วันเกิดของแร็ปเปอร์ที่ขายผลงานได้มากที่สุดในโลก วันวางอัลบัมชุดสุดท้ายของวงเซาเธิร์น ร็อคระดับตำนาน วันที่ The Bee Gees สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการเพลงอังกฤษ และตัวเอง รวมถึงเป็นวันที่โนล กัลลาเกอร์เผลอปากพล่อย ขณะที่เจ้าหน้าที่บัญชีของสติง รับกรรมที่ตัวเองทำเอาไว้
1972: วันเกิดของ เอ็มมิเน็ม แร็ปเปอร์ ชาวอเมริกัน ที่มี “The Real Slim Shady” เป็นเพลงฮิตอันดับ 1 ในอังกฤษเมื่อปี 2000 รวมถึงมีอัลบัมชุด ‘The Marshall Mathers LP’ เป็นอัลบัมฮิตทั่วโลก
ชื่อจริง ๆ ของเอ็มมิเน็มคือ มาร์แชลล์ บรูซ มาเธอร์ส ที่สาม เขาเกิดที่เซนต์ โจเซฟ, มิสซูรี่ แล้วก็ย้ายมาที่วอร์เรน, มิชิแกน จากนั้นเขากับแม่ – เด็บบี ก็มาลงหลักปักฐานที่ดีทรอยต์ หลังจากย้ายไปย้ายมาในหลาย ๆ รัฐ เพื่อตั้งรกรากมั่นคง ว่าที่แร็ปเปอร์คนดังต้องเจอกับชีวิตที่ลำบากลำบนไม่น้อย เมื่อเจากลายเป็นเด็กผิวขาว ที่เพื่อนบ้านเต็มไปด้วยคนผิวดำ ทำให้ถูกข่มเหง ทำร้ายอยู่เป็นประจำ แต่พอรอนนี โพลคิงตัน ลุงของเขาแนะนำให้รู้จักกับดนตรีฮิปฮ็อป มาร์แชลล์ มาเธอร์ส ก็ค้นพบการปลดปล่อยความคับแค้น และขุดค้นความรักในการเล่าเรื่องของตัวเอง โดยใช้ชื่อว่าเอ็มมิเน็ม จากจุดเริ่มต้นตรงนี้ เอ็มมิเน็มพาตัวเองเข้าแข่งขันการแร็ประดับท้องถิ่น จนมีแฟนเพลงที่เป็นคอเพลงฮิปฮ็อปใต้ดินให้กับการติดตาม
ปี 1996 เอ็มมิเน็มปล่อยอัลบัมที่ไม่ได้รับการตอบรับมากนักออกมา แต่ก็ไปเข้าตาดร. เดร ที่จับเขาเซ็นสัญญาเข้าสังกัด อัฟเตอร์แม็ธ เรคอร์ดส์ ของตัวเอง แล้วก็โปรดิวซ์เพลงในอัลบัม ‘The Slim Shady LP’ ให้เอ็มมิเน็มรวมสามเพลง ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ “My Name Is” ที่เป็นการแนะนำตัวตนอีกด้านหนึ่งของแร็ปเปอร์รายนี้ สลิม เชดี ให้โลกได้รู้จัก
สลิม เชดี ก้าวมาจากท้องถนน เป็นบุรุษแห่งหายนะ เขาไม่ดื่มว็อดกา แต่บอกว่าแม่ของเขาเล่นยามากกว่าที่เขาเล่น ชอบแซะแพม แอนเดอร์สัน และคุกคามครูของตัวเอง เนื้อหาของเพลงก็ว่ากันตรง ๆ ไม่มีการแสดงความสำนึก หรือรู้สึกผิดใด ๆ และทำให้เกิดประเด็นถกเถียงในสังคม แต่กับบรรดาแฟนเพลง พวกเขากลับอยากรู้จักแร็ปเปอร์ ที่เช็นลายเซ็นให้พวกเขาว่า “ขอบใจมากที่สนับสนุนกัน ไอ้งั่ง” (thanks for the support, asshole!)
‘The Slim Shady LP’ ขายไปได้หลายล้านก็อปปี และส่งให้เอ็มมิเน็มไปเป็นดาราแร็ปอย่างรวดเร็ว เพลงต่าว ๆ ที่มาพร้อมกับเนื้อหาที่สร้างประเด็นให้พูดถึง ซึ่งบอกเล่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ยังมีให้ได้ยินอีกหลายเพลง ไม่ว่าจะเป็น การฆาตกรรมภรรยาตัวเอง ใน “Kim” การเลี้ยงลูกสาวระหว่างที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหน ใน “’97 Bonnie & Clyde”
อัลบัมชุดต่อมา ที่ยังคงเป็นงานอันดับ 1 ในชาร์ต ‘The Marshall Mathers LP’ (2000) ยังสร้างศัตรูให้เขาอีกเพียบ เมื่อเขาเล่นคนดัง ๆ ไปทั่ว ตั้งแต่วิลล์ สมิธ ไปถึงบริตนีย์ สเพียร์ส และคริสตนา อากีเลรา ใน “The Real Slim Shady” ไม่ใช่แค่นั้น เพลงนี้ยังทำให้เอ็มมิเน็มได้รางวัลแกรมมีสาขา การแสดงเดี่ยวเพลงแร็ปยอดเยี่ยม และพิสูจน์ให้เห็นว่า ทัศนคติแบบไม่แคร์เวิร์ลด์ เป็นประโยชน์ต่อการประสบความสำเร็จ
ในปี 2013 เขากลายเป็นศิลปินฮิปฮ็อปที่ขายผลงานได้มากที่สุดตลอดกาล เมื่อมีอัลบัมอันดับ 1 มากถึง 10 ชุด รวมทั้งซิงเกิลอันดับ 1 อีก 5 เพลง และคว้ารางวัลแกรมมีมาครองถึง 15 ตัว เอ็มมิเน็มยังเป็นดารานำในหนังกึ่งอัตชีวประวัติเรื่อง ‘8 Mile’ ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์ สาขาเพลงดั้งเดิมยอดเยี่ยม จากเพลง “Lose Yourself”
1977: Lynyrd Skynyrd ออกอัลบัม ‘Street Survivors’ ซึ่งกลายเป็นงานชุดสุดท้ายที่มี นักร้องนำ รอนนี แวน แซนต์ กับมือกีตาร์ สตีฟ เกนส์ ร่วมงาน เมื่อทั้งคู่เสียชีวิตจากการที่อุบัติเหตุทางเครื่องบิน ที่บาตัน รูจ, หลุยส์เซียนา สามวันหลังจากอัลบัมออกวางขาย
ด้วยแรงส่งของซิงเกิล “What’s Your Name” และ “You Got that Right” อัลบัมไปได้ไกลถึงอันดับ 5 ในสหรัฐอเมริกา ขณะที่ตัวอัลบัมก็เต็มไปด้วยเรื่องเล่าขานมากมาย
บางคนบอกว่า ชื่ออัลบัมทำนายถึงว่าจะมีอุบัติเหตุทางเครื่องบินเกิดขึ้นกับวง บางคนบอกว่ามีการบ่งบอกเป็นนัย ๆ จากภาพปกที่สมาชิกทุกคนมีเปลวเพลิงล้อมรