำของวงกล่าว “มีปฏิทินอยู่ที่ผนังบ้านผม มันเป็นปฏิทินอินเดียที่มีรูปร้านขายของชำแบบอินเดีย แล้วก็เจ้าแม่กาลี ซึ่งเป็นเทพีที่จริงจัง และมีความโหดร้าย แล้วนอกจากร่างกายของเธอแล้ว ลิ้นของเธอแล่บออกมา ผมเลยเอาไปให้จอห์น ปาสเชดู และเขาก็จัดการทำให้มันทันสมัยมากขึ้น”

โลโกของปาสเช กลายเป็นสิ่งที่ติดอยู่กับสินค้าที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องทุกชิ้น และยังเป็นสิ่งที่ทำให้นึกถึงวงเดอะ โรลลิง สโตนส์ ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งๆ ที่มันเริ่มต้นจากการเป็นตราของบริษัทแผ่นเสียง “ส่วนหนึ่งที่คิดกันก็คือ เราจะหาตัวศิลปินรายอื่นๆ แล้วออกอัลบั้มกับสังกัดของเรา” มาร์เชลล์ เชสส์ ที่ทำหน้าที่ดูแลค่ายเพลงของวงกล่าว “ผมจำได้ตอนที่มิคคุยกับจิมิ เฮนดริกซ์ ว่าให้มาออกงานกับเราก่อนเขาจะตาย เราจะให้ศิลปินแต่ละรายมีโลโกของตัวเอง คล้ายกับปากและลิ้นนี่แหละ เราเตรียมแผนการทั้งหมดไว้แล้ว แต่ในไม่ช้าก็พบว่า เราไม่มีงบมากพอที่จะเซ็นสัญญา หรือว่าอัดแผ่นเสียงให้ใคร”

จากจุดเริ่มต้นที่ไม่ได้สวยสด และเต็มไปด้วยปัญหาในการทำงานมากมาย Sticky Fingers ไม่ใช่แค่อัลบั้มที่ประสบความสำเร็จชุดหนึ่ง หากยังกลายเป็นตำนานอีกหน้าหนึ่งของวงการเพลง และกับเดอะ โรลลิง สโตนส์ คงไม่ผิดหากจะบอกว่า นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญในการทำงานของพวกเขา ที่ทำให้ทุกวันนี้ ยังมีเดอะ สโตนส์ เป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจ มีตัวตน และยังเป็นวง ให้ได้เล่าขานและชื่นชม

สำหรับอัลบั้ม Sticky Fingers ฉบับที่ทำออกมาใหม่ นอกจากจะมีอัลบั้มดั้งเดิมแล้ว ก็จะมีเพลง Brown Sugar, Bitch, Can’t You Hear Me Knocking และ Dead Flowers ที่อัดคนละเทคกับที่ใช้ในอัลบั้มปกติ รวมไปถึงเพลง Wild Horses ฉบับอะคูสติค ซึ่งใช้กีตาร์ 12 สายเล่น “คนฟังจะได้ยินเสียงสะท้อนและเสียงประสานของกีตาร์ 12 สาย” ริชาร์ดส์ ที่เป็นคนเล่นกล่าว “มันเป็นอุปกรณ์ที่เต็มไปด้วยพลัง โดยเฉพาะถ้าคุณใช้สไลด์กับมันด้วย จะมีเสียงออคเตฟที่น่าฟังระหว่างสายให้ได้ยิน”

นอกจากที่เพลงที่ว่ามาแล้ว ยังมีเพลงเวอร์ชันอื่นของ Bitch, Dead Flowers และ Can’t You Hear Me Knocking กับเพลงจากการแสดงสดที่ เดอะ โรดเฮาส์ ในลอนดอนอีก 5 เพลงใส่เข้ามาด้วย

และสำหรับคนที่ชอบงานแสดงสด ก็สามารถดาวน์โหลดอัลบั้ม Sticky Fingers ในแบบแสดงสดได้เช่นกัน โดยคลิกได้จากแบนเนอร์ด้านบน

จากเรื่อง ย้อนอดีต 44 ปี อัลบั้มคลาสสิคของวงการเพลง Sticky Fingers จาก The Rolling Stones (จบ) โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ วันที่ 3 กรกฎาคม 2558

สามารถกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

 

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.