สร้างจากเรื่องจริง… และเนื้อหาก็รับเข้ากับยุคสมัยของ Black Lives Matter พอดิบพอดี แม้จะออกฉายช้าไปร่วมๆ 2 ปีก็ตาม แต่จะว่าไป เรื่องของการเหยียดผิว ชิงชังเชื้อชาตินั้น มันก็ไม่เคยห่างหายไปไหน แค่จะถูกชูขึ้นมาเป็นประเด็นสำคัญมากมายเพียงใด ในแต่ละช่วงเวลาเท่านั้นเอง
หนังได้การแสดงชั้นดีมาเป็นความโดดเด่นที่รู้สึกได้ตั้งแต่แรกเริ่ม โดยเฉพาะการ์เร็ทท์ เฮ็ดลันด์ ที่ปรับโฉมแปลงร่าง เพื่อรับบทสมาชิกกลุ่มคูคลักซ์แคลน ที่ความรักทำให้ละทิ้งความคิดในแบบเดิมๆ จนต้องเจอกับการตอบโต้ที่ทำให้ทั้งตัวเองและคนรักเจอกับสภาพย่ำแย่ แม้จะได้รับการช่วยเหลือจากสาธุคุณประจำโบสถ์ ที่เป็นคนผิวดำ เขาก็อยู่ในสภาพที่ถูกมองด้วยสายตาเชิงรังเกียจ และดูหมิ่นจากคนที่เขาเคยอยู่ตรงข้ามมาก่อน
นอกจากการแสดงจะได้ เรื่องราวปูมหลังของตัวละครก็ไม่ได้เป็นไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่ว่าจะเป็นการอยากมีครอบครัวของตัวเอง รวมไปถึงความชิงชังคนต่างสีผิวของตัวละครก็มีที่มาที่ไปรองรับ
หากติดอยู่บ้างก็ตรงที่การเล่าเรื่อง เมื่อดูจะเรื่อยเรียบ จนทำให้หนังที่น่าจะเป็นงานดรามาเข้มๆ ได้ไม่ยาก กลายเป็นงานที่ดูนิ่งๆ บีบอารมณ์ หรือกดดันผู้ชมและตัวละครได้ไม่ได้เต็มที่ ขณะที่บทสรุปก็ดูจะง่าย และทำให้หนังกลายเป็นงานแบบคริสเตียนไปในที
แต่กับการบอกเล่าถึงปัญหาของเรื่องการเหยียดผิว มูลเหตุความขัดแย้ง รวมไปถึงการหาทางออกนั้น หนังทำได้ดี ชัดเจน แม้จะเป็นวิธีการที่ไม่ยากเกินจะมองเห็น แต่กับการปฏิบัติจริง ไม่ใช่เรื่องง่าย และสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวละครที่อยู่ในหนัง ที่เป็นสิ่งที่ ‘น่าจะ’ เกิดขึ้นจริงๆ เป็นส่วนใหญ่ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า นอกจากจะยาก ก็ยังมาพร้อมกับอุปสรรคสาหัส สากรรจ์ ไม่น้อยเลย
โดย นพปฎล พลศิลป์