FEATURESMusic Features

อนาคตของ ไอทูนส์ เรดิโอ

ตามเรื่องไอทูนส์ เรดิโอ ตั้งแต่ยังใช้ชื่อ ไอเรดิโอ มาหลายตอนแล้ว ก็ขอตามต่อให้ครบถ้วนกระบวนความ ถึงบริการเพลงสตรีมมิ่งของแอปเปิล ที่เปิดตามหลังชาวบ้าน ทั้งๆ ที่ในตลาดขายเพลงดิจิตอลนั้น ตัวเองเป็นผู้นำตลาดอยู่แท้ๆ โดยวันนี้จะมาดูกันว่า ชาร์ลส์ อาร์เธอร์ ของเดอะ การ์เดียน มองอนาคตของไอทูนส์ เรดิโอกันยังไง

โดยในปัจจุบัน ไอทูนส์ มิวสิค สโตร์ของแอปเปิล ที่เปิดมาได้ 10 ปีแล้ว ถือเป็นร้านค้าปลีกเพลงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใหญ่กว่าเว็บขายของออนไลน์อย่างอะเมซอน และผู้ใช้บริการจะต้องลงโปรแกรม หรือ แอพพลิเคชั่น ไอทูนส์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์, ไอโฟน หรือไอแพดของตัวเองเพื่อใช้บริการ ไอทูนส์ มิวสิค สโตร์มีจำนวนเพลงกว่า 26 ล้านเพลง มีลูกค้าลงทะเบียนบัตรเครดิตไว้ถึง 575ล้านคน ซึ่งมากกว่าของคู่แข่ง และอัตราการเพิ่มของผู้ใช้ไอทูนส์ จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละประมาณ 500,000 คนต่อวัน

ด้วยปริมาณผู้ใช้งานขนาดนี้ ทำให้ไอทูนส์ มิวสิค สโตร์แทบจะกลายเป็นร้านขายเพลงออนไลน์เพียงเจ้าเดียว และบรรดาค่ายเพลง ศิลปิน ต่างก็ทั้งรักทั้งชังแอปเปิล เพราะแม้จะเกลียดความเป็นยักษ์ใหญ่ ชี้เป็นชี้ตายใครก็ได้ แต่ก็ต้องรัก เพราะแอปเปิลทำให้ไฟล์เพลงดิจิตอลเป็นสินค้าที่ขายได้ และทำเงิน โดยก่อนหน้าที่จะเปิดตัว ค่ายเพลงแทบจะเลือดหมดตัวตายจากพวกเว็บแชร์ไฟล์กันอยู่แล้ว

กับการแนะนำบริการใหม่ ไอทูนส์ เรดิโอ ในงานประจำปีของแอปเปิลเมื่อต้นเดือนมิถุนายน แม้จะมาช้ากว่าชาวบ้าน สำหรับบริการฟังเพลงแบบสตรีมมิง แต่ท้ายที่สุดแล้วก็น่าจะไปได้ดี โดยคร่าวๆ ผู้ใช้บริการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งหลักๆ นั้นมีไม่กี่เจ้า ในอเมริกายักษ์ใหญ่เป็น แพนดอร่า มีคนลงทะเบียนไว้ 200 ล้านคน ส่วนในตลาดโลกก็คือสปอติฟาย มีลูกค้าแบบจ่ายเงินอยู่ 6 ล้านคน กับอีก 24 ล้านคนลงทะเบียนฟังอยู่ทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีจิ๊บๆ จ้อยๆ อย่างอาร์ดิโอ, ลาสท์ เอฟเอ็ม ฯลฯ

สำหรับการบริการสตรีมมิ่ง ลูกค้าจะไม่ได้ซื้อหรือเป็นเจ้าของไฟล์เพลง แต่จะได้แค่ฟัง โดยสามารถจัดรายชื่อเพลง เรียงเพลงได้ตามความต้องการ ซึ่งจะเสียเงินค่าบริการต่ำมากๆ อย่างสปอติฟาย ราคาในอังกฤษก็ราวๆ .085 เพนซ์ต่อเพลง ซึ่งฟังได้มากกว่า 10 ครั้ง ขณะที่ในอเมริกา ราคาจะอยู่ที่ .96 เซนต์ต่อเพลง

แม้จะเป็นบริการที่มีคนใช้เยอะ และอยู่ในกระแสความนิยม แต่ปัญหาหนึ่งที่บรรดาผู้ให้บริการฟังเพลงสตรีมมิ่งต้องเจอก็คือ ทำให้มีผลกำไร เพราะยิ่งมีคนฟังเยอะ พวกเขาก็ต้องจ่ายค่าเพลงเงินเยอะ ทำให้หลายๆ ผู้ให้บริการต้องสร้างข้อจำกัดให้ลูกค้า หรือตัวเอง อย่าง สปอติฟาย จะให้ลูกค้าที่ลงทะเบียนฟังฟรี ฟังได้แค่ 10 ชั่วโมงต่อเดือน ส่วนแพนดอร่านั้นจะให้บริการเฉพาะลูกค้าที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

เมื่อวาน ว่ากันถึงที่ว่า บริการฟังเพลงสตรีมมิ่งแม้จะโตขึ้น แต่ปัญหาก็คือ สร้างผลกำไรให้ผู้ให้บริการยังไม่ได้ ยิ่งคนฟังมากกลับต้องจ่ายเยอะ ทำให้ต้องมีการจำกัดเงิื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นกับลูกค้า หรือว่าตัวเอง เช่น ถ้าลงทะเบียนฟังฟรี จะฟังได้แค่ 10 ชั่วโมงต่อเดือน หรือบล็อคผู้ใช้บริการให้อยู่ในวงจำกัด

