FEATURESMusic Featuresดนตรีมีเหตุเบื้องหลังเพลง

ทำไม Smells Like Teen Spirit จึงเป็นเพลงยอดเยี่ยมตลอดกาลของนิตยสาร NME

ในการจัดอันดับเพลงยอดเยี่ยมตลอดกาล “Smells Like Teen Spirit” ของ Nirvana มักจะถูกเลือกเข้าอันดับเสมอ ๆ และในช่วงต้นปี 2557 นิตยสารดนตรี เอ็นเอ็มอี ของอังกฤษ ได้จัดอันดับ 500 เพลงยอดเยี่ยมตลอดกาลขึ้นมา และเพลงที่ส่งต่ออิทธิพลมากมาย เต็มไปด้วยความลึกลับเพลงนี้ของเคิร์ต โคเบน ซึ่งให้นิยามวัยรุ่นในยุคหนึ่งขึ้นมา ถูกเลือกเป็นเพลงเยี่ยมยอดที่สุด วันนี้เราจะไปพบเบื้องหลังมากมายของเพลงนี้ ที่กระทั่งคอเพลงวัยรุ่นในยุคนั้น ก็ล่วงรู้ถึงเรื่องราวในมุมมืดของเพลงนี้น้อยมาก

“Smells Like Teen Spirit” เป็นเพลงที่นิยามถึงคนรุ่นหนึ่ง และทำให้เด็กหนุ่มจากซีแอตเทิล ที่ทำอะไรไม่เป็นโล้เป็นพาย เคิร์ต โคเบนกลายเป็นตำนาน แต่แล้วสิ่งต่างๆ กลับจบลงด้วยความอื้อฉาวมากมาย สำหรับนักร้องนำของวงเนอร์วานา ชีวิตในช่วงวัยรุ่นช่างเต็มไปด้วยความฟุ้งฝันอย่างจริงจังถึงความรุนแรง “ผมเก็บเนื้อเก็บตัวมาก ๆ ต่อต้านสังคม จนแทบจะทำให้ตัวเองกลายเป็นคนบ้า ผมรู้สึกเสมอว่า พวกเพื่อนร่วมห้องเรียน คงจะโหวตให้ผมเป็นคนที่อยากจะฆ่าทุกคน ในงานเต้นรำของโรงเรียน” เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ในปี 1993 “ผมเคยจินตนาการอย่างพลุ่งพล่านถึงเรื่องนี้ แต่ก็มักเลือกที่จะฆ่าตัวเองเป็นคนแรกเสมอ” เคิร์ตโตมาในย่านชานเมืองอะเบอร์ดีน, วอชิงตัน ที่ดูซึมเซา เล่นเพลงคัฟเวอร์ The Beatles คนเดียวที่ร้านเหล้าและสถานนางโลมในเมือง เพื่อหลบเลี่ยงสายฝนที่โปรยลงมาอย่างไม่ย่อท้อ ขวบปีในวัยรุ่นของโคเบน ได้เห็นเขาพัฒนาความว่างเปล่าที่เขาไม่เคยไปรบกวนมัน กลายเป็นสิ่งที่สร้างสรรพเสียงที่เต็มไปด้วยการทำลายล้างแสนดุดันที่เฉียบคม และการแต่งเพลงที่เป็นการระเบิดอารมณ์แบบสุด ๆ จนเป็นเพลงความยาว 4 นาที กับอีก 38 วินาที ที่มีทั้งเสียงร้องราวกับคมมีดโกน, เสียงกลองกระหน่ำดังสายฟ้าฟาด, เสียงกีตาร์แตกๆ แหบพร่า กับเนื้อร้องที่เป็นปริศนาไม่ต่างไปจากสีเหลี่ยมรูบิกซ์ ที่ 22 ปีผ่านไป ก็ยังไม่มีเพลงไหนฟังแล้วน่าตื่นเต้นเท่านี้

เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาในวันที่ 10 กันยายน 1991 แล้วก็เป็นเพลงแรกในอัลบัมที่เป็นการปฏิวัติวงการ ‘Nevermind’ ซึ่งกลายมาเป็นมาตรฐานทางวัฒนธรรมในเวลาต่อมา รวมทั้งเป็นตัวจุดระเบิดการปฏิวัติ หลังจากช่วงเวลาโลกสวยแสนน่าชังของรัฐบาลประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนในยุค 1980s ของอเมริกา การบูมของตลาดเสรี และวลีอย่าง “โลภคือดี” “Smells Like Teen Spirit” คือเสียงของการเอาชนะการถูกเพิกเฉย ให้กับหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ที่ถูกเรียกว่า คนรุ่นเอ็กซ์ ประหนึ่งว่าการไม่ได้รับความสนใจเป็นเรื่องใหม่ แต่ความจริงก็คือ ความรู้สึกถูกเพิกเฉยนั้นไม่เคยมีปากมีเสียง, ไม่เคยได้รับการยอมรับทางสังคม, ไม่เคยถูกมองว่ามีตัวตน เนอร์วานากับเพลงที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดเพลงนี้, เสื้อผ้าจากร้านราคาถูกที่สกปรก ซ่อมซอ และความรู้สึกถึงการยิ้มเยาะให้การจมปลักอยู่กับตัวเอง, การพูดการจาคม ๆ ในเชิงแดกดันผ่านการให้สัมภาษณ์ รวมไปถึงการไม่ใส่ใจการสอพลอพวกเขาโดยสื่อ ทำให้ความรู้สึกนั้นดูจริง ถ้าภาพโทนสีน้ำตาลเศร้า ๆ ของมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ ที่ถ่ายทำในหอประชุมโรงเรียน มีภาพสโลว์โมชันในแบบเสียดสีของเชียร์ลีดเดอร์ ทำให้นึกถึงสิ่งสกปรกในนำ้เค็ม ๆ ที่ตกตะกอนอยู่ก้นท่อระบายน้ำ นั่นก็เพราะว่าโคเบนมองตัวเองและคนรุ่นเขา เป็นเช่นนั้น

บุตช์ วิก ที่โปรดิวซ์อัลบัม ‘Nevermind’ ที่มี “Smells Like Teen Spirit” เป็นเพลงแรกในอัลบัม เล่าว่า นอกจากจะเป็นงานที่ดีแล้ว จังหวะในการวางจำหน่ายของงานชุดนี้ก็ลงตัว “มันได้จังหวะเวลาที่ดี เวลาในการออกจำหน่ายของงานศิลปะ เป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันสะท้อนให้เห็นถึงสภาพวัฒนธรรม และคุณไม่สามารถทำนายอะไรได้เลย” วิก กล่าว

วิกยังเป็นคนที่แนะนำวงว่า เพลงนี้น่าจะเป็นเพลงแรกในอัลบัม ‘Nevermind’ “สำหรับผม ‘Smells Like Teen Spirit’ ทำให้ผมนึกถึงเพลงของบ็อบ ดีแลนว่า มันส่งผลกระทบต่อผู้คนในยุค ’60s ได้ยังไง ขนาดไหน ด้วยความคิดบางอย่าง ผมรู้สึกว่าเพลงนี้ จะมีผลกระทบกับเด็กๆ ในยุค ’90s พวกเขาสื่อสารกับมันได้”

ในการทำงานที่เกิดขึ้น “Smells Like Teen Spirit” ก็คือหนึ่งในบรรดาเพลงท้าย ๆ ของ ‘Nevermind’ อัลบัมชุดที่ 2 ของวง 3 ชิ้นวงนี้ ซึ่งเริ่มด้วยการเป็นลายมือหวัด ๆ เชิงเหน็บแหนม บนกำแพงห้องนอนของเคิร์ต โคเบนในอะพาร์ตเมนต์ โดยแคธลีน แฮนนา สมาชิกวง Bikini Kills เมื่อเดือนสิงหาคม 1990 ทั้งคู่ดื่มกันในช่วงบ่าย แล้วก็ออกจากห้องของเขาไปยืนยามแบบมึน ๆ ที่ปีกขวาของศูนย์เด็กอ่อน ซึ่งเคิร์ตพ่นสเปรย์คำว่า GOD IS GAY ขนาด 6 ฟุตทิ้งเอาไว้

จากนั้นพวกเขาก็กลับมาที่ห้องของโคเบน และ “เมาหนักกว่าเดิม ฉันก็อ้วกใส่ขาของใครบางคน” แฮนนา เล่าอดีตให้ฟัง “ฉันหมดสติไปโดยมีปากกาเมจิคอยู่ในมือ แล้วตื่นขึ้นมากับหนึ่งในอาการเมาค้างที่คิดว่า หากเปิดประตูห้องข้าง ๆ ไป จะพบศพของใครสักคนในนั้น… 6 เดือนต่อมา เคิร์ตโทรหาฉัน แล้วบอกว่า ‘นี่ ไอ้คำที่คุณเขียนไว้บนกำแพงห้องผมน่ะ โคตรเจ๋งเลย ผมอยากใช้มันเป็นเนื้อร้องในเพลงใหม่ของผมนะ’”

