อีกหนึ่งตำนานที่จากไป เบน อี คิง

เมื่อวันสุดท้ายของเดือนเมษายนที่ผ่านมา เจ้าของเสียงเพลงที่เปี่ยมไปด้วยความหมายของมิตรภาพ Stand By Me เบน อี คิง ก็จากโลกนี้ไปด้วยวัย 76 ปี แม้เวลาจะผ่านมานานพอสมควร แต่กับสิ่งที่เขาสร้าง ทำไว้ให้กับวงการเพลง ดนตรีมีเหตุขอหยิบเอาเรื่องราวของเขามาบันทึกไว้ให้ได้รำลึกถึงกัน

เบน อี คิง เป็นนักร้องแนวอาร์แอนด์บี, โซล ที่เริ่มการทำงานด้วยการเป็นสมาชิกในวง The Drifters ช่วงปลายยุค 50 ที่มีเพลงฮิตอย่าง There Goes My Baby และ Save The Last Dance For Me ที่พอมาเป็นศิลปินเดี่ยว ก็มีเพลงฮิตติดท็อปไฟว์ในอเมริกาปี 1961 ด้วยเพลง Stand By Me ซึ่งกลายเป็นเพลงคลาสสิคของวงการเพลง ที่น่าทึ่งก็คือ เมื่อถูกนำมาใช้ในหนังชื่อเดียวกัน และในโฆษณาตอนยุค 80 เพลง Stand By Me ก็กลับมาขึ้นถึงอันดับ 1 ในชาร์ทเพลงของเกาะอังกฤษกันเลยทีเดียว

เบน อี คิง มีชื่อเต็มๆ ว่า เบนจามิน เอิร์ล เนลสัน เป็นสมาชิกในวง The Five Crowns ที่เปลี่ยนชื่อเป็น เดอะ ดริฟเตอร์ส หลังจากผู้จัดการวงไล่สมาชิกดั้งเดิมออก นอกจากจะเป็นนักร้องแล้ว เขายังร่วมแต่งเพลงฮิตของวง There Goes My Baby ซึ่งขึ้นถึงอันดับ 2 ในอเมริกาเมื่อปี 1959 แต่หลังจากขอขึ้นค่าตัวจากถูกๆ 100 เหรียญต่อสัปดาห์ และถูกปฏิเสธ เขาตัดสินใจเป็นศิลปินเดี่ยว เปลี่ยนนามสกุลเป็นคิง

คิงมีเพลง Spanish Harlem เป็นเพลงฮิตเพลงแรกในฐานะศิลปินเดี่ยวเมื่อปี 1961 ก่อนที่จะตามมาด้วย Stand By Me ซึ่งในตอนแรกเขาตั้งใจจะให้เป็นเพลงของเดอะ ดริฟเตอร์ส แต่พอถูกปัดขึ้นค่าตัว และออกจากวงมา เขาเลยเอาเพลงนี้มาที่แอตแลนติค เรคอร์ดส์ และสานต่อกับนักแต่งเพลงอย่าง เจอร์รี ไลเบอร์ และไมค์ ตรอลเลอร์ จนเสร็จสมบูรณ์

“ในเสียงร้องของผม คนฟังน่าจะได้ยินบางอย่างจากครั้งแรกๆ ผมร้องในโถงของรถไฟใต้ดิน เสียงจะก้องๆ แล้วการร้องแบบดู-ว็อปก็ร้องกันตรงมุมถนน” เขาพูดถึงการบันทึกเสียงเพลงนี้ “ผมก็มีอิทธิพลในตัวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจากนักร้องอย่าง แซม คุก, บรูค เบนตัน และรอย แฮมิลตัน ความสำเร็จของเพลงนี้ มาจากการทำงานของไลเบอร์และสตรอลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นการหยิบสกอร์ซิมโฟนิคมา แล้วก็การเรียบเรียงเครื่องสายที่สวยงามมากๆ”

Stand By Me กลับมาขึ้นชาร์ทเพลงฮิตบิลล์บอร์ดถึง 9 ครั้ง โดยเป็นของคิง 2 หน และที่เหลือเป็นงานคัฟเวอร์โดยศิลปินอย่าง จอห์น เลนนอน และสไปเดอร์ เทอร์เนอร์ รวมทั้งสร้างสถิติเป็นเพลงที่ถูกเปิดมากที่สุดทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ของอเมริกาในศตวรรษที่ 20 อันดับสี่ แล้วต้นปีนี้เองหอสมุดของรัฐสภาอเมริกาก็เลือกเพลงนี้บรรจุไว้ใน the National Recording Registry โดยให้เหตุผลว่า “เสียงร้องที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของคิง ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงคลาสสิค”

ทั้งสามเพลงของคิง ไม่ว่าจะเป็น Stand By Me, Spanish Harlem หรือ There Goes My Baby ต่างถูกบันทึกไว้ในรายชื่อ 500 เพลงที่สร้างดนตรีร็อค แอนด์ โรลล์ ของหอประกาศเกียรติคุณร็อค แอนด์ โรลล์ และได้รับรางวัล ฮอลล์ ออฟ เฟมของแกรมมี แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ ในยุค 60 ที่เพลงร็อคแอนด์โรลล์ เริ่มได้รับความนิยม ชื่อเสียงของคิงกลับลดลงเรื่อยๆ แต่เขาก็ยังออกทัวร์อย่างต่อเนื่อง จนกลางยุค 70 ก็ได้รับการเซ็นสัญญาอัดแผ่นเสียงกับแอตแลนติคอีกครั้ง และมี Supernatural Thing – Part I เป็นเพลงฮิต ขึ้นถึงท็อปไฟว์ในอเมริกาเมื่อปี 1975

ปลายยุค 80 คิงกลับมาดังอีกรอบ เมื่อหนัง Stand By Me เอาเพลงของเขาไปเป็นเพลงธีม และถูกใช้กับโฆษณากางเกงยีนส์ลีไวส์ในอังกฤษ ด้วยความสำเร็จของเพลงนี้ ทำให้คิงต่อยอดด้วยการตั้งองค์กรการกุศล ช่วยเด็กในเรื่องการศึกษาชื่อว่า the Ben E King Stand By Me Foundation

คิงจากไปด้วยอาการอุดตันของหลอกเลือดหัวใจ โดยเจอร์รี โอคอนเนล หนึ่งในนักแสดงของหนังเรื่อง Stand By Me ทวีตข้อความถึงคิง หลังทราบข่าวการจากไปว่า “คุณจะรู้ว่าตัวเองเจ๋ง ก็ต่อเมื่อจอห์น เลนนอน เอาเพลงคุณไปร้องใหม่ เบน อี คิง คือผู้ชายที่เปี่ยมพรสวรรค์ และแสนมหัศจรรย์”

และบทเพลงของเขาก็จะยังอยู่เคียงข้างเราตลอดไป

“When the night has come/ And the land is dark/ And the moon is the only light we’ll see/ No, I won’t be afraid/ Oh, I won’t be afraid/ Just as long as you stand, stand by me…”

จากเรื่อง อีกหนึ่งตำนานที่จากไป เบน อี คิง โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 22 พฤษภาคม 2558

สามารถกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่