ลายนิ้วมือ/ บิ๊ก แอสส์
(จีนี เรคอร์ดส์/ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี)
ด้วยอายุงาน 25 ปี นับตั้งแต่ออกอัลบั้มชุดแรก ‘Nod Bad’ เมื่อปี 2540 แล้วตามด้วยอัลบั้มอีก 6 ชุด และ 1 อีพี กับเพลงฮิตอีกมากมาย ที่พวกเขามีเพลงดังให้ได้ฟังตามคลื่นวิทยุตั้งแต่อัลบั้มเปิดตัว
วันนี้ของบิ๊กแอสส์… เชื่อว่าไม่น่าจะต้องพิสูจน์อะไรกันอีกแล้ว
จากอัลบั้ม 2 ชุดแรกที่ยังไม่ชัดเจนนักในแนวทาง จะร็อคเมนสตรีมก็ใช่ ไปเป็นฮาร์ดคอร์หรือนูเมทัลก็ไหว หรือพ็อป-ร็อคแบบไทย ๆ พวกเขาก็ได้อยู่ สำเนียงดนตรีและซาวนด์เพลงของบิ๊กแอสส์ เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นใน ‘My World’ อัลบั้มชุดที่สาม งานชุดสุดท้ายกับค่ายที่ทำคลอดให้
และนับตั้งแต่ ‘Seven’ งานชุดที่สี่ พวกเขาก็เข้าที่เข้าทาง แม้อาจจะรู้สึกเหมือนสะดุดอะไรไปบ้างในอัลบั้มชุดที่ 6 ‘Love’ ที่ฟังอ่อนระโหย โรยแรง แต่ในแง่การตลาดก็ยังมีเพลงฮิต ในแง่ของศิลปะก็มีเพลงที่แสดงให้เห็นว่า พวกเขาพยายามทำอะไรที่หลุดไปจากกรอบเดิม ๆ เหมือนกัน แต่ทุกอย่างยังไม่เข้าที่เข้าทาง หรือลงตัวแค่นั้น
การกลับมาพร้อมนักร้องนำคนใหม่ เดชา โคนาโล ในอีพีชุดเดียวของพวกเขา ‘แดนเนรมิตร’ ไม่ต่างไปจากการทำดีท็อกซ์ ล้างเครื่องครั้งใหญ่ เมื่อไม่ใช่แค่มีคนหน้าใหม่เข้ามาในทีม แต่เสียงของเดชายังเป็นซาวนด์ใหม่ของวง ที่ทำให้งานของพวกเขากลับมากระฉับกระเฉงอีกครั้ง และจากที่ได้ยินใน ‘Lion’ อัลบั้มเต็มชุดแรกของเดชากับบิ๊กแอสส์ พวกเขาไม่ต้องใช้เวลาจูนเครื่องกันนาน
“เรายังคงเป็นเราที่เราเข้าใจ มันจะผิดจะเพี้ยนก็ช่างปะไร ยืนยันตัวเอง อย่างที่แน่ใจ
เรายังคงเป็นเราให้ดีที่สุด ไม่ต้องเปรียบกับเขา เทียบเท่ากับใคร ยืนยันตัวตน อย่างที่ตัวเราเข้าใจ แค่นั้นก็พอ”
ท่อนหนึ่งของเพลงแรกในอัลบั้มใหม่ งานชุดที่ 8 ที่ชื่อเดียวกันกับชื่อชุด “ลายนิ้วมือ” บ่งบอกชัดเจนว่าพวกเขาไม่ (น่าจะ) ต้องการ หรือพยายามพิสูจน์อะไรอีกต่อไป (ซึ่งเอาจริง ๆ ก็อย่างที่บอกเอาไว้ในตอนแรก พวกเขาไม่มีอะไรที่ต้องพิสูจน์อีกแล้ว) นอกจากทำงานที่มีตัวตนของตัวเองชัดเจน และทำให้ดีที่สุด
บิ๊กแอสส์เปิดอินโทร “ลายนิ้วมือ” ด้วยริฟฟ์กีตาร์หนัก ๆ ในแบบแธรช เหมือนจะตอกย้ำว่า นี่คือแถลงการณ์ของพวกเขาถึงอนาคต และสิ่งที่เป็นไปต่อจากนี้ของ บิ๊กแอสส์
เนื้องานทั้งหมด กลมกลืน ฟังลื่นหู ตั้งแต่เพลงแรกไปถึงเพลงสุดท้าย เป็นดนตรีร็อคเมโลดีสวย ฮุกในแต่ละเพลงทำงาน หนักหน่วง แต่ไม่หนวกหู มีความเป็นพ็อปในตัว และที่คลิกเป็นพิเศษก็คือ การบันทึกเสียง (ฟังผ่านเฮดโฟน) งานละเอียด ที่ต้องแน่นคือแน่น ที่ต้องบาดคือบาด งานที่ต้องใสคือใส
เสียงร้องของเดชาเนียนเป็นหนึ่งเดียวกับดนตรีมากขึ้น เป็นเสียงที่ฟังพ็อปแต่แข็งแรง และไต่ระดับไปถึงร็อคได้สบาย ๆ โดยไม่ได้ฟังแล้วรู้สึกว่าต้อง “พยายาม” โดยมีเพลงโชว์ อย่าง “เท่าไหร่ก็เท่านี้” งานบัลลาดร็อค ขายเสียงร้องกับเปียโน ที่นอกจากจะแสดงให้เห็นว่า เดชาพาเสียงร้องของเขาไปได้ไกลแค่ไหนแล้ว ยังทำให้นึกถึงอัลบั้มของวงร็อคในยุคหนึ่ง ที่ต้องมีเพลงบัลลาดสไตล์นี้อยู่ในอัลบั้ม
แต่ที่โดดเด่น และฟังสนุกที่สุดใน ‘ลายนิ้วมือ’ ก็คือ ซาวนด์กีตาร์ ที่บด บี้ ขยี้ เคี้ยว ได้อย่างเมามันส์ และหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไลน์ในแบบแธรช, รกนัว ๆ อย่าง อัลเทอร์เนถีฟ หรือริฟฟ์แข็ง ๆ เช่น ฮาร์ดคอร์ รวมไปถึงริฟฟ์สวย ๆ กับโซโลไหล ๆ แบบร็อคยุค ‘80s
ดนตรีเองไม่ใช่ว่ามีแต่ของตาย “เจ็บแต่ไม่จบ” คือการนำเสนอซาวนด์ใหม่ ๆ ในเพลงของบิ๊กแอสส์ ที่จับบีทแบบเพลงเต้นรำ มาคลุกเคล้ากับร็อคได้ลงตัว ที่ฟังแล้วก็เข้าทีเหมือนกันหากพวกเขาจะลองทำงานในทางนี้เป็นจริง ๆ จัง ๆ มากกว่านี้
เรื่องราวในเพลงอาจจะว่าด้วยความรักเป็นหลัก แต่ก็เล่าผ่านมุมมองที่เติบโตของตัวละครที่เป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนที่ยอมเจ็บปวดแทนอีกฝ่าย ยอมรับ เก็บเป็นความทรงจำที่ดี หรือมองโลกในมุมบวก อย่างที่ได้ยินใน “วันนั้นของเดือน” หรือ “เบาได้เบา” ที่เพลงหลังเอาเรื่องการใช้ชีวิตในสภาพเศรษฐกิจยุคโควิด กับความรักมานำเสนอไปพร้อม ๆ กัน
ด้วยความลงตัว ทั้งในความเป็นพ็อปและความเป็นร็อคของแต่ละเพลง หากเป็นในยุคซีดี ‘ลายนิ้วมือ’ ก็น่าจะเป็นงานที่ตัดซิงเกิล ทำมิวสิกวิดีโอได้เกินครึ่งอัลบั้ม เป็นงานผลิตเพลงดังอีกชุด
การเรียงเพลงทำได้น่าสนใจ เมื่อให้บรรยากาศของงานยุคเทปคาสเส็ตต์ จัดวางแบ่งครึ่งชัดเจน ราวกับแยกเป็นหน้าเอ หน้าบี จากเพลงแรกที่เปิดหัวได้อย่างคึกคัก “ลายนิ้วมือ” เพลงที่ 5 ในอัลบั้ม “สวัสดีตอนเช้า” ก็คือเพลงปิดหน้าเอ ที่เป็นงานอะคูสติกเบา ๆ ฟังผ่อนคลายอบอุ่น สมกับเรื่องราวในเพลง ก่อนจะรีสตาร์ตใหม่ในเพลงที่ 6 ซึ่งกลับมามันส์กันอีกหนด้วยเพลงในทางของบิ๊กแอสส์ “One Way” แล้วก็จบลงตรงที่เพลงบัลลาด เปียโน ซึ้ง ๆ “เท่าไหร่เท่ากัน” เก็บฉากได้อย่างลงตัว สวยงาม
ซึ่งถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างของอัลบั้มชุดนี้ อัลบั้มที่บิ๊กแอสส์แบมือให้เห็นลายนิ้วชัด ๆ ว่าแต่ละนิ้วต่างก็เป็นลายร็อคที่แตกต่าง มีทั้งเก่า ทั้งใหม่ สั้น ยาว ไม่เท่ากัน ที่เข้ามามีอิทธิพลในงานของพวกเขา แต่ก็ทำให้บิ๊กแอสส์เป็นอย่างที่เป็น เห็นอย่างที่เห็น
“มือที่เห็น ก็มีอยู่กันสิบนิ้ว สั้นยาวต่างกัน แต่ล้วนก็มีความหมาย และลายบนนิ้ว ของเราไม่เคยตรงกัน มันย้ำว่าเราต่างไม่เหมือนใคร”
และนี่คือลายนิ้วมือของ บิ๊กแอสส์ บนมือที่ผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ มานาน 25 ปีพอดีในปีนี้
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ วิจารณ์-แนะนำ นิตยสาร สีสัน ปีที่ 33 ฉบับที่ 7 กรกฎาคม 2565
ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่