คำที่แฮนนาเขียนเอาไว้บนกำแพงห้องของเคิร์ต ก็คือ “เคิร์ต กลิ่นเหมือนทีน สปิริท” (Kurt’s smell like Teen Spirit) ซึ่งเธอพูดถึงน้ำหอมดับกลิ่นยี่ห้อทีน สปิริต แต่โคเบนไม่รู้จักน้ำหอมดับกลิ่นยี่ห้อนี้ แล้วคิดไปไกลว่า มันเป็นข้อความต่อต้านสถาบัน ขณะที่เนื้อร้องที่ว่า ‘Here we are, entertain us’ จริง ๆ แล้วเป็นคำพูดติดปากของโคเบนเวลาไปงานพาร์ตี เมื่อไปแสดงสดในรายการ Top Of The Pops เมื่อ 25 พฤศจิกายน 1991 โคเบนเปลี่ยนเนื้อร้องของเพลงจาก ‘Load up on guns, bring your friends’ ไปเป็น ‘Load up on drugs, kill your friends’

ช่วงต้นปี 1991 ริฟฟ์กีตาร์ 4 คอร์ดก็เข้ามาเติมเชื้อ เดฟ โกรห์ล มือกลองของวง หลงรักพลังที่มีอยู่ในเพลงนี้ทันที แต่ “ไม่รู้เลย” ว่า มันจะกลายเป็นเพลงฮิตมหาศาลอย่างที่เป็น นี่คือเพลงพ็อปที่อยู่ในโครงสร้างของเพลงพังก์ “เป็นเพลง More Than A Feeling ของ Boston ที่เนื้อร้องเปลี่ยนไป” เอเวอเร็ตต์ ทรู อดีตนักข่าวของนิตยสารดนตรีเอ็นเอ็มอี ที่เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเคิร์ตกล่าวไว้ในปี 2008 ซึ่งในเวลาต่อมาโคเบนก็ยอมรับว่า ริฟฟ์ของสองเพลงนี้คล้าย ๆ กัน แต่เขาก็บอกว่ามันต่างเป็นริฟฟ์ที่คุ้นหูทั้งคู่

โครงสร้างของเพลงมาแบบง่าย ๆ ท่อนร้อง แล้วก็คอรัส ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากวง The Pixies ที่เคิร์ตยอมรับว่ากำลังพยายามแกะเพลงของพวกเขาอยู่ จากนั้นทางวงก็บันทึกเสียงงานที่เป็นพื้นฐานของเพลงลงคาสเส็ตต์เอาไว้ แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรถึงมันอีก แต่วิกยืนยันว่า เขารู้ว่ามันจะเป็นเพลงฮิตทันทีที่ฟังเดโมหยาบ ๆ ที่วงทำมา โดยแทร็คหลักๆ ในเพลงฉบับเสร็จสมบูรณ์ จริง ๆ แล้วเป็นการบันทึกเสียงเทคที่สอง จากทั้งหมด 3 เทคของเพลงนี้

“Smells Like Teen Spirit” ยังเป็นเพลงเดียวในอัลบัม ‘Nevermind’ ที่สมาชิกทั้งสามคนของวงได้เครดิตในการแต่งร่วมกัน ซึ่งถูกต้องแล้วที่เป็นเช่นนั้น มันจะเป็น “Smells Like Teen Spirit’ ได้ยังไง? ถ้าไม่มีเสียงกลองที่กระแทกกระหน่ำอย่างกับเลื่อยไฟฟ้าที่หมุนเข้ามาในชีวิต หรือขาดเสียงเบสหน่วง ๆ ของคริสต์ โนโวเซลิก ที่บรรเลงยั่วเย้าอยู่รอบๆ เสียงร้องของเคิร์ต

ความประทับใจที่มีต่อเพลงนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง เหมือนเป็นลูกตุ้มที่เหวี่ยงทุบตึกวัฒนธรรมพ็อป แดนนี โกลด์เบิร์ก แห่งบริษัทดูแลศิลปิน โกลด์ เมาน์เทน ยอมรับว่า ไม่มีใครในซับ พ็อป (ต้นสังกัดของวง) หรือในทีมดูแลเนอร์วานาได้ยิน แล้วมองว่าเป็นเพลงที่มีโอกาสฮิตระเบิดแบบเมนสตรีม ความหวังสำหรับอัลบัมนี้คือ “ขายมันได้ราว ๆ ครึ่งหนึ่งที่อัลบัมชุดล่าสุดของวง Sonic Youth ทำได้ก็พอ ถ้าเราโชคดีนะ” กับการมี “Come As You Are’ ที่ถูกทีมของซับ พ็อปมองว่า เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะมีเพลงฮิต บรรดาสถานีวิทยุตามมหาวิทยาลัยกลับเล่นเพลงนี้เป็นหลัก แล้วก็มีคนเป็นร้อย ๆ มารวมตัวกันรอหน้าโชว์ของเนอร์วานาที่ขายบัตรได้เกลี้ยง โดยไม่มีบัตรอยู่ในมือ เพราะหวังว่าจะฟลุ้คได้เข้าไปดู

