![](https://www.sadaos.com/wp-content/uploads/2021/11/mandalorian-s2-view-712x400.jpg)
‘The Mandalorian’ ซีรีส์โทรทัศน์ตอนแยกคนแสดงเรื่องแรกของ ‘Star Wars’ จบฤดูฉายแรกแบบสวย ๆ สมเป็นซีรีส์แม่เหล็กในการเปิดบริการดิสนีย์พลัส โดยปิดฉากลงในแบบที่หากไม่มีต่อก็แค่รู้สึกไม่สะเด็ดน้ำ แต่ถ้าจะต่อก็มีเรื่องให้เล่าอีกไม่ (น่าจะ) น้อย ที่เห็น ๆ ความเป็นมาของเด็กวัย 50 ปี ที่หน้าตาถอดมาจากโยดายังกับแกะ และแมนโด (เพโดร พาสคัล) ยังมีอะไรให้เล่นแน่ ๆ
ที่สำคัญตัวละครทั้งสองราย ต่างเป็นตัวละครที่มากไปด้วยเสน่ห์ น่าสนใจ และน่าติดตามเหลือเกิน
ฤดูฉายที่สองของ ‘The Mandalorian’ เปิดฉากได้อย่างสวยงาม และตอกย้ำความเป็นงานไซ-ไฟที่มีกลิ่นไอของหนังตะวันตกเต็ม ๆ ตั้งแต่ตอนแรก ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศทะเลทรายของทาทูอีน ที่ทำให้นึกถึงหนังคาวบอยสปาเก็ตตี ฉากแมนโดขี่สปีดเดอร์ไบก์เข้าไปในมอส เพลโกก็แทบจะถอดฉากที่ตัวละครในหนังตะวันตกขี่ม้าเหยาะ ๆ เข้ามาในเมืองที่เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนยังไงยังงั้น
แล้วก็ตามด้วยการให้ตัวละครเดินเข้าไปในบาร์ซาลูน และตามหา ‘นายอำเภอ’
ดนตรีประกอบของลุดวิก โกแรนส์สัน ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และรับรู้ถึงสัมผัสของงานดนตรีประกอบหนังตะวันตกของเซอร์จิโอ เลโอเน ที่ชัดเจนกว่าฤดูฉายที่หนึ่ง
นอกจากสไตล์ชัดเจนมากขึ้น ‘The Mandalorian’ ฤดูฉายที่ 2 ก็มาเต็มกว่าเดิมในเรื่องอารมณ์ถวิลหาอดีต เมื่อหยิบสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องราวของพวกสกายวอลเกอร์ มาหยอดไว้เรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่มีไอ้หนูหน้าตาเหมือนโยดา หรือตัวเอกที่คลับคลาโบบาเฟ็ตต์ พวกจักรวรรดิในเครื่องแบบคุ้นตา ตั้งแต่หัวหน้าระดับสูงไปถึงสตอร์มทรูเปอร์ ลิ่วล้อที่ยิงปืนไม่เคยเข้าเป้า สถานที่ซึ่งคุ้นเคยกันดี หรือกล่าวถึงชื่อแห่งหนและผู้คนซึ่งเคยปรากฏในหนังหลักจอใหญ่ทั้งเก้าเรื่อง
ทำให้ ‘The Mandalorian’ ปีนี้ผูกติดกับ ‘Star Wars’ มากกว่าที่เคยเป็นในปีแรก แถมยังมีการนำตัวละครที่เคยมีบทบาทในหนังใหญ่กลับมา ขณะที่ตอนสุดท้ายมาพร้อมเหตุการณ์ที่น่าจะทำให้สาวกทั้งหลายปลื้มปริ่ม ในระดับที่บางรายอาจไปไกลถึงขนลุกวาบ น้ำตาคลอ
เรื่องราวที่เป็นภารกิจตามหาที่ลงให้ไอ้หนูที่ตอนนี้จะรู้ชื่อ รวมถึงปูมหลังบางส่วนกันแล้ว ซึ่งแมนโดจะพาไปดาวดวงโน้น ดวงนี้ตามเบาะแสที่ได้มา แล้วก็ต้องเผชิญหน้าและจัดการกับอุปสรรคในแต่ละครั้ง ฟังเหมือนจะถูกนำเสนอเป็นหนังแบบตอน ๆ แต่เรื่องทั้งหมดก็ยังมีการส่งต่อ เชื่อมโยงกัน จากเกราะที่ทำด้วยเหล็กเบสคาร์ ไปสู่การเปิดตัวละครใหม่ที่เป็นพวกหน้าเก่า นักแม่นปืนสาวจากฤดูฉายแรกของมิงนาเวนก็กลับมามีบทบาทอีกครั้ง เช่นเดียวกับคารา ดูนที่คาร์ลา กูจิโนเล่น
ตัวละครใหม่ ๆ ที่เปิดตัวมาในฤดูฉายนี้ อย่าง พวกแมนดาลอเรียน ที่มีโบ-คาทานไครซ์ (แคตี แซ็กฮอฟฟ์) เป็นหัวหน้ากลุ่ม ก็ไม่ได้มาเพียงประเดี๋ยวประด๋าว แต่ยังมีบทบาทต่อไปอีก ทำให้เรื่องโดยรวมมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน รายละเอียดแต่ละตอนคือสีสัน เป็นความแตกต่างที่สร้างความหลากหลายให้กับซีรีส์
นอกจากจะปิดท้ายแบบให้แฟนตัวยงของ ‘Star Wars’ ได้ปลื้ม ‘The Mandalorian’ ฤดูฉายที่ 2 ยังจบในแบบที่ไม่ต่างไปจากปีแรก จะพอแค่นี้ก็ได้ แม้อะไรจะไม่กระจ่างนักก็ตาม จะสานต่อก็ยังมีเรื่องให้เล่า เพราะการที่เหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นระหว่างช่วงเวลาของ ‘Return of the Jedi’ กับ ‘Force Awaken’ มาถึงตอนนี้ก็ยังมองไม่เห็นว่า ‘The Mandalorian’ จะเชื่อมต่อกับหนังไตรภาคสุดท้ายตรงไหน หรือยังไง หากปิดท้ายกันตรงนี้
ไม่ใช่แค่ยังมีเรื่องของตัวเองให้เล่าต่อ ‘The Mandalorian’ ยังเป็นจุดเริ่มต้นซีรีส์เรื่องใหม่ ซึ่งเป็นงานตอนแยกเหมือนกัน ‘The Book of Boba Fett’ เรื่องของนักล่าค่าหัวสุดเท่ที่เปิดตัวสวย ๆ ใน ‘The Empire Strikes Back’ แต่ปิดฉากแบบรวบรัด และง่ายเกินเหตุใน ‘Return of the Jedi’ ซึ่งใน ‘The Mandalorian’ กลายเป็นตัวละครที่โดดเด่น และมีอะไรให้ค้นหาไม่น้อย และหวังว่าเรื่องราวของโบบา เฟ็ตต์น่าจะเดินหน้าไปแบบสวย ๆ ไม่ต่างไปจากซีรีส์ที่ช่วยกู้ชีพให้ตัวละครรายนี้ ซึ่งไม่ทำให้ความคลาสสิกของ ‘Star Wars’ เสียของ และยังสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์
(‘The Mandalorian’ ฤดูฉายที่ 2 ทาง ดิสนีย์พลัส ฮ็อตสตาร์)
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ชำแหละแผ่นฟิล์ม นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1334 ปักษ์หลัง สิงหาคม 2564
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่