หมวกของดาฟท์ พังค์, ถุงยาง และตุ๊กตุ่น

อัลบั้มใหม่ของดาฟท์ พังค์ Random Access Memories นอกจากประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงแล้ว นักวิจารณ์ก็ให้การชื่นชม ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้รับความสนใจอย่างมากมายจากสื่อต่างๆ ขึ้นปกของนิตยสารบันเทิงแทบทุกเล่มก็ว่าได้ ทำให้กีย์-มานูเอล เดอ โอมอง-คริสโต กับ โตมาส์ บองกัลเต ที่ใส่หมวกคล้ายๆ หมวกกันน็อค หรือนักบินอวกาศ (ตามแต่จะมอง) เป็นภาพสามัญที่เห็นกันเต็มไปหมด

คนที่เพิ่งรู้จักกับดูโออิเล็กทรอนิกส์ เจ้าของงานเพลงที่ “ล้ำ” และเต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าฟังคู่นี้ อาจจะประหลาดใจกับภาพลักษณ์แบบแปลกๆ แต่หากรู้จักมานานก็คงรู้ว่า นี่คือเครื่องแบบประจำตัวของพวกเขา ซึ่งเป็นทั้งเสน่ห์ และดูประหลาดๆ ในคราวเดียวกัน นี่คือศิลปินที่พูดถึงเรื่องวิวัฒนาการทางศิลปะ มองดนตรีว่าเป็น การเชื้อเชิญไปสู่การเดินทางด้านสรรพเสียง ด้วยสำเนียงที่เย่อหยิ่ง แต่กลับใส่หมวกที่เป็นศิลปะที่ไม่หวือหวา ราวกับมาจากปกหลังนิยายของไอแซ็ค อาซิมอฟ ในยุค 80 บองกัลเตอธิบายว่า ภาพลักษณ์แบบหุ่นยนต์นั้น เป็นทั้งลูกเล่นในเชิงปรัชญาแบบไฮ-คอนเซ็ปท์ “เราสนใจเรื่องเส้นแบ่งระหว่างเรื่องแต่งกับเรื่องจริง การสร้างบุคลิกภาพแบบนิยายแต่มีตัวตนอยู๋ในโลกจริงๆ” เป็นทั้งการห่อหุ้มดนตรีของพวกเขาเอาไว้ในบุคลิกภาพแบบป็อปที่มีสีสัน มีเรื่องราว ในแบบเดียวกับ “วงคราฟท์เวิร์ค และซิกกี้ สตาร์ดัสท์ แล้วก็วงคิสส์ คนมักจะคิดว่าหมวกเป็นแค่เรื่องของการตลาด หรืออะไรทำนองนั้น แต่สำหรับเรามันคือการเป็นศิลปินแกลม ในแบบไซ-ไฟ”

หุ่นยนต์ยังทำให้ทั้งคู่มีลักษณะแบบตัวร้าย และเรียกร้องความสนใจจากแฟนเพลง ในเรื่องหน้าตาของพวกเขา ซึ่งก็ดูดี แต่ไม่มีความโดดเด่น “เราไม่ใช่พวกนักแสดง หรือนายแบบ คงไม่สนุกนักหรอกสำหรับผู้คนที่จะได้เห็นพวกเรา” เดอ โอมอง-คริสโต พูดขำๆ แกมเหน็บ “แต่หุ่นยนต์มันสร้างความตื่นเต้นให้กับคนดูได้จริงๆ”

ย้อนไปในยุค 90 ทั้งคู่ใช้ถุงดำสวม แล้วตอนถ่ายรูปโปรโมทก็ใส่หน้ากากฮัลโลวีนหลอนๆ เพิ่มเข้ามา ก่อนจะเป็นหมวกหุ่นยนต์ที่ออกแบบโดยเพื่อนศิลปินชาวฝรั่งเศส ซึ่งแบบแรกจะมีวิกผมด้วย ผมตรง สลวยจะเป็นของเดอ โอมอง-คริสโต ส่วนผมหยิกจะเป็นของบองกัลเต หมวกใบนี้เปิดตัวหนแรกในการถ่ายปกนิตยสารฉบับหนึ่งในปี 2001 ต่อมาพวกเขาก็เอาวิกออก เพราะมองว่า มันน่าจะดูดีกว่า นับจากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของหมวกหลายครั้ง บ้างก็มีเครื่องปรับอากาศ บ้างก็มีอุปกรณ์สื่อสาร ติดเอาไว้สำหรับการแสดงสด แล้วยังมีที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการถ่ายภาพ หรือสำหรับการใช้งานในวาระพิเศษ

หมวกใบล่าสุดของดาฟท์ พังค์ ได้บริษัททำสเปเชียล เอฟเฟ็คท์ในฮอลลีวู้ดที่ “ทำงานให้หนัง Spider-Man เรื่องใหม่” ทำให้ บองกัลเตเผย พร้อมเสริมด้วยว่า ทางบริษัทเซ็นสัญญากับพวกเขาไม่ให้เปิดเผยวัสดุต่างๆ ที่ใช้ผลิตอีกต่างหาก เขายังเปรียบเทียบ ดาฟท์ พังค์ กับ”แอนดี้ วอร์ฮอล ตรงที่ผสมผสานศิลปะเข้ากับความเป็นแมสส์ได้อย่างลงตัว” และหมวกแบบนี้ที่ทำกันเองก็มีขายให้เกลื่อนบนอีเบย์ “แต่ขนาด วัสดุมันไม่เป๊ะหรอก และยากที่จะทำได้ด้วยการดูแค่รูป ทำได้ก็แค่คล้ายๆ นิดๆ หน่อยๆ” บองกัลเตย้ำ