ในทุกที่ ที่ “Smells Like Teen Spirit’ ไปถึง เพลงนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับความวุ่นวายอย่างสุด ๆ การแสดงของเนอร์วานา กลายเป็นสนามของการกระแทกกระทั้น ทันทีที่โคเบนกระหน่ำโน้ตแรกของเพลงด้วยเจ้ากีตาร์เฟนเดอร์ จากัวร์ มีข่าวว่าเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังตกมาจากระเบียงห้างสรรพสินค้า เมื่อเพลงนี้ดังขึ้นมาจากลำโพงในห้าง แล้วเขากระโดดไปกับเพลงอย่างไม่คิดชีวิต กระทั่งในการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ ก็ยังมีความวุ่นวายเกิดขึ้น “เราเอาเด็ก ๆ ที่ไปดูโชว์ของเนอร์วานามาเล่นวิดีโอ เทกแรกก็แทบจะจลาจลแล้ว” แซมวล เบเยอร์ ผู้กำกับเล่าเอาไว้ในปี 2008 “ผมอยู่ที่นั่นมีลำโพงอยู่ในมือตะโกนบอกให้ ‘หยุด! หยุด!’ ผมคิดถึงพระเจ้าเลยตอนนั้น เราต้องมีตำรวจเข้ามาดูแล นักแสดงกำลังจะหลุดไปกับเพลงนี้” หลังการถ่ายทำเทกแล้วเทกเหล่า ซึ่งกินเวลาถึง 12 ชั่วโมง ความเบื่อหน่าย ความอ่อนล้า เกาะกินบรรดานักแสดงสมัครเล่น ในที่สุดพวกเขาเลยได้รับอนุญาตให้ระบายเอากับข้าวของในฉากได้ เมื่อการถ่ายทำมาถึงเทกสุดท้าย

โดยเรื่องราวในมิวสิกวิดีโอ ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง ‘Over the Edge’ จากปี 1979 ซึ่งเป็นหนังโปรดของโคเบน ถ่ายทำกันที่สตูดิโอในคัลเวอร์ ซิตี, แคลิฟอร์เนียเมื่อ 17 สิงหาคม 1991 โดยผู้ชมในวิดีโอก็คือ คนที่ไปชมการแสดงของวงเมื่อสองวันก่อนหน้าที่เดอะ ร็อกซี ในเวสต์ ฮอลลีวูด ซึ่งได้รับใบปลิวชวนให้มาถ่ายมิวสิกวิดีโอกันจากที่นี่ ส่วนเชียร์ลีดเดอร์ก็จ้างสาวๆ จากคลับระบำเปลื้องผ้าแถวๆ นั้นมาเล่น

หลายเดือนผ่านไป ความนิยมของเพลงนี้ยังไม่สร่างซา ยอดขายของ ‘Nevermind’ พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการหนุนหลังของ “Smells Like Teen Spirit” ถึงขนาดเขี่ยอัลบัมของไมเคิล แจ็คสันหล่นจากอันดับ 1 ของชาร์ตบิลล์บอร์ด แต่มีคน ๆ หนึ่งที่เบื่อหน่ายกับ “Smells Like Teen Spirit” มากขึ้น นั่นก็คือตัวโคเบน “ผมพอมองเห็นว่ามันเป็นเพลงที่ดี จากมุมมองทางการขาย แต่มันดูประดิษฐ์ไปหน่อย สำหรับรสนิยมของผม” เขาพูดในปี 1993 โคเบนเริ่มไม่ยอมเล่นเพลงนี้ในโชว์ บ่อยครั้งที่เขาจะเล่นกับจังหวะของเพลง เพื่อสร้างความสับสน เพียงแค่สร้างความรำคาญให้กับคนดู ที่เขาหยันว่ามาดูเนอร์วานา ก็เพราะอยากได้ยินเพลงนี้ ตอนที่มันยังเป็นเพลงฮิตประจำเดือนอยู่ เขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดแบบนี้อีก การแต่งเพลงสำหรับอัลบัมชุดต่อไป เขาจะใส่ใจกับซาวนด์ของเพลง ที่ขัดหูพวกคอเพลงดาด ๆ จากที่คีธ คาเมรอน อดีตนักข่าวของหนังสือดนตรีเอ็นเอ็มอีมองเห็น เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังขายงานให้พวกที่ทอดทิ้งเขาตอนเป็นวัยรุ่น ให้รู้สึกแปลกแยกและโดดเดี่ยว “เคิร์ตจะไม่ขายเพลงให้พวกน่ารังเกียจ”

