เป็นหนังที่ดู 2 วัน 3 รอบ ไม่ได้เยี่ยมยอดอะไรมากมายในแง่คุณภาพหนัง แต่มัน Touch ความรู้สึก พระเอกแมนโคตรๆ ทั้งรักเพื่อน ทั้งโรแมนติก นางเอกอู๋เชียนเหลียน ก็น่ารัก และหลิวเต๋อหัวก็ดูเท่ที่สุด ถือเป็นหนัง และการแสดงที่ส่งทั้งคู่ให้เป็นขวัญใจคอหนังกันเลย
ตัวประกอบแต่ละคนทั้งฝ่ายดี ฝ่ายร้ายก็ได้ใจสุดๆ โดยเฉพาะ อาตั๊ม ตัวร้ายที่ไม่มีสีขาวให้เห็น กับ อาโบ้ของอู๋ม่งต๊ะ เพื่อนผู้น่าสงสาร ที่มีแค่คำโวถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต ของพี่หลิว นักเลงหนุ่มผู้เปลี่ยวเหงา
หนังเป็นงานโศกนาฏกรรม ดอกฟ้ากับหมาวัด เล่าเรื่องง่ายๆ ไม่ซับซ้อน และด้วยความไม่ซับซ้อน มันก็ทำให้หนังเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
ฉากไคลแม็กซ์ของหนัง ที่พี่หลิวพาแฟนสาวลูกเศรษฐีไปแต่งงาน ทำหน้าที่คนรักก่อนไปดวลกับอาตั๊มนั้น เท่มาก เริ่มตั้งแต่ไปรับนางเอกที่บ้าน พาไปทุบกระจกร้านเวดดิ้ง แต่งตัวในชุดเจ้าบ่าว-เจ้าสาวไปโบสถ์เพื่อแต่งงาน แล้วก็หนีเธอ เพื่อไปทำหน้าที่เพื่อนตาย เป็นลูกผู้ชายที่ทำตามสัญญากับทั้งผู้หญิงที่รัก และเพื่อนที่ผูกพัน เชื่อเถอะว่า ทำเอาน้ำหูน้ำตาไหลกันพรากๆ ยาวเหยียดสิบกว่านาที
จำได้ว่าดูที่เซ็นจูรี สมัยที่เป็นโรงเซ็นจูรี 1 และ 2 แบบสองรอบติด ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะไปดูฉบับเสียงจีนอีกที่โรงรามา (หรือเปล่า? ไม่แน่ใจ ที่อยู่แถวสามย่าน ทางไปหัวลำโพง) ความฮิตของหนังนั้น ถึงกับมีการนับสถิติคนดูเยอะรอบสุดด้วย ลองค้นๆ ดู เห็นว่าทำสถิติถึง 26 รอบ
ถ้าจำไม่ผิด หนังไม่ได้ตังค์นักในฮ่องกง แต่ไปได้สวยมากๆ แถวๆ อาเชียน ทั้งไทย สิงคโปร์ มาเลฯ และไต้หวัน
ดูแล้วคิดอยากมีมอเตอร์ไซค์ใหญ่ๆ แบบนี้ขับอยู่พักหนึ่ง และหลังจากนั้นผู้หญิงของพี่หลิว ใครๆ ก็ Touch ไม่ได้ อยู่พักใหญ่
นี่คือเพลงสุดท้ายในฉากไคลแม็กซ์ของหนัง ที่ทำเอาทิชชูบางคนหมดห่อ หรือบิดผ้าเช็ดหน้ากันแทบไม่ทัน เอามาฝากกันสำหรับคนที่มีความทรงจำถึงหนังเรื่องนี้
โดย ลุงทอย