เป็นเรื่องที่เป็นไปตามกาลเวลา เมื่อบรรดาศิลปินใหญ่อายุอานามไม่น้อยทั้งหลาย พากันประกาศเลิกออกทัวร์คอนเสิร์ท ถ้ามีไม่กี่รายและชื่อเสียงระดับกลางๆ ก็คงไม่เท่าไหร่ แต่มีถึงสามรายสำคัญที่ออกมาลาเวทีไล่ๆ กัน จาก Elton John, Neil Diamond และวง Rush แล้วตามด้วย Paul Simon ที่บอกว่าทัวร์ของเขาที่จะเริ่มในเดือนพฤษภาคม จะเป็นการยุติอาชีพการแสดงของเขาตาม “ธรรมชาติ” และ Ozzy Osbourne ก็ประกาศออกทัวร์ที่ชื่อฟังไม่ค่อยดีนัก “No More Tours 2″ อีกราย
เหตุผลของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ไดมอนด์เจอโรคพาร์กินสันเล่นงาน, Joan Baez ที่ออกทัวร์อำลาอีกรายในปีนี้ ก็มีปัญหาเรื่องเส้นเสียง “ฉันคิดว่า มันได้เวลาแล้วล่ะ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง”
การอำลาเวทีที่ไล่ๆ กัน นอกจากจะเหมือนถึงเวลาสิ้นสุดยุคคลาสสิคร็อคแล้ว ยังทำให้โปรโมเตอร์ต้องปวดหัว เพราะ “ขณะที่ศิลปินร็อคยุคเบบีบูม จากไป, เกษียณตัวเอง หรือหายไปเรื่อยๆ ผมมองไม่เห็นเลยว่า จะมีใครมาแทนที่พวกเขาในเรื่องดนตรี” Jeff Jampol ที่จัดการเรื่องสินทรัพย์ให้กับวง the Doors, Ramones, Otis Redding และ Janis Joplin กล่าว ขณะที่ Marsha Vlasic ตัวแทนของ Neil Young, Iggy Pop และ the Strokes ก็ตั้งคำถามสำคัญถึงอนาคตของธุรกิจที่เธอทำ “มันน่าเป็นห่วงมากๆ พอศิลปินพวกนี้วางมือไป ใครล่ะจะมาแทน?”
หลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจคอนเสิร์ททำเงินทำทองได้มหาศาล ปี 2017 สามารถทำเงินขายตั๋วได้ถึง 5.65 พันล้านเหรียญทั่วโลก มากกว่าปีก่อนหน้าที่ทำไว้ 5 พันล้านเหรียญ แต่ใน 25 อันดับศิลปินทำเงินจากการทัวร์มากที่สุดเมื่อปีที่แล้วของโพลล์สตาร์ มีถึง 6 รายที่อยู่ในวัยเกษียณ ไม่ว่าจะเป็น Tom Petty ที่เสียชีวิตไปเมื่อเดือนตุลาคม 2017 อายุ 66 ปี ส่วน Billy Joel ที่อายุ 68 แล้วก็เกือบๆ จะเลิกทัวร์เพื่อปักหลักแสดงเมดิสัน สแควร์ การ์เดน อันหรูหรา และหากดูรายชื่อร้อยอันดับแรก จะพบว่า มีถึง 23 รายที่อายุ 65 ปีขึ้นไป เช่น Roger Waters ที่ทำเงินจากการทัวร์ถึง 92 ล้านเหรียญ, Paul McCartney ที่ทำรายได้ 55 ล้านเหรียญจากแค่ 22 โชว์
แม้ธุรกิจคอนเสิร์ทจะมีศิลปินมากมายและหลากหลายอายุที่แสดงในคลับ, โรงละคร หรือสนามกีฬา แต่ศิลปินที่ตั้งราคาบัตรสูงๆ ระดับหลายร้อย, หลายพันดอลลาร์ได้ คือศิลปินอายุ 60 – 70 Bruce Springsteen ตอนนี้อายุ 68 ทำเงินถึง 288 ล้านเหรียญจากการออกทัวร์ทั่วโลก, The Rolling Stones ทำเงินได้ครึ่งหนึ่ง จากการเล่นแค่ 14 โชว์, แม็คคาร์ทนีย์, ยัง, วอเทอร์ส และ Bob Dylan แล้วก็ the Who ไปเล่นในเทศกาลดนตรี the Desert Trip ตอนปลายปี 2016 ขายบัตรได้ถึง 150,000 ใบ โดยตั้งราคาได้ถึงใบละ 1,600 เหรียญ รายได้น่าจะพุ่งไปถึงกว่า 160 ล้านเหรียญ
