Music ReviewREVIEW

ฟังไปแล้ว – BALLOON BOY อัลบัมของศิลปินเดี่ยวชื่อ ธนชัย อุชชิน ที่พร้อมจะเป็น งานโปรดของใครหลายๆ คน

BALLOON BOY / ธนชัย อุชชิน
[Balloon Boy]

“ทุกๆ ครั้ง ที่ฉันเปิดฟัง ฉันยังอุ่นใจ เพลงโปรด พาใจ เราล่องลอยไป” เนื้อร้องท่อนหนึ่งของ “เพลงโปรด” เพลงเปิดอัลบัมเดี่ยวชุดแรกของธนชัย อุชชิน ที่ชื่อ Ballon Boy ว่าเอาไว้

ด้วยดนตรีที่ฟังบางเบา บรรยากาศก็เช่นกัน “เพลงโปรด” สามารถทำให้ “ใจเราล่องลอยไป” ได้จริงๆ เนื้อหาซึ่งบอกเล่าถึงความดีงามของบทเพลงที่เคยฟังและชื่นชอบ ที่กลายมาเป็นเพลงปลุกและปลอบความรู้สึก ในยามเหนื่อยล้าและพ่ายแพ้ ก็นำความรู้สึกดีๆ ที่อยู่ในความทรงจำที่มีร่วมกับเพลงโปรดของตัวเองกลับมาอีกครั้ง และสัมผัสได้ถึงความสุขที่หอมหวานและอบอุ่น ผ่านเสียงผิวปาก ที่แสนรื่นรมย์และสบายใจ

ซึ่งทำให้เกิดอารมณ์ถวิลหาอดีตได้ไม่ยากเลย

หากฟังเพลงในอัลบัม Balloon Boy ต่อไปเรื่อยๆ จนครบ จบทั้งชุด “เพลงโปรด” ไม่ใช่แค่เพลงเปิดอัลบัม ไม่ใช่เพียงเพลงที่พูดถึงเพลงโปรด และความรู้สึกดีๆ ที่ได้ยินเพลงที่ชอบ แล้วก็เป็นมากกว่าเพลงอารมณ์ถวิลหาอดีต นึกถึงสิ่งที่สวยงาม หรือความทรงจำดีๆ ที่ยังเล็ดรอดมาถึงวันนี้ เพลงหนึ่ง เพราะ “เพลงโปรด” ยังเป็นการสรุปความสั้นๆ ที่แนะนำ เรื่องราว บรรยากาศ อารมณ์ หรือ โทน ของงานชุด Balloon Boy ไปพร้อมๆ กัน

อัลบัมที่ในเรื่องของขอบเขตดนตรี แม้ในยามเป็นโมเดิร์น ด็อก ธนชัยกับเพื่อนๆ จะนำเสนองานดนตรีที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น อัลเทอร์เนถีฟ แขนงต่างๆ ทั้งกรันจ์, บริท-ป็อป หรืองานอิเล็กทรอนิกส์, กระทั่งงานในแบบโฟล์ค-ร็อค ก็ยังไม่เคยเหยียดกายมาถึง แล้วบางทีอาจจะเป็นคำตอบต่องานแห่งยุคสมัย ที่ถูกเรียกกันว่าเป็นงานแบบ ‘เพลงทำจากห้องนอน’ หรือ Bedroom Production ด้วยเช่นกัน

กับดนตรีที่ฟังล่องลอย พร้อมจะพาจินตนาการและอารมณ์เดินทาง Balloon Boy มีคอนเซ็ปต์และจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน เมื่อเรื่องราวไม่ต่างจากการพาภาพอดีตเดินทางมาปรากฏอีกครั้ง หลังเวลาผ่านไปนานแสนนาน ทั้งเรื่องที่ทำให้สุข หรือทำให้เศร้า แต่ก็เหมือนกับอะไรหลายๆ อย่างในชีวิตที่พอผ่านพ้นมาได้ ต่อให้สาหัสสากรรจ์ขนาดไหน พอมองย้อนกลับไป ก็ทำให้มีความสุขได้ทุกที

ไม่ว่าจะเป็น “กอดคอ”, “ไปโรงเรียน”, “เขิน”, “Everyday”, “กอด” และ “Long Time No See”

จากความทรงจำถึงเพื่อนๆ สมัยยังเป็นนักเรียนขาสั้น, เรื่องเล่าถึงคนที่แอบชอบและเป็นแรงกระตุ้นแห่งความสุขที่ทำให้อยากไปโรงเรียน ซึ่งบอกได้ว่าเป็น “แฟนฉัน” ในศตวรรษที่ 21, อาการเขินในยามคนที่แอบชอบมองมา, อารมณ์ฟูมฟายถึงคนที่ฝันถึง, ความรู้สึกอยากกอดคนที่เคยรักกันอีกสักครั้ง แต่ไม่ใช่เพราะความรัก หากเพราะความรู้สึกในวันเก่าๆ ที่เป็นความเศร้าแบบสุขๆ, การที่ได้พบใครสักคนอีกครั้งและอยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานๆ ทั้งหมดทั้งล้วนเป็นการรำลึกถึงอดีต ที่ไม่สมหวังหรือไม่กลับมาด้วยความรู้สึกดีๆ ไม่ต่างกัน

