Movie ReviewREVIEW

ดูมาแล้ว Vanishing Point คำถามหลากหลาย ในการเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา

VANISHING POINT: เป็นไปได้ว่าในภายภาคหน้า-เมื่อใครมองย้อนกลับมา หนังเรื่อง Vanishing Point ของจักรวาล นิลธำรงค์ และรวมถึงหนังอิสระเรื่องอื่นๆ ที่ได้รับการเผยแพร่ก่อนหน้า-น่าจะกลายเป็นหลักฐานยืนยันว่า ในขณะที่หนังไทยกระแสหลักในช่วงสองสามปีที่ผ่านพ้นไป-เผชิญกับภาวะตกต่ำและซบเซา มันกลับกลายเป็นช่วงเวลาที่เบ่งบานและงอกงามที่สุดช่วงหนึ่งของหนังทางเลือกอย่างน่าชื่นชมยินดี

Poster Vanishing Ponit-OK_Created

ผลงานที่ท้าทายจินตนาการ หรือเปิดเผยความจริง หรือตั้งคำถาม หรือวิพากษ์วิจารณ์สังคม หรือขยับขยายโลกทัศน์ของผู้ชมอย่างกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา-ถูกนำออกฉายเรื่องแล้วเรื่องเล่าอย่างค่อนข้างต่อเนื่อง และอาจกล่าวได้ว่าในบรรดาหนังที่พาผู้ชมออกไปนอกจักรวาลของหนังไทยกระแสหลัก Vanishing Point ของจักรวาล-น่าจะเป็นหนังที่ไปไกลสุดกู่กว่าเพื่อน และโอกาสมีอยู่สูงมากที่ผู้ชมจะพบว่าตัวเองเดินออกจากโรงหนังด้วยเครื่องหมายคำถามหรือข้อสงสัยที่มีเพิ่มมากขึ้นกว่าตอนที่เดินเข้าไป แต่ใช่หรือไม่ว่า คำถามหรือข้อสงสัยนำพาให้พวกเราต้องครุ่นคิด และการครุ่นคิด-คือเหตุผลของการดำรงอยู่ของมนุษยชาติ (ในทางกลับกัน หนังที่มีคำตอบให้กับทุกๆ เรื่อง-ไม่น่าจะเรียกว่าเป็นหนัง แต่เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ)

ส่วนที่นับเป็นเรื่องเย้ยหยันอยู่เล็กน้อยก็ตรงที่ก่อนหน้านี้ นอกจากการเป็นอาจารย์สอนภาพยนตร์ที่คณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จักรวาล นิลธำรงค์-ยังเป็นคนทำหนังทดลอง และผลงานหลายเรื่องล้วนแล้วให้ความสำคัญกับ visual หรือการสื่อสารด้วยภาพ (จริงๆแล้วต้องรวมการออกแบบเสียงด้วย) และแทบจะเพิกเฉย narrative หรือการเล่าเรื่องโดยสิ้นเชิง หนังเรื่อง vanishing Point กลายเป็นหนังที่มี ‘เรื่อง’ หรือ story มากที่สุด-ก็ว่าได้ แต่ก็อีกนั่นแหละ เรื่องสั้นๆ ที่เรียงร้อยได้รับการบอกเล่าอย่างแหว่งวิ่น บางเรื่องมีแค่ช่วงเกริ่นนำและไม่มี developing story และที่นับว่าบ้าบิ่นมากๆ ก็คือ หลายครั้ง เรื่องเล่ากับการสื่อสารด้วยภาพที่ปรากฏบนจอ-ก็ไม่ได้มุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน หรือในบางกรณี เหมือนกันประชันขันแข่งเพื่อแย่งการพื้นที่การรับรู้ของผู้ชม

แต่ความน่าอัศจรรย์อยู่ตรงที่จนแล้วจนรอด Vanishing Point ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังที่ผู้สร้างโยนไอเดียฉลาดๆเก๋ๆ วิฌ่วลที่ชวนให้ตะลึงตะลานและดึงดูดการมองเห็นของผู้ชม หรือสถานการณ์ที่น่าฉงนสนเท่ห์-เข้ามา ทว่ารายละเอียดที่ดูเหมือนถูกจัดวางอย่างที่เกือบจะมองหาระบบระเบียบไม่เจอ กลับปรากฏเหตุและผลของการดำรงอยู่ของมันในช่วงบั้นปลาย หรืออย่างน้อย มันก็บำเพ็ญประโยชน์บางอย่างต่อสาระที่คนทำหนังต้องการจะถ่ายทอดมันออกมา หรือหากจะมองจำเพาะในเชิงของรูปแบบหรือฟอร์ม Vanishing Point ก็เป็นหนังที่ approach ของมัน (ทั้งเรื่องย่อยที่ถูกเลือกมาบอกเล่าและได้รับการเรียงร้อยอย่างไม่ปะติดปะต่อ ผนวกกับกลวิธีการนำเสนอ-ที่ประณีตและพิถีพิถัน ทั้งการใช้สี การจัดแสง การเคลื่อนกล้อง การสร้างบรรยากาศด้วยเสียง) กลายเป็นคุณค่าที่ชวนให้ดื่มดำกำซาบในตัวมันเอง และผู้ชมสามารถสัมผัสหรือต่อติดกับมันได้โดยตรงในตอนที่มันเกิดขึ้นและอย่างทันท่วงที และโดยที่พวกเราไม่จำเป็นต้อง make sense หรือถามหาเหตุผลหรือความหมาย-ต่อสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้า

กระนั้นก็ตาม ส่วนที่ตัวเองรู้สึก ‘คลิก’ กับหนังมากๆ-ก็คือการที่หนังเล่นเรื่องความเป็นจริง (reality) กับการสร้างภาพแทน (representation) ฉากในช่วงต้นที่ตำรวจพาคนร้ายมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในอาชญากรรมที่ใครคนนั้นก่อขึ้น (หรือไม่) เป็นสถานการณ์ที่เหลวไหลอย่างไม่น่าเชื่อ ความเป็นจริงไม่มีวันเป็นอย่างที่เห็น ทว่าเหตุการณ์ที่ปรากฏให้เห็น-ก็น่าจะสะกิดให้ผู้ชมต้องมาทบทวนและสังคายนากระบวนการรับรู้กับอะไรต่ออะไรอย่างมโหฬาร และนั่นไม่ต้องเอ่ยถึงภาพข่าวอุบัติเหตุอันสยดสยองในฉากเปิดเรื่อง-ที่ถูกกระบวนการสร้างภาพแทน ลดทอนความเป็นจริงไปอย่างที่แทบไม่เหลือเศษซาก และแน่นอน ภาพยนตร์ที่พวกเราเฝ้ามองก็เป็นกระบวนการสร้างภาพแทนที่สุดท้ายแล้ว โยนคำถามกลับมาที่ผู้ชมว่า เราจะแยกแยะและคัดกรองส่วนที่จำลองขึ้น(representation) กับความจริง (truth) ข้อเท็จจริง (fact) และความเป็นจริง (reality) ในสภาพเช่นใด