แต่อีก 5 – 10 ปีข้างหน้า เมื่อบรรดาศิลปินตัวท็อปจากยุคเบบีบูมค่อยๆ หายไปจากการออกทัวร์ แน่ใจหรือว่าศิลปินอย่าง Taylor Swift และ the Avett Brothers จะทำเงินได้ขนาดนั้น แล้วเมื่อถึงวันนั้นธุรกิจคอนเสิร์ทจะทำยังไง? “คำถามที่ดี” Peter Shapiro ที่จองคิวศิลปินอย่าง Dead and Co. (วงที่สมาชิกของ The Grateful Dead ที่ยังมีชีวิตอยู่มารวมตัวกัน), Steve Winwood และศิลปินวัยเกษียณอีกหลายรายมาเล่นยังเวทีที่เขาดูแล เช่น บรูคลีน โบลว์ในนิว ยอร์ค และแคพิทอล เธียเตอร์ “ผมไม่คิดว่าหลายๆ คนจะมองขาด เรากำลังจะเสียศิลปินยุคคลาสสิคที่เล่นในสนามกีฬาได้ไปทั้งยุค”
อย่างน้อยตอนนี้ศิลปินในยุคที่ว่า ก็ยังไม่หยุดทัวร์จริงๆ ออสบอร์นที่ชื่อทัวร์บอกเป็นนัยๆ เคยเลิกทัวร์มาก่อน แล้วก็มีเดอะ ฮูว์อีกรายในปี 1982 ตอน Pete Townshend อายุ 30 ปลายๆ ส่วนทัวร์อำลาของเอลตัน จอห์น ก็วางไว้ถึง 300 โชว์กินเวลา 3 ปี John Scher โปรโมเตอร์ในนิว ยอร์ค ซิตีบอกว่า “ผมมั่นใจว่า ถ้ามันไปได้ ก็ต้องขยายออกไป” The Eagles แทนที่ Glenn Frey ด้วยลูกชายของเขากับ Vince Gill และออกทัวร์ตามสเตเดียมร่วมกับ Jimmy Buffett วัย 71 ปี “เงินที่ได้จากทัวร์อำลาของเอลตัน จอห์นส์ นั่นมหาศาลมากๆ และเมื่อเขาจบทัวร์ มันจะทิ้งรูเบ้อเริ่มในธุรกิจเอาไว้ใช่ไหม? ผมคิดไว้อย่างนั้นนะ” Andy Cirzan รองประธานฝ่ายคอนเสิร์ทของแจม โปรดัคชัน ที่ชิคาโกกล่าว
วิธีแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุด ที่ทางโปรโมเตอร์ทำได้สำหรับปัญหาศิลปินสูงวัยลาเวที ก็คือแทนที่พวกเขาด้วยศิลปินในรุ่นถัดมา U2 ทำเงินได้ 176 ล้านเหรียญเมื่อปีที่แล้ว และที่ตามหลังพวกเขามาติดๆ ก็คือ Guns N’ Roses, Metallica และ Garth Brooks ทั้งหมดอยู่ในวัย 50 ตอนกลาง-ปลาย โดยศิลปินอายุไม่ถึงห้าสิบที่ทำเงินจากคอนเสิร์ตติดห้าอันดับแรกของโพลล์สตาร์ มีแค่ Bruno Mars วัย 32 ปีคนเดียว และหากเทียบราคาบัตรกันแล้ว ราคาบัตรคอนเสิร์ทของมาร์สต่ำกว่า เขาต้องเล่นโชว์ราวๆ 2 เท่าของที่ยูทูว์เล่นเพื่อให้ได้เงินเท่ากันที่ 112 ล้านเหรียญ แต่ศิลปินรุ่นนี้ต่างก็เจอปัญหาเรื่องอายุขัยและการเจ็บป่วย Bono ที่อายุ 58 แล้วมีปัญหาสุขภาพ และล่าสุดก็ออกมาบอกแล้วว่า ร่างกายของเขาเดี๋ยวนี้ “เดินเหินไม่เหมือนก่อน” ส่วน James Hetfield ของเมทัลลิกาที่อายุ 54 ก็ต้องยกเลิกโชว์ไปหนหนึ่งเนื่องจากปัญหาในลำคอ