ขณะที่ “ปล่อยเขาไป” และ “Don’t Wanna Say Goodbye” ก็คือรอยแผลใหม่ ที่แทนจะฟูมฟายหรือคร่ำครวญให้มากความ การปล่อยวางหรือทำใจน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า เพราะโลกยังมีอะไรอีกมากมายให้ค้นหาและชีวิตคนเราเกิดมาแล้วก็ต้องตาย ธนชัยทำให้ประเด็นในเชิงปรัชญา หรือว่าวิถีพุทธเป็นเพลงป็อปได้อย่างกลมกลืน และถึงเรื่องราวจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ดนตรีของทั้งสองเพลงก็แยกกันไปคนละทาง จากดนตรีสนุกๆ เป็นฟังก์ ฟังเป็นดิสโก ของเพลงแรก ที่มองให้เป็นนัยยะก็คงเป็นเรื่อง ชีวิตมีอะไรสนุกๆ อีกตั้งแยะ เช่นที่เนื้อร้องว่าเอาไว้ “Don’t Wanna Say Goodbye” กลายเป็นเพลงในห้วงคำนึง จมกับความรู้สึก ที่มีอารมณ์หม่นๆ ในแบบบลูส์ฉาบทับเอาไว้

การที่มีเนื้อในแทรกอยู่ในความบางเบา ทำให้เพลงที่ฟังล่องลอยของ Balloon Boy ไม่ได้มีเพียงแค่ความฟุ้งฝัน ที่ทำให้จมอยู่กับบรรยากาศบางเบา แต่ยังมีความรู้สึก สัมผัสของอารมณ์หลากหลาย ทั้งจากการเรียบเรียง และแนวทางดนตรีที่ใช้ ซึ่งเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้ ถ้า Balloon Boy คือคำตอบต่องานในแบบทำจากห้องนอน ก็เป็นคำตอบที่จัดเต็มและครบเครื่องยิ่งกว่า เช่น ขณะที่กำลังเศร้าหรือโหยหาไปกับ “กอด” ก็มีความอบอุ่น รวมไปถึงความรู้สึกดีๆ ส่งออกมาจากดนตรีสวยๆ และเสียงร้องที่มีเลือดมีเนื้อห่อหุ้มไว้

อย่าง ความลิงโลดจากการได้รักใครสักคน ใน “Everyday” ก็มีชีวิตชีวามากขึ้นด้วยดนตรีในทางของโซล

หนึ่งเพลงที่ผิดแผกแปลกแยกไปจากเพลงอื่นๆ ในเรื่องเนื้อหา (และอาจจะรวมไปถึงรายละเอียดของดนตรี) ของ Balloon Boy ก็คือ “ฟ้าคะนองกระจาย” ซึ่งบอกเล่าถึงจุดหมายในชีวิตข้างหน้า ที่ยังทำในสิ่งที่ทำต่อไป ด้วย “ใจ” และแตกต่างไปจากหลายๆ เพลงที่พูดเรื่องราวคล้ายๆ กันก็คือ ด้วย “สมอง” เหนื่อยล้าก็พักบ้างเพื่อรวบรวมเรี่ยวแรง โดยรับรู้ถึงความมุ่งมั่นและพลัง ผ่านซาวนด์กีตาร์ที่แผดเข้ามา ซึ่งเป็นการตอกย้ำซ้ำว่า ในบรรยากาศฟุ้งๆ ล่องลอยของ Balloon Boy เนื้อในของทุกเพลง มีความซับซ้อนของอารมณ์ ไม่ว่าจะจากซาวนด์ดนตรี แนวทางเพลง เสียงร้อง และเนื้อหา

ที่ทำให้ Balloon Boy ไม่ได้ลอยไปอย่างไร้ทิศทาง และทั้ง 10 เพลงในอัลบัม ก็พร้อมจะเป็น ‘เพลงโปรด’ ให้กับชีวิต หรืออย่างน้อยก็ความรู้สึกในช่วงเวลาหนึ่งของทุกคน ได้อย่างที่ “เพลงโปรด” ว่าเอาไว้ได้จริงๆ

โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ วิจารณ์-แนะนำ นิตยสารสีสัน ปีที่ 32 ฉบับที่ 3 มีนาคม 2564

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:Music Review

Comments are closed.