คอนเสิร์ตในบ้านเราหนล่าสุด เมื่อเสาร์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมาของเจสัน มราซ ถ้าจำไม่ผิดก็เป็นหนสามแล้วที่หนุ่มคนนี้มาเปิดการแสดงในบ้านเรา จากครั้งแรกที่เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ แล้วก็ตามด้วยการเป็นหนึ่งวงหลักของเทศกาลดนตรีโซนิค แบง เมื่อปี 2556
ซึ่งครั้งหลังนี่ล่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้ชมการแสดงของเขา แต่ก็ไม่จบโชว์ ด้วยความที่ดูเนือยๆ แม้จะมีวงครบ แถมมีเครื่องเป่าเสริม เลยตัดสินใจเลือกไปรอดูลุงๆ เพ็ท ช็อป บอยส์ ที่อีกเวทีหนึ่งดีกว่า
กับการกลับมาหนที่สาม มราซไม่ได้มาเดี่ยว แต่มากับวงดนตรีหญิงล้วน 4 ชีวิต เรนนิง เจน ซึ่งตั้งวงกันมาตั้งแต่ปี 1999 สมัยที่ยังเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยยูซีแอลเอกันอยู่ เพลงของพวกเธอที่ได้ยินในช่วงเปิดการแสดงในวันนี้ เป็นงานโฟล์ค-ร็อค มีเครื่องไฟฟ้าอย่างกีตาร์ เบส หรือคีย์บอร์ดเข้ามาผสมผสานบ้าง โดยมราซพบกับพวกเธอในปี 2006 ซึ่งตอนนั้นก็มีชื่อเสียงในแวดวงดนตรีอินดีแล้ว เห็นได้จากมีการแสดงที่มากถึงราวๆ 120 โชว์ต่อปี ไม่ว่าจะเป็นในฮอลล์เล็กๆ, ตามสถาบันศึกษา หรือว่าในเทศกาลดนตรีต่างๆ นอกจากนี้ ซารา บาไรล์เลส ก็ยังเลือกพวกเธอเป็นวงเปิด
หลังชมการแสดงของเรนนิง เจนเมื่อปีที่ว่า มราซก็ชวนพวกเธอมาทำงานร่วมกัน และเพลงแรกที่พวกเธอร่วมแต่งกับเขาก็คือ A Beautiful Mess เพลงเด่นเพลงหนึ่งในอัลบั้ม We Sing. We Dance. We Steal Things โดยนอกจากการทำงานกับมราซ เรนนิง เจนก็มีอัลบั้มออกมาแล้วถึง 4 ชุด
ด้วยแนวทางดนตรีของเรนนิง เจน การกลับมาหนนี้ของเจสัน มราซ ก็คือคอนเสิร์ตแบบวงโฟล์ค-ร็อค ที่น่าจะเหมาะกับสถานที่ไม่ใหญ่นัก ผู้ชมใกล้ชิดกับศิลปิน ซึ่งก็มีการขยับเวทีในอิมแพคท์ อารีนา ร่นเข้ามาเกือบๆ ครึ่ง แต่ผู้ชมก็ยังถือว่ามากอยู่ดี เพราะนอกจากพื้นที่ด้านล่างก็ยังมีบนอัฒจันท์อีกด้วย
แต่ถึงจะเป็นการแสดงแบบวงโฟล์ค-ร็อค เจ้าของงานจะพูดเยอะไปนิด แสง-สี ไม่ได้มีอะไรหวือหวานัก นอกจากจอแอลอีดีขนาดใหญ่ที่ด้านหลัง แต่โชว์ก็ไม่ได้ขาดเรื่องความบันเทิง โดยจุดเด่น คงไม่พ้นการเล่นดนตรีของสี่สาวเรนนิง เจน ที่นำเครื่องดนตรีแปลกๆ มาใช้กับการแสดง ทำให้ได้ซาวนด์ดนตรีที่ฟังแตกต่างไปจากที่คุ้นๆ หู ได้ภาพการเล่นเครื่องดนตรีที่ไม่คุ้นตา โดยเฉพาะโมนา ทาวาโคลี ที่เล่นกลอง ได้แสดงให้เห็นถึงการเล่นบีทบ็อกซ์ ที่สร้างเสียงประกอบจังหวะมากมายได้อย่างน่าทึ่ง แล้วยังนับรวมได้ถึงกระดาษ ที่เธอเอามาติดที่น่องแล้วใช้อุปกรณ์ตีเป็นเสียงให้จังหวะ แล้วก็มีเบลลา ไลราหรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า นิ้งหน่อง, เชลโล, แมนโดลิน และ ซีตาร์ อีกด้วย
ขณะที่เจสัน มราซ ก็มาพร้อมลูกล่อลูกชน ชวนคนดูเล่นนั่นเล่นนี่ตลอด แม้ติดพูดเยอะไปหน่อยอย่างที่บอก แต่ก็เป็นเพียงช่วงแรกๆ พอการแสดงไปได้สักระยะ ทุกอย่างก็เข้าที่เข้าทาง การเรียงเพลง จัดเซ็ทการแสดงลื่น จนคนดูบนอัฒจันท์ก็น่าเพลินไปกับการแสดงที่เริ่มด้วยเรนนิง เจน แล้วก็เป็นการแสดงของพวกเธอร่วมกับมราซ ที่มีทั้งการเล่นไปตามตำแหน่งที่จัดไว้บนเวที หรือที่ทุกคนมาอยู่ร่วมกันหน้าเวที เป็นกลุ่มเล็กๆ ได้
ไฮไลท์ในการแสดงก็คงไม่พ้น Shine ที่ไม่ต่างไปจากการแสดงของวงโพรเกรสสีฟ รวมไปถึง I’m Yours ที่มีหนุ่ม-สาวในชุดแต่งงานลุกไปเต้นรำกับเพลงนี้ และ Somewhere Over the Rainbow ที่มราซเอามาเล่นแทรกในกลางเพลง ที่หน้าเวที ซึ่งสร้างความประทับใจได้ไม่ใช่แค่เฉพาะหนุ่ม-สาวคู่ดังกล่าว แต่หมายความรวมไปถึงทั้งฮอลล์ก็ยังได้
แล้วกับอุปกรณ์ไฮเทคอย่างจอแอลอีดี ก็ใช้ฉายภาพที่ประกอบกับการแสดงได้อย่างลงตัว และไม่ได้ขโมยความโดดเด่นไปจากการแสดงที่เรียบง่าย แต่มีเสน่ห์ได้เลย
แม้จะไม่ถึงกับเป็นการแสดงที่สนุกสนานหวือหวา แต่หนที่ 3 ของมราซในบ้านเรา ที่พ่วงสาวๆ เรนนิง เจนมาด้วย ก็เป็นอีกโชว์หนึ่งที่ดูเพลิน และแสดงให้เห็นว่า ถ้าเซ็ทเพลงแข็งแรง การแสดงเข้มข้น ครบเครื่องในแง่ของความเป็นนักดนตรี มีของแค่ที่เห็นแบบงานนี้ก็เอาอยู่
(ภาพจาก เฟซบุ๊คเพจ BEC-TERO ENTERTAINMENT)
จากเรื่อง เรียบๆ ง่ายๆ ก็เพลินได้ เหมือนกัน โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 23 มีนาคม 2558
สามารถกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่