หากนักธุรกิจคอนเสิร์ทหลายๆ คน ก็มองว่า มีบรรดาตัวแทนมากพอที่จะแทน เอลตัน จอห์น หรือว่า Paul McCartneys ศิลปินท็อปของคอนเสิร์ทในปีนี้ น่าจะเป็น Taylor Swift และ Justin Timberlake ส่วน มาร์ส, Adele, Lady Gaga และ the Dave Matthews Band ก็ยังไม่ไปไหน “ธุรกิจนี้ก็เป็นแบบนี้แหละ เรามีซูเปอร์สตาร์เสมอๆ” Ron Delsener ประธานของไลว์ เนชัน ที่นิว ยอร์ค ซึ่งผ่านงานโปรโมเตอร์มานานกล่าว “จัสติน ทิมเบอร์เลค และ the National พวกเขาคือหน้าใหม่ที่กำลังมา พวกเขาอาจจะเป็นยูทูว์รายใหม่ หรืออะไรรายใหม่ก็ได้”
Tom Windish ตัวแทนของศิลปินรุ่นใหม่ๆ อย่าง Lorde และ Alt-J บอกว่า ลูกค้าของพวกเขาขายบัตรได้มากกว่าที่เคย และการที่จะมีหรือไม่มีแม็คคาร์ทนีย์ หรือ (Billy) Joel ซึ่งสามารถกำหนดราคาตั๋วสัก 400 เหรียญหรือมากกว่านั้นได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย “ถ้ามีศิลปินอายุ 70 เล่นในสเตเดียมน้อยลง มันก็จะมีศิลปินอีก 200 คนที่กำลังจะขายบัตรได้คนละ 500 ใบ ซึ่งคำนวณรายได้แล้วก็พอๆ กับเงินจากสเตเดียม” เขากล่าว “มันก็แค่คนดูถูกแจกจ่ายไปในทิศทางที่แตกต่างกัน”
นอกจาก Dead and Co. และ The Rolling Stones ที่เล่นในสเตเดียมใหญ่ๆ มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ยังมีศิลปินอย่าง Beyonce, Taylor Swift, Ed Sheeran, Luke Bryan และอีกหลายๆ คน ที่อายุตั้งแต่ 20 – 40 เข้ามาเสียบด้วย และราคาตั๋วคอนเสิร์ทของศิลปินบางคนก็เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย แน่นอนว่านี่คือสัญญานที่ไม่ดีสำหรับผู้ชม แต่เป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่งแน่ๆ สำหรับธุรกิจคอนเสิร์ทในอนาคต ทัวร์ของสวิฟท์ในปี 2018 จะมีราคาหลากหลายระดับ ซึ่งบางที่ก็สูงถึง 475 เหรียญ
พอมีใครบางคนประกาศเกษียณเวที มันเป็นเรื่องสำคัญนะ” Marc Geiger ตัวแทนของศิลปินจากบริษัทวิลเลียม มอร์ริส ที่ดูแลศิลปินอย่าง Jack White, นีล ไดมอนด์, LCD Soundsystem และอีกหลายๆ คนกล่าว “แต่เราก็ยังมีทีมต่อไปให้ดู”
“ฟ้าไม่ถึงกับถล่มหรอก” Lucy Lawler-Freas โปรโมเตอร์ประสบการณ์ยาวนานจากแอทแลนทา ที่เป็นคนจองโชว์สุดท้ายของ Prince และเคยทำนายไว้ว่า ศิลปินอย่าง Foo Fighters และ Pearl Jam จะก้าวมาแทนช่องว่างที่แม็คคาร์ทนีย์และสโตนส์ทิ้งเอาไว้ “แต่มันก็อาจจะมีเมฆครึ้มๆ เล็กน้อยเท่านั้นเอง”
โดย นพปฎล พลศิลป์ เรื่อง เมื่อศิลปินรุ่นใหญ่ประกาศอำลาเวที จะเกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจดนตรี คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 11-12 เมษายน 2561