FEATURESMusic Features

เมื่อออซซี ออสบอร์น ยกย่อง แรนดี โรห์ดส์ ด้วยอัลบัม ‘Tribute’

ห้าปีหลังจากแรนดี โรห์ดส์จากไปในอุบัติเหตุอันน่าเศร้า ออซซี ออสบอร์นก็เปลี่ยนวาระครบรอบความโศกเศร้าให้กลายเป็นงานเฉลิมฉลอง ด้วยการออกอัลบัม ‘Tribute’ ในวันที่ 19 มีนาคม 1987 เพื่อให้แฟนๆ ที่ยังเสียใจ หันไปให้ความสำคัญกับพรสวรรค์ของมือกีตาร์รายนี้ ที่ทาง UltimateClassicRock.com ได้บันทึกเรื่องราวของอัลบัมนี้เอาไว้

เพลงในอัลบัม ‘Tribute’ คือเพลงจากการแสดงสดช่วงออกอัลบัมเดี่ยวสองชุดแรกของออซซี ‘Blizzard of Ozz’ และ ‘Diary of a Madman’ บวกกับอีกสามเพลงสมัยที่เขายังอยู่กับ Black Sabbath แล้วก็เพลงสตูดิโออีกหนึ่งเพลง

แต่แก่นของงานจริง ๆ ก็คือ การยกย่องการเล่นกีตาร์ของโรห์ดส์ ที่เร่าร้อนและเต็มไปด้วยความสดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นใน “Children of the Grave” ที่ทำให้งงเป็นไก่ตาแตก เช่นเดียวกับลูกโซโลใน “Suicide Solution” แม้เพลงหลังที่มาจากอีกคอนเสิร์ตหนึ่งที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จะฟังดูฟูมฟายไปหน่อย

“เพลงส่วนใหญ่มาจากโชว์เดียว แต่เพลงในหน้าหนึ่ง (ของแผ่นเสียง) จะเอามาจากการแสดงอีกโชว์ในแคนาดา” ออสบอร์นบอก “เพราะตอนแรกเราตั้งใจจะเอาเพลงพวกนี้ไปใส่ในอัลบัม ‘Speak of the Devil’”

13 เพลงแรกในอัลบัม ‘Tribute’ ถูกคัดมาจากการแสดงที่คลีฟแลนด์ มิวสิค ฮอลล์ในโอไฮโอ เมื่อ 11 พฤษภาคม 1981 แล้วก็มีบางเพลงจากการแสดงที่แคนาดา ซึ่งน่าจะเป็นที่ควีเบ็คช่วงหน้าร้อนปีเดียวกัน ตัดต่อใส่เข้ามาอย่างที่ว่าไว้ก่อนหน้า แล้วก็เป็นไปได้ว่า เพลง “Goodbye to Romance” และ “No Bone Movies” ก็น่าจะเอามาจากการแสดงวันแรกๆ ของ the Blizzard tour เพราะออสบอร์นพูดแนะนำว่า “เป็นอีกเพลงจากอัลบัม (ใหม่)” ตัวอัลบัมปิดด้วยเพลงที่ถูกดึงออกจากงานชุด ‘Blizzard of Ozz’ เป็นเพลงบรรเลงอะคูสติก “Dee” ซึ่งอุทิศให้กับเดโลเรส – แม่ของโรห์ดส์

“สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เรามีงานแสดงสดไม่พอสำหรับทำให้จบอัลบัม เพราะฉะนั้นที่เราทำได้ก็คือ ใส่เพลงที่ถูกคัดออกเป็นเพลงจบอัลบัม ซึ่งเป็นเพลงที่แรนดีกำลังทำจริงๆ ในสตูดิโอ แล้วก็มีการพูดโต้ตอบกับคนในห้องควบคุม และอะไรอีกเยอะแยะ” ออสบอร์นเล่า “เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่ได้ทำออกมา มันเป็นเหมือนภาพของ… คือผมจะไม่มีวันลืมเวลาเหล่านั้น ยิ่งไปกว่าทุก ๆ ปีที่ใช้ชีวิตกับซับบาธด้วยซ้ำ สองปีที่ได้ทำงานกับแรนดีมันโคตรพิเศษสุด ๆ”

ในตอนแรกอัลบัม ‘Tribute’ ถูกกำหนดให้ออกวางขายในปี 1982 เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงในสัญญาที่จะทำอัลบัมแสดงสดออกมาหนึ่งชุด แต่มันก็ดูจะเร็วเกินไปสำหรับการที่แรนดีเสียชีวิตไปไม่นาน ออสบอร์นเลยตัดสินใจออกอัลบัม ‘Speak of the Devil’ แทน และไม่ใส่เพลงในฐานะศิลปินเดี่ยวของตัวเองไว้ในอัลบัมเลย

“ผมคิดว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อ แล้วก็ไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ ที่ใครๆ พากันคิดว่าผมกำลังหาเงินจากการตายของแรนดี” ออสบอร์นเล่า “ผมไม่อยากทำอะไรเลยด้วยซ้ำ ผมอยูในสภาวะช็อก และมีปัญหากับสภาพอารมณ์ที่ดิ่งลึกและยาวนาน ไปกับโศกนาฏกรรมจากวันอันเลวร้าย ผมก็แค่อยากทำอะไรในด้านบวกบ้าง”