บางทีสตีฟ จ็อบส์ คงมองเห็นปัญหา เลยพูดในปี 2007 ว่า “ลูกค้าดูเหมือนไม่สนใจในเรื่องนี้ (บริการสตรีมมิ่ง)” แต่หลังจากเขาเสียชีวิต สิ่งที่แอปเปิลทำก็คือ แทบเล็ทหน้าจอ 7 นิ้ว ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และตอนนี้การลงทะเบียนฟังเพลง เห็นได้ชัดว่า ถ้ามีโอกาส “ทำเงิน” แอปเปิลในยุคนี้ ก็ยอมที่จะเปลี่ยนความคิด

แล้วไอทูนส์ เรดิโอจะทำเงินจากไหน อย่างแรกต้องดูกันก่อนว่า บริการนี้จะผูกผู้ใช้บริการเข้ากับไอทูนส์ และเปิดให้บริการเฉพาะในสหรัฐ อเมริกาเป็นที่แรก ซึ่งมีผู้ใช้ไอโฟนราวๆ 54 ล้านคน คิดเอาว่ามีสัก 50 ล้านคนมาใช้ไอทูนส์ เรดิโอ ฟังเพลงราวๆ 10 ชั่วโมงต่อเดือน (ราวๆ 200 เพลง) ค่ายเพลงจะได้เงินจากไอทูนส์ เรดิโอถึง 96.9 ล้านเหรียญต่อเดือน!!! ถ้าเป็นสปอติฟาย หรือแพนดอร่า จำนวนเงินขนาดนี้ ทำให้ต้องปิดบริษัทได้ไม่ยาก แต่แอปเปิลมีรายได้จากการขายไอโฟน หรือไอแพดมารองรับ ซึ่งเป็นสินค้าที่เงินมาเข้ากระเป๋าของพวกเขาเต็มๆ ยิ่งไปกว่านั้น ไอทูนส์ สโตร์ จะมีรายได้จากโฆษณามาสนับสนุนอีก และรายได้จากตรงนี้เอง ที่น่าจะเป็นจุดกำเนิดของไอทูนส์ เรดิโอ ด้วยตัวเลขรายได้ขนาดนี้ ทำให้แอปเปิลเคาะ “ราคา” กับค่ายเพลง สำหรับการเปิดบริการในภูมิภาคอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องมาห่วงว่าจะหาเงินจากไหนมาให้ค่ายเพลง

แล้วเมื่อผู้ใช้บริการฟังเพลงจากไอทูนส์ เรดิโอแล้วชอบ อยากซื้อ ก็ซื้อได้ทันทีผ่านไอทูนส์ มิวสิค สโตร์ ในแบบกดคลิกเดียว แน่นอนว่าแอปเปิลมีรายได้จากการขายเพลงอยู่แล้ว คำนวณง่ายๆ แค่คนฟังทุกๆ 50คน ซื้อแค่เพลงเดียว บริการนี้ก็ทะลุเป้า

ช่วงที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของค่ายเพลงกับแอปเปิลจะดูแปลกๆ และพวกเขาก็ไม่ผูกมัดตัวเองมากนัก เลยได้เห็นค่ายเพลงให้ความช่วยเหลือสปอติฟาย ที่มีการให้บริการที่ดี มีลูกค้าระดับเยี่ยม, ให้สิทธิพิเศษกับการขายเอ็มพีธรีกับอะเมซอน (ที่มีแผนจะเปินบริการสตรีมมิ่งเหมือนกัน) แล้วยังหนุนกูเกิลเปิด กูเกิล เพลย์ มิวสิค ออล แอคเซส บริการสตรีมมิ่งที่ชื่อฟังพะรุงพะรังมาก ซึ่งเป็นบริการที่ต่างไปจากบริการอื่นๆ ของกูเกิล ตรงที่จะไม่มีโฆษณามาสนับสนุน เน้นรายได้จากคนที่เข้ามาลงทะเบียนล้วนๆ และอาจจะสร้างปัญหาให้กับกูเกิลได้

กับการเป็นบริษัทที่ทำให้ดนตรี ดิจิตอลขยายตัวไปได้ในระดับที่เหนือความคาดหมาย หากสามารถจัดการการเซ็นสัญญาในอีกหลายๆ ภูมิภาคของโลกได้ ไอทูนส์ เรดิโอ พร้อมจะเป็นบริการฟังเพลงสตรีมมิ่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ ที่น่าตลกก็คือ ในปี 2003 ตอนที่สตีฟ จ็อบส์ ไปเกลี้ยกล่อมให้ค่ายเพลงเซ็นสัญญาขายเพลงกับไอทูนส์ มิวสิค สโตร์ด้วยการอ้างว่า ฐานลูกค้าของแอปเปิลนั้น เล็กนิดเดียว หากมันล้มเหลวขึ้นมา ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรในวงกว้าง และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็น่าจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาสร้างขึ้น

และก็น่าจะพอมองถึงอนาคตของไอทูนส์ เรดิโอได้เลาๆ แล้วว่า ก็น่าจะเป็นอย่างไร

จากเรื่อง อนาคตของ ไอทูนส์ เรดิโอ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ โดย นพปฎล พลศิลป์ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ 25-26 มิถุนายน 2556

 

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.