อีกอย่างหนึ่งที่หนังตั้งคำถามที่ชวนให้ขบคิดได้ท้าทาย-ก็คือเรื่องของตัวตนที่เชื่อมโยงกับการหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านของกาลเวลา ทำนองว่า ตัวเราหรือสิ่งต่างๆในอดีต กับตัวเราหรือสิ่งต่างๆ ในปัจจุบัน หรือแม้กระทั่งในอนาคต-ยังเป็นคนๆเดียวกันหรือสิ่งเดียวกันหรือไม่ โดยเฉพาะในแง่ของจิตวิญญาณ (ซึ่งบางที อาจจะเป็นจุดร่วมที่เรียกว่า Vanishing Point) มองอีกนัยหนึ่ง เป็นไปได้ว่าหรือไม่การดำรงอยู่ของสรรพสิ่งต่างๆ หรือที่เรียกว่า being จริงๆแล้ว-ไม่ได้กำลัง being จริงๆ และลึกๆแล้ว เป็นการสะสมพลังงานเพื่อการขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลง หากจะอ้างถึงในหนัง รายละเอียดที่เกี่ยวกับกรอบคิดนี้ถูกแทรกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่โรงแรมจิ้งหรีดที่ครั้งหนึ่ง เคยมีอดีตอันรุ่งโรจน์, เร่ืองเล่าเกี่ยวกับทหารที่ใช้ชีวิตในสมรภูมิอย่างโชกโชน แต่จู่ๆก็กลับลงเอยเป็นช่างตัดผม, พระที่ถูกหลอกหลอนด้วยความฝันในทางโลกย์ กับบทสรุปที่ผู้ชมต้องไปค้นหาคำตอบในหนังเอาเอง, ชายวัยกลางคนซึ่งมีครอบครัว ทว่ากลับลักลอบมีความสัมพันธ์ลูกน้องของตัวเอง และใครคนนี้ในตอนอยู่ที่บ้านกับตอนที่อยู่กับชู้รัก-แทบจะกลายเป็นคนละคน, โสเภณีสูงวัยผู้ซึ่งก็เหมือนกับโรงแรมจิ้งหรีดที่เธอประจำการ เคยเป็นดาวดวงเด่น แต่สภาวะเช่นนั้นก็ไม่จีรังยั่งยืน, หญิงชราที่ไม่ตกอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของวัฏสงสาร และเหมือนกับต้องคำสาปให้ตั้งท้องและคลอดลูกตลอดกาล

พูดแบบไม่ต้องยกยอปอปั้นเกินจริง Vanishing Point ของจักรวาล นิลธำรงค์-ไม่ใช่หนังสำหรับผู้ชมในทุกๆรสนิยม มันเป็นหนังทางเลือกตามที่ได้บอกไว้ข้างต้น และตัวหนังก็เรียกร้องจากผู้ชมสูงทีเดียว ทั้งสมาธิและความสามารถในการเข้าถึงและรับรู้ (แต่พูดก็พูดเถอะ มันไม่ได้ถึงกับเกินกำลังความสามารถ) แต่ไม่ว่ามันจะเป็นหนังดูยากหรือดูง่าย เข้าถึงได้หรือเข้าถึงไม่ได้ สุดท้ายแล้ว มันก็เป็นหนังที่ควรได้รับโอกาสจากผู้ชม และโดยเฉพาะนักดูหนังขาจร อย่างน้อย เพื่อที่จะได้รู้ว่า เส้นขอบฟ้าของการดูหนังไม่ได้สิ้นสุดเพียงแค่การสำเริงสำราญทางอารมณ์ หรือการได้รับข้อคิดตื้นๆ ง่ายๆ ทว่าเป็นกิจกรรมทางปัญญาที่ซับซ้อน และบางที การได้ดูหนังแปลกๆ ประหลาดๆ น่าจะช่วยให้เราหวนกลับมองเห็นสิ่งละอันพันละน้อยรอบตัว-ด้วยโลกทัศน์และวิสัยทัศน์ที่ไม่เหมือนเดิม

โดย ประวิทย์ แต่งอักษร

(หมายเหตุ หนังเรื่อง Vanishing Point เข้าฉายวันที่ 22 ตุลาคม ที่ SF World Cinema และ 5 พฤศจิกายนที่ SFX Maya Chiangmai)

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านงานวิจารณ์หนัง และเพลง แบบนี้ ได้ด้วยการกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์กันไว้ก่อน ได้ที่นี่

 

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:Movie Review

Comments are closed.