Mary is Happy, Mary is Happy / ไม่จบ.
นวพล ธํารงรัตนฤทธิ์ / 2013
เป็นเรื่องที่น่าตลก ที่ใครต่อใครมักจะตั้งแง่ว่าหนังของนวพล น่าจะเป็นหนังที่ไม่มีกรอบ รึไม่มันคงจะออกอาการเซอร์แดกจนไม่สามารถจูนกับคนดูได้ แต่เปล่าเลย หนังนวพลอยู่ในกรอบอย่างเป็นระเบียบแบบแผนมากๆ เพียงแต่กรอบของนวพลมันไม่ใช่กรอบเหมือนที่วิลเลี่ยม โกลด์แมนสอนตามทฤษฎีภาพยนตร์ หรือกรอบในแบบสปิลเบิร์กชอบทำ แต่กรอบที่นวพลเลือกมาใส่ในหนังมันกลับเป็นกรอบจากสิ่งต่างๆรอบๆตัว ไม่ว่าจะเป็นกรอบของจำนวนรูปถ่ายในฟิล์มหนึ่งม้วน (36) หรือกระทั่งกรอบในการตีความเล่าเรื่องผ่านทวิตเตอร์ จำนวนกว่า 400 ทวิตของ แมรี่ มาโลนี่ ที่ตอนแรกคิดว่ามันจะมั่ว แต่ไม่เลย เรื่องวางอยู่ในระเบียบจนน่าตกใจ แถมยังสนุกจนน่าประหลาดใจอีกด้วย
หนังเล่าเรื่องราวของแมรี่ เด็กที่ใช้เวลาในช่วงเทอมสุดท้ายในชีวิตนักเรียนม.ปลาย เธอกำลังจะจบการศึกษา / เธอกำลังทำหนังสือรุ่น และเธอกำลังมีความรัก เนื้อเรื่องที่นวพลเล่า มีเท่านี้ หนังเดินตามกฎของ Coming-of-Age อย่างไม่บิดพลิ้ว เด็กพบปมเพื่อก้าวผ่านคลี่คลายกลายเป็นผู้ใหญ่ แต่แทนที่หนังจะแสดงความอิ่มเอมหรือเศร้ารันทดหดหู่จิตตามประสาหนังแนวนี้ นวพลกลับเลือกที่จะเล่ามันแบบ Fight Club … ครับ ไอ้หนังต่อยกันที่กำกับโดยเดวิด ฟินเชอร์นี่แหละ
เพราะดูๆไป แมรี่กับซูริแทบจะเป็นคนๆเดียวกัน ถ้าใน Fight Club แบรด พิทท์คือมโนของเอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน MIH. MIH แมรี่ก็เปรียบเสมือนแบรด พิทท์ในโลกอุดมคติ เด็กหญิงเพ้อฝัน พยายามติสต์ เพ่งมองก้อนเมฆบนท้องฟ้าเพื่อหาแสงที่ใช่สำหรับการถ่ายรูปสำหรับทำหนังสือรุ่น เพ้อเจ้อกับการพาตัวเองไปยังปารีส จู่ๆก็เข้าป่าเพื่อหาแรงบันดาลใจ มีความรักกับผู้ชายที่ชื่อเอ็ม ที่ไม่รู้กระทั่งว่าเขารักเธอหรือเปล่า มันสะท้อนถึงตัวตนของเด็กสาวในวัยนี้เสียเหลือเกิน ใน FC แบรด พิทท์ พยายามที่จะเหวี่ยงหมัดใส่นอร์ตันเพื่อให้หลุดออกจากกรอบ แต่ซูริกลับกลายเป็นหญิงสาวที่พยายามฉุดกระชากดึงดันเอาแมรี่กลับมายังโลกแห่งความเป็นจริง เป็นที่ปรึกษา คอยเหน็บแนม คอยช่วยเหลือแมรี่ทุกอย่าง ถ้าคิดอย่างเชื่อมโยงและเพ้อเจ้อ การที่ตัวละครชื่อ M อาจจะหมายรวมถึงอดีตและปัจจุบันอันแสนเวิ่นเว้อของแมรี่ในห้วงเวลาที่โลกนี้สื่อสารกันผ่าน MSN ในขณะเดียวกันซูริ มันอาจจะหมายถึง Siri โปรแกรมของ IOS ที่เปรียบได้ดั่งอนาคตของแมรี่อนาคตของการสั่งการอนาคตของกรอบสังคม ซึ่งเมื่อหนังดำเนินไปเรื่อยๆ สิ่งที่แมรี่ได้เจอเมื่ออำนาจของโรงเรียนส่งผ่านผอ.คนใหม่ ที่ออกคำสั่งกึ่งเผด็จการในการแปรรูปโรงเรียนส่งต่อผ่านครูน้อยวงพรู ชีวิตแมรี่จึงเหมือนตกอยู่ในห้วงแห่งความสับสนถึงขีดสุด และหนังก็พาตัวละครอย่างแมรี่ไปสู่อนาคตของการเติบโต ไม่ว่าจะเป็นกรอบของการใช้ชีวิตในแบบผู้น้อยเคารพผู้ใหญ่ การเผชิญหน้ากับความสูญเสีย กระทั่งการเปลี่ยนถ่ายจากนักเรียนมัธยมสู่การเป็นนักศึกษา หนังมีสัญญะซื่อๆที่พอจะบ่งบอกถึงความเป็น Coming-of-Age อย่างทางแยกของรางรถไฟ ที่บ่งบอกตัวละครของแมรี่ได้เป็นอย่างดี
นวพลเข้าใจวัยรุ่นมากกว่าตัววัยรุ่นเข้าใจตัวเองเสียอีก Mary is Happy จึงควรค่าต่อการเรียกว่าหนังวัยรุ่นเพราะมันดูสนุกมากๆ และควรค่าพอให้คนดูเจริญเติบโตไปกับมัน กระทั่งคุณดูมันไม่รู้เรื่องและอินแค่เสื้อยืดที่ใส่ แต่ควรดูไว้ซ้ำไปซ้ำมาเถอะเพราะว่าหนังเรื่องนี้มันกำลังพูดถึงคุณอยู่ มันกำลังทำความเข้าใจกับคุณอยู่ และควรรู้ไว้ว่าวัยรุ่นแม่งเป็นได้แค่ช่วงชีวิตเดียวเท่านั้น มันเป็นยุคของพวกมึงแล้ว แม้กูจะจบความเป็นวัยรุ่นมานานแล้ว กูยังดูสนุกเลย / จบ
โดย เห่าหนัง
ที่มา https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151913064090904&set=a.10151749816345904.1073741832.650825903&type=1&theater