นอกจากจะเป็นที่รู้จักและทำให้วงโด่งดัง “Smells Like Teen Spirit” ยังเข้าชิงรางวัลแกรมมีถึง 2 สาขาในปี 1993 แต่พลาดหมด โดยในสาขาเพลงร็อคยอดเยี่ยม พวกเขาแพ้เพลง “Layla” ฉบับอันปลั้กของเอริก แคล็พทัน ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในความน่าเสียใจอย่างยิ่งที่เกิดขึ้นกับรางวัลแกรมมี และในสาขาเพลงฮาร์ด ร็อค ยอดเยี่ยม พวกเขาแพ้ เพลงของ Red Hot Chili Peppers – “Give It Away”

20 ปีหลังการฆ่าตัวตายของโคเบน กระสุนปืนหนึ่งนัดที่กระหน่ำไปที่ศีรษะของเขา ในเรือนกระจกของบ้านที่ซีแอตเติลของตัวเอง เป็นการจบอาชีพการทำงานที่กำลังลุกโชนส่องแสง “Smells Like Teen Spirit” ยังคงสร้างความบันเทิงให้กับแฟนเพลง ยังมีความสำคัญเหมือนที่เคยเป็น ศิลปินตั้งแต่ ไมลีย์ ไซรัส ไปจนถึงเคลิส ต่างก็เคยคัฟเวอร์เพลงนี้ เจย์ ซีก็ยกย่องเพลงนี้เอาไว้ในอัลบัม ‘Magna Carter Holy Grail’ ที่ออกมาเมื่อปีกลาย รวมทั้งยังถูกกล่าวถึง, นำไปใช้ในภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์ ตลอดจนถักทออยู่กับผืนผ้าวัฒนธรรมพ็อปยุคใหม่อย่างเหนียวแน่น ที่บางทีหลาย ๆ คนอาจจะรู้จักกีตาร์โซโลของมันดีกว่าเพื่อนสนิท และครอบครัวของตัวเองเสียงอีก

“Smells Like Teen Spirit” ยังเป็นเพลงที่ดีเหมือนที่เคยเป็น แต่วันนี้มันกลายเป็นเพลงเก่าไปตามกาลเวลา นี่คือเพลงสำคัญที่จัดการกับบรรดาศิลปินแฮร์ เมทัลให้หายไปจากวงการ และส่งเนอร์วานาโด่งดังในชั่วข้ามคืน และช่วยทำให้ซีแอตเทิลลงหลักปักฐาน เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ในวงการเพลงได้สำเร็จ อย่างน้อยๆ ก็จากวันนั้น มาจนถึงวันนี้ เป็นหนึ่งในเพลงที่หาได้ไม่ง่าย และเป็นงานที่คืบคลานเข้ามาอยู่ในความทรงจำ บรรดาผู้คนที่อายุนำหน้าด้วยเลขสี่ ที่ต่างจำได้ดีว่าตัวเองอยู่ที่ไหน หรือทำอะไรอยู่ในตอนที่ได้ยินเพลงนี้เป็นครั้งแรก

ท้ายที่สุดเพลงนี้ไม่ได้มีความหมายแค่กับคนยุคหนึ่ง แต่ยังมีความรู้สึกที่ไม่เคยปรากฏอยู่ในเพลงมาก่อน นั่นคือ ความเจ็บป่วยของสถาบัน, ความไม่มี ที่เพิ่มขึ้นในองค์กรโลก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เพลงนี้ยังคงมีพลัง และเป็นเหตุผลให้ผู้คนในทุกวันนี้ยังชื่นชม “Smells Like Teen Spirit” เหมือนที่เคยเป็น

จากเรื่อง เพราะอะไร Smells Like Teen Spirit ถึงกลายเป็นเป็นเพลงยอดเยี่ยมตลอดกาล ตอนที่ 1 – 3 โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ 29-30 เมษายน 2557 และ 1 พฤษภาคม 2557

ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
1
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.