ก่อนที่จะพูดถึงอุปกรณ์ปกปิดหน้าตาของพวกเขาส่งท้าย “สิ่งหนึ่งที่ผมชอบสำหรับการใส่หน้ากากก็คือ ไม่มีใครที่ดิ่งมาหาผม แล้วทำให้ผมนึกได้ว่าผมไปทำอะไรมา” และ “เป็นเรื่องที่เยี่ยมเลย ที่สามารถถูกลืมได้”

ที่น่าตลกก็คือ เมื่อหลายปีก่อนที่อิบิซา มีชายคนหนึ่งวิ่งขึ้นไปที่ป้ายของบาร์ แล้วก็อ้างว่าเป็นเขา

และกับความสำเร็จที่ได้รับจากอัลบั้ม Random Access Memories ที่คนฟังก็รัก นักวิจารณ์ก็ชอบ ดาฟท์ พังค์กำลังจะแตกไลน์ความสำเร็จออกไปสู่สินค้า หรือผลิตภัณฑ์ในรูปแบบอื่นๆ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งในการโปรโมทอัลบั้มชุดนี้ โดยที่อิงกับภาพลักษณ์ของพวกเขาไปพร้อมๆ กัน อย่างแรกก็คือ แอ็คชั่น ฟิเกอร์ หรือที่เรียกกันแบบบ้านๆ ว่า ตัวตุ๊กตุ่น

สำหรับแอ็คชั่น ฟิเกอร์ดาฟท์ พังค์ จะมีความสูง 6 นิ้ว และออกแบบโดยผ่านการเห็นดูแล ตรวจสอบของบองกัลเต กับเดอ โอมอง-คริสโต ซึ่งจะทำออกมาเป็นตัวของพวกเขาในแบบที่เห็นช่วงโปรโมทอัลบั้ม Random Access Memories รวมทั้ง “ทำขึ้นมาแบบใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน ตัวหมวกจะใช้วัสดุที่มันเงา ส่วนอื่นๆ ก็จะมองเห็นได้อย่างชัดเจนเพื่อความสมจริง” นั่นคือข้อความที่ว่าเอาไว้ถึงลักษณะของแอ็คชั่น ฟิเกอร์ พร้อมทั้งยังมีชิ้นส่วนของมือมาให้อีกถึง 7 เซ็ท เพื่อที่จะสามารถถอดเปลี่ยนได้ และสามารถโพสท่าได้โดยให้ความรู้สึกถึงความเคลื่อนไหว และการเปลี่ยนแปลง”

สำหรับตุ๊กตุ่นของดาฟท์ พังค์จะมีการเปิดให้จองล่วงหน้า ก่อนที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ สำหรับผู้ผลิตและออกแบบนั้น จะเป็นบริษัทบันไดของญี่ปุ่น ที่นักเล่นตุ๊กตุ่นทั้งหลายน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

และนอกจากแอ็คชั่น ฟิเกอร์แล้ว ดาฟท์ พังค์ ยังจับมือกับดูเร็กซ์ทำถุงยางอนามัยในชื่อ เก็ท ลัคกี้ ออกมาด้วย โดยเป็นการเอาชื่อซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้ม Random Access Memories มาตั้ง และมีความหมาย มีนัยในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์แบบปลอดภัยไปพร้อมๆ กัน โดยแพ็คเกจของถุงยางอนามัยเก็ท ลัคกี้จะมีภาพของดาฟท์ พังค์, ฟาร์เรลล์ และไนล์ รอดเจอร์ส กำลังเล่นดนตรีอยู่ต่อหน้าพระอาทิตย์ที่กำลังสาดแสง

แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะมีการทำถุงยางที่ว่านี้ออกมาจำหน่ายอย่างเป็นจริงเป็นจังหรือไม่ เพราะที่มีออกมานั้นก็เป็นเพียงของที่ระลึกจากอัลบั้ม Random Access Memories ที่ทางดูเร็กซ์ส่งไปให้ดีเจตามที่ต่างๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการโปรโมทอัลบั้มของดาฟท์ พังค์ และผลิตภัณฑ์ของตัวเอง

ดาฟท์ พังค์ ไม่ใช่ศิลปินรายแรกที่เอาชื่อของตัวเองไปเป็นหน้าเป็นตาของถุงยางอนามัย ลูดาคริสก็เคยร่วมงานกับถุงยางอนามัยแม็กนัมมาแล้วในปี 2011 ขณะที่เคช่าก็เคยยิงถุงยางออกจากปืนใหญ่บนเวทีคอนเสิร์ตมาแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานร่วมกับถุงยางอนามัย ไลฟ์สไตล์ส ในปี 2011

สำหรับเพลง Get Lucky เป็นซิงเกิ้ลแรกของปี 2013 ที่สามารถขายได้มากกว่า 1 ล้านก็อปปี้ในอังกฤษ เพลงดิสโก้สุดฮิตเพลงนี้เป็นการทำงานของดาฟท์ พังค์ กับฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ และไนล์ รอดเจอร์ส โปรดิวเซอร์ระดับตำนาน โดยเป็นซิงเกิ้ลที่ขายได้ถึงล้านก็อปปี้เพลงที่ 136 ในประวัติศาสตร์ชาร์ทเพลงซิงเกิ้ลของอังกฤษ

จากเรื่อง หมวกของดาฟท์ พังค์, ถุงยาง และตุ๊กตุ่น คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ โดย นพปฎล พลศิลป์ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 25-26 กรกฎาคม 2556