FOUR / Bloc Party [Warner Music]
อัลบั้มแรก Silence Alarm ที่ออกมาในปี 2005 ของเด็กหนุ่มลอนดอนเนอร์ทั้ง 4 คน ได้สร้างความพรั่นพรึงให้กับวงอินดี้ชื่อดังในช่วงนั้นได้หลายๆ วง ด้วยดนตรีอินดี้ร็อคที่เกรี้ยวกราดบวกกับเสียงกีตาร์แตกพร่าสาดกระจาย ทั้งฝีมือและมาดของแต่ละคนก็เท่เหลือร้าย เพราะได้จับเอาดนตรีอินดี้พังค์ร็อคสุดฤทธิ์สุดเดชของวงรุ่นพี่ที่มีอิทธิพลและแรงบันดาลใจต่อพวกเขาอย่าง Sonic Youth, Joy Division, Gang of Four และ The Cure มาบดรวมให้กลายเป็นซาวน์ดดนตรีของ บล็อค ปาร์ตี ได้อย่างน่าอัศจรรย์ จนทำให้ต้องออกอัลบั้มรีมิกซ์เพลงต่างๆ ในชุดนี้ตามหลังออกมาอีกชุดในปีต่อมา และพวกเขาน่าจะเป็นวงร็อคที่มีมือกีตาร์เป็นคนผิวดำคนแรกในรอบหลายทศวรรษ ชื่อเสียงของวงบล็อค ปาร์ตี จึงเข้าไปอยู่ในใจของคอเพลงอินดี้มาจนถึงวันนี้ แม้อัลบั้มต่อๆมาอีก 2 ขุดจะไม่โด่งดังเท่าชุดแรกก็ตาม
Four เป็นผลงานลำดับที่ 4 ตามความหมายของชื่ออัลบั้ม ที่พวกเขายังคงไว้ซึ่งพลังของความเกรี้ยวกราดดุดันอย่างเต็มเปี่ยม ไล่ฟังไปตั้งแต่แทร็คเปิด So He Begins To Lie ที่อุดมไปด้วยเสียงกีตาร์อันฟุ้งพล่าน, 3×3 แทร็คต่อมาคือการบดขยี้ของจริตแห่งความเป็นอินดี้ร็อคผสมกับกลิ่นอายของดนตรีเดธเมทัล ที่ผ่านการบ่นพึมพำแล้วส่งต่อให้กับเสียงร้องที่โหยหวน สอดรับกับเสียงกีตาร์ที่มีหางยาวเหยียด สะจายยยย !!!, Octopus มารับต่อด้วยจังหวะกลองที่เร้าใจโดยจับเอามิติของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์มาห่อหุ้มไว้บางๆ เพื่อความร่วมสมัย ซึ่งชี้นำไปสู่กลิ่นอายสไตล์ดนตรีของจอย ดิวิชันให้เห็นอย่างเด่นชัด และล้อไปมากับเสียงโซโล่กีตาร์ที่ไล่สเกลไปทั่วคอ คล้ายดนตรีเฮฟวี เมทัลเดินทางจากอดีต มาโผล่ในใจกลางเพลงดนตรีอินดี้พังค์/อิเล็กทรอนิกส์ ร็อคได้อย่างสุดเท่ โดยไม่หวั่นเกรงกับยุคสมัย, แทร็ค Ketting คือดนตรีของ โซนิค ยูธ ที่ถูกปรับเปลี่ยนทัศนคติให้มองโลกด้วยความแจ่มชัดปราศจากแว่นตาแห่งความนัวเนีย แต่ยังคงหนักแน่นราวภูผาใหญ่ ที่โดนเสียงพุ่งเข้ามาปะทะเมื่อไหร่ ก็จะสะท้อนกลับออกมาให้ได้ยินกระหึ่มก้องไปทั่วหุบผา
[one_half][/one_half]
ทั้ง 14 แทร็ค ได้กระชากเรากลับไปสู่ยุคสมัยแห่งความรุ่งเรืองของดนตรีพังค์ร็อค ที่เดินทางผ่านกาลเวลาของการเปลี่ยนสภาพมาสู่ความเป็นดนตรีนิวเวฟ โดยมีเสียงของโปรแกรมดนตรีที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยให้มีความกลมกล่อมมากขึ้น ความดิบหยาบถูกปกปิดให้หลบอยู่ข้างในอย่างมิดชิด แต่ยังคงส่งพลังออกมาให้เราได้ยินมันทุกห้องดนตรีที่พวกเขาเล่น เพลงบัลลาดอย่าง Day Four คือ ความลงตัวของคำว่า Punk Rock + Electronic+Indy Style จนไม่มีคำบรรยายอีกต่อไป
ขอปิดบทความชิ้นนี้ด้วยแทร็ค Colisseum ที่พวกเขาไปลากเอารังสีอำมหิตของดนตรีฮาร์ดร็อคมาคลุกเคล้าเกลือกกลั้วกับยุคสมัยของดิจิตอลซาวน์ดได้อย่างสุดกึ๋น ทั้งแสดงให้เราเห็นว่า แม้จะประยุกต์มันอย่างไรก็ไม่สามารถลบเลือนรังสีแห่งความเก๋าของความต้นแบบดนตรีร็อคในวันนี้ได้เลย
บล็อค ปาร์ตียังคงตอกย้ำความเป็นวงอินดี้อัจฉริยะที่ไม่เคยลืมรากเหง้าและแรงบันดาลใจของตัวเองแม้แต่น้อย ทั้งๆที่เป็นก้าวที่ 4 บนถนนสายดนตรีร็อคแล้วก็ตาม บอกไปได้ 3 คำว่า กระทืบ Like ให้หมดใจไปเลย..
โดย นรเศรษฐ์ หมัดคง คอลัมน์ วิจารณ์-แนะนำ นิตยสาร สีสัน ฉบับ พฤศจิกายน 2555
ที่มา https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1443801472521457&set=pb.1439414162960188.-2207520000.1397018050.&type=3&theater