ทำให้กว่า ออซซี ออสบอร์น จะปล่อยอัลบัม ‘Tribute’ ออกมา ก็เป็นในปี 1987 ไม่ใช่ 1982 อย่างที่วางเอาไว้ในตอนแรก เพื่อเป็นการยกย่องมือกีตาร์แรนดี โรห์ดส์ ที่จากไปจากอุบัติเหตุอันน่าเศร้า แต่เพราะช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม มันเลยต้องค้างเติ่งอยู่นานหลังการเสียชีวิตของเขาถึง 5 ปี

ออสบอร์นยังได้รับคำอวยพรจากแม่ของโรห์ดส์ก่อนหน้าที่จะเดินหน้าทำโปรเจ็กต์ต่อ โดยนอกจากจะให้อนุญาตแล้ว เธอยังให้เขายืมกีตาร์ฟลายอิง-วี ลายจุดของลูกชาย ไปใช้ในการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลง “Crazy Train” ซิงเกิลเดียวจากอัลบัมชุดนี้ด้วย

“เธอไม่เคยเปิดกล่องกีตาร์เลยนับตั้งแต่วันที่เขาจากไป” ออสบอร์นเล่าเอาไว้ในสารคดีเรื่อง ‘Don’t Blame Me: The Tales of Ozzy Osbourne’ “มันเหมือนเป็นการข้ามเวลา ผมเปิดมันแล้วรู้สึกตัวเย็นเฉียบ เพราะมีอะไรเยอะมาก ที่อยู่ในกล่องกีตาร์ ไม่ว่าจะเป็น บุหรี่ของเขา แล้วก็สิ่งละอันพันละน้อยจากเขา ที่ถูกทิ้งเอาไว้ในนั้น ผมยังจำอาการจิตหลุดของตัวเองเมื่อเห็นได้อย่างชัดเจน”

‘Tribute’ ถูกทำให้สมบูรณ์ตามความตั้งใจแบบสุดๆ ด้วยภาพปก ที่ได้เห็นออซซี ออสบอร์นอุ้มแรนดี โรห์ดส์ยกขึ้นมา ซึ่งเป็นภาพถ่ายของพอล แน็ตคิน จากเดอะ โรสมอนท์ ฮอไรซันในอิลลินอยส์ ระหว่างการทัวร์ Diary of a Madman ก่อนแรนดีจะเสียชีวิตเพียงแค่สองเดือน เจ้าตัวเผยถึงภาพนี้ว่า เป็นภาพที่กลายเป็นความสมบูรณ์แบบโดยบังเอิญ

“ย้อนกลับไปในปี 1982 ตอนที่ออซซียังมีพลังเหลือเฟือ และวิ่งกลับไปกลับมาบนเวทีได้ตลอดทั้งคืน” แน็ตคินเล่า “แล้วด้วยความคิดอะไรก็ไม่รู้ ผมเลิกตามเขาวิ่งไปวิ่งมาบนเวที เพราะมันเป็นการทำงานที่เกินไป สำหรับการแบกอุปกรณ์ถ่ายรูปสารพัดเดินไปเดินมา ผมเลยหยุดอยู่ที่เวทีด้านหนึ่งแล้วรอจนเขาเดินกลับมาทางผม ซึ่งตรงนั้นมีมือกีตาร์ที่ผมไม่เคยฟังเขาเล่น กระทั่งชื่อก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร แต่เขายืนอยู่ตรงหน้าผม ผมเลยเริ่มถ่ายภาพเขารัว ๆ จนออซซีกลับมาตรงนั้น แล้วยกเขาขึ้น ผมถ่ายภาพนี้เอาไว้สองช็อต นั่นคือที่มันเกิดขึ้น มันก็แค่เรื่องของการอยู่ถูกที่ถูกทาง”

มีงานแบบบูตเลกชุดเด่น ๆ จากยุคที่ออซซีทำงานร่วมกับแรนดีออกมาไม่กี่ชุด นับตั้งแต่อัลบัม ‘Tribute’ ออกมา หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ ‘Bats Head Soup’ ซึ่งเป็นบันทึกการแสดงสดที่คลีฟแลนด์ในปี 1981 ตลอดทั้งโชว์ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องที่น่าเศร้าก็คือ ‘Tribute’ เป็นงานเพียงชุดเดียวที่การบันทึกเสียงมีคุณภาพสูงที่สุดจากยุคนั้น ที่กินเวลาสั้นมาก ๆ เท่าที่มี “นั่นละ” ออสบอร์นเอ่ย “บางคนบอกว่า… ‘โธ่ ผมรู้นะว่านายมีอัลบัมลับเก็บเอาไว้’ แต่นี่คือที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรที่ผมทำหรือบันทึกเสียงกับแรนดี โรห์ดส์อีกแล้ว”

โดย นพปฎล พลศิลป์ เรื่อง เมื่อออซซี ออสบอร์น ยกย่อง แรนดี โรห์ดส์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 30 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2562

สนับสนุนเราได้ที่ -:> https://facebook.com/becomesupporter/Sadaos/ หรือที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนคำขอบคุณ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.