FEATURESMusic Featuresดนตรีมีเหตุ

อำลา-อาลัย เจเจ เคล เจ้าของเพลง After Midnight และ Cocaine

JJ Caleชื่อของเจเจ เคล อาจจะไม่ป็อปปูลาร์นัก อย่างน้อยก็ไม่มากเท่ากับเพลง Cocaine หรือ After Midnight ของเขา ที่ถูกนำไปร้องใหม่โดยเอริค แคลปตัน ที่มีเคลเป็นขวัญใจคนสำคัญ นอกจากนี้ Call Me the Breeze ของเขายังกลายเป็นเพลงฮิตอีกเพลง เมื่อถูกนำไปร้องใหม่โดยวงลีนเนิร์ด สกินเนิร์ด

และเมื่อวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจเจ เคลก็จากโลกนี้ ด้วยวัย 74 ปี ที่โรงพยาบาลสคริปป์ส ในลา จอลลา, แคลิฟอร์เนีย หลังมีการอาการหัวใจวาย

นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของบทเพลงฮิตหลายๆ เพลงที่ว่ามาแล้ว เคลยังเป็นที่รู้จักดีจากสไตล์การเล่นเพลงบลูส์ที่ฟังผ่อนคลาย โดยนำเอางานแจ็ซซ์และโฟลค์เข้ามาผสมได้อย่างลงตัว

หากเคยฟังงานของเคล แล้วเทียบกับงานของแคลปตัน ก็คงเดาไม่ยากว่า อิทธิพลทางดนตรีสำคัญของแคลปตันนั้นมาจากใคร

สำหรับความเป็นมาในเรื่องการทำงานเพลงของเคลนั้น เริ่มจากการเล่นในวงฮองกี้-ทองค์สในทุลซ่า, โอคลาโฮมา ก่อนจะไปร่วมทีม เดอะ แกรนด์ โอล์ โอพรี ในการออกทัวร์ พอปี 1964 ก็ย้ายมาลอส แองเจลีส ทำงานเป็นเอ็นจิเนียร์ในห้องอัดให้กับตำนานของวงการเพลงอย่าง ลีออน รัสเซลล์ และสนัฟฟ์ การ์เร็ทท์ ปีถัดมาเคลก็มีโอกาสออกซิงเกิ้ลแรกในชีวิตของตัวเอง ที่มีเพลง After Midnight เป็นเพลงซิงเกิ้ลหน้าบี

ซึ่งกลายมาเป็นเพลงฮิตเพลงแรกของเอริค แคลปตันในฐานะศิลปินเดี่ยว เมื่อเอาเพลงนี้มาคัฟเวอร์ แล้วก็ตามด้วย Cocaine อีกเพลง ขณะที่ลีนเนิร์ด สกินเนิร์ดก็เอาเพลง Call Me Breeze มาทำใหม่ แล้วกลายเป็นเพลงฮิตของวง แม้จะไม่มีชื่อเสียงโด่งดังเท่ากับเพลงของตัวเองที่ถูกศิลปินอื่นเอาไปร้อง ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ค่อยออกสื่อ ไม่ค่อยจะออกทัวร์ รวมไปถึงไม่ค่อยนำเสนอภาพของตัวเองออกมา แต่เคลก็ได้รับการยกย่องมาโดยตลอดในฐานะยอดฝีมือของวงการเพลงอีกคนหนึ่ง และเอริค แคลปตันที่ได้รับอิทธิพลทางดนตรีของเคลก็เชิญเคลมาทำงานร่วมกับในอัลบั้ม The Road to Escondido ซึ่งทำให้เคลคว้ารางวัลแกรมมี่ในปีมาครองได้ในปี 2008 ร่วมกับแคลปตัน

“ผมเป็นคนที่อยู่ในฉากหลัง” เคลให้สัมภาษณ์เอาไว้เมื่อปี 1990 “ผมไม่ใช่ศิลปินชื่อสามัญประจำบ้าน ผู้คนได้ยินเพลงของผม แต่ทุกเพลงฮิตของผมก็ถูกทำให้ดังโดยคนอื่นๆ แต่นั่นก็คือเป้าหมายของผม” และเมื่อถูกถามว่ารู้สึกยังไงที่ได้ยินเพลงของตัวเอง ที่กลายเป็นเพลงฮิตเพราะคนอื่น “ไม่ มันไม่กวนใจอะไรผมเลยนะ” เคลหัวเราะ “ที่ดีที่สุดก็คือ ตอนที่คุณได้เช็คส่งมาทางไปรษณีย์”

ตลอดชีวิตการทำงาน เคลมีอัลบั้มเดี่ยวของตัวเอง 14 ชุด เริ่มจาก Naturally ในปี 1972 และถึงแม้จะเก็บตัว แต่สิ่งที่เคลทำก็ส่งต่ออิทธิพลไปยังนักดนตรีในรุ่นต่อๆ มา อย่างเต็มที่ “ความเรียบง่าย, การหักห้ามใจ และการแสดงแบบไม่ปลดปล่อยออกมาเต็มที่ การร้องแบบกดๆ มันมีพลังมากๆ” เบ็ค ศิลปินรุ่นหลังกล่าวถึงเคล “พลังของการทำอะไรน้อยๆ และควบคุมความรู้สึกในเพลง ผมได้อิทธิพลเหล่านี้มากมายมาจากเขา”

neil-youngนีล ยังเคยบอกว่า เคลและจิมิ เฮนดริกซ์เป็น มือกีตาร์ที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยิน ในหนังสือบันทึกความทรงจำเล่มล่าสุด ยังบอกอีกว่า Crazy Mama เพลงฮิตที่สุดของเคลที่ขึ้นถึงอันดับ 22 ในชาร์ท คือ 1 ใน 5 เพลงที่มีอิทธิพลต่อเขาในการแต่งเพลง “มันฟังดูจริง, เรียบง่าย, ตรงไปตรงมา และถ่ายทอดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ การเล่นกีตาร์ของเคลมีอิทธิพลอย่างมากต่อผม สัมผัสของเขานั้นเป็นสิ่งที่อธิบายเป็นคำพูดออกมาไม่ได้”

และเอริค แคลปตัน ที่สนิทสนมกับเคลแล้ว ก็ยังซึมซับดนตรีและบุคลิกภาพของเคลไว้ในตัว ในอัลบั้มชุดใหม่ของแคลปตัน Old Sock มี Travellin’ Light, I’ll Male Love to You Anytime กับเพลงที่เคลแต่งไว้อย่าง Angel อยู่ในอัลบั้ม ส่วนเพลง Layla แม้ไม่เกี่ยวข้องกับเคล แต่สไตล์ เห็นได้ชัดว่าเป็นหนี้เคลไม่น้อย ทั้งคู่ยังร่วมกันคว้ารางวัลแกรมมี่อัลบั้มบลูส์ร่วมสมัยยอดเยี่ยมเมื่อปี 2008 มาครองจากอัลบั้ม The Road to Escondido

เคลกับแคลปตันพบกันครั้งแรกในปี 1976 ตอนนั้นเคลไปเล่นที่ลอนดอน แคลปตันเป็นวงสนับสนุน “เขามีรัศมีมาก อบอุ่น และวางตัวเรียบๆ” นั่นคือครั้งแรกที่ทั้งสองคนเจอกัน “ไม่นานมานี้ ผมถามเขาว่า คุณใช้เวลาทำอะไรบ้าง? เขาตอบว่า ซื้อกีตาร์แล้วก็เล่น เขาเป็นคนที่มีชีวิตง่ายๆ และทำงานเยอะ แต่ไม่เคยมีชื่อเสียงโด่งดัง” แคลปตันยังบอกว่าเคล เป็นคนที่มีชีวิตอยู่ที่เขาชื่นชมมากที่สุด “ตอนที่ผมยังดิ้นรนกับกระแสกีตาร์ฮีโรในยุค 70 เขาเป็นเหมือนแสงสว่างในความมืดเขานำผมไปสู่เส้นทางอีกสายหนึ่ง ซึ่งเป็นทางที่นำไปพบความสมบูรณ์แบบทางดนตรี” เคลเองก็พูดถึงแคลปตันไว้ว่า “เขาร้องเพลง เล่นกีตาร์ได้จริง นั่นคือสิ่งแตกต่างระหว่างเขากับผม ขณะที่ผมต้องปรับโน่นนี่หาทางให้ซาวนด์ออกมาเหมาะสม เขาทำมันออกมาได้เป๊ะๆ” ที่สำคัญที่สุดก็คือ การให้ความสำคัญที่แคลปตันมีต่อชีวิตของเขา “บางทีวันนี้ผมคงไปขายรองเท้าแล้ว ถ้าไม่มีอีริค”

cale claptonคำพูดที่ว่าแสดงความถ่อมตนของเคลชัดเจน การที่แคลปตันมีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อหยิบเพลงของเคลไปเล่น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เพลงเหล่านั้นสร้างความแข็งแรงให้สถานภาพแบบ แคลปตันคือพระเจ้า “ผมพยายามอย่างหนัก แต่ไม่เคยทำสำเร็จเลยกับการบันทึกเสียงออกมาในแบบเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมต้องการ” แคลปตันพูดไว้ในวิดีโอโปรโมทอัลบั้ม Escondido “ก่อนดินจะกลบหน้า ผมอยากทำอัลบั้มกับเคล โดยให้เขาเป็นคนกุมบังเหียน” และดนตรีของเคล “เป็นการผสมผสานที่แปลกมากๆ มันไม่ใช่บลูส์แท้ๆ ไม่ใช่โฟลค์ หรือคันทรี่ หรือร็อค แอนด์ โรลล์ มันเป็นอะไรสักอย่างที่อยู่ตรงกลาง”

หากย้อนไปดูจุดกำเนิดของเคล นี่คือคนที่อยู่ตรงทางแยก เขาเกิดที่โคคลาโฮมา โตที่ทูลซา ทางหนึ่งถูกเสิร์ฟด้วยดนตรีคันทรี่และตะวันตก อีกทางก็เป็นบลูส์ โอคลาโฮมาเป็นหม้อหลอมของดนตรีสไตล์ต่างๆ และเคลก็เรียนรู้สไตล์เหล่านั้น ก่อนมาใช้ชีวิตในแอลเอ และแนชวิลล์ แต่เขาก็ยังใช้กลองไฟฟ้า หลายๆ ครั้งที่เขาควบตำแหน่งโปรดิวเซอร์, เอ็นจิเนียร์ และนักดนตรีในงานของตัวเอง เขาจัดการฝังเสียงร้องราวกระซิบลงไปในตอนมิกซ์ เพราะต้องการให้คนฟังใส่ใจ และตั้งใจฟัง

“สิ่งต่างๆ ย้อนกลับมาหาผม ในฐานะเป็นคนมิกซ์เสียง และเอ็นจิเนียร์” เคลบอกไว้ในปี 2009 “เพราะเทคโนโลยีในยุคนี้ คุณสามารถทำเพลงได้ด้วยตัวเอง และคนตั้งเยอะก็ทำกัน แต่ผมเริ่มทำแบบนี้มานมนานกาเลแล้ว และพบว่าเวลาทำงานแบบนี้ มันจะมีซาวนด์ที่เฉพาะตัว”

นี่ละศิลปินของศิลปิน คนที่อาจไม่ยิ่งใหญ่ในสายตาคนทั่วไป แต่ยิ่งใหญ่มากมายในสายตาของศิลปิน

จากเรื่อง อำลา-อาลัย เจเจ เคล เจ้าของเพลง After Midnight และ Cocaine และเรื่อง อิทธิพลดนตรีของเจเจ เคล โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 31 กรกฎาคม 2556, 1 สิงหาคม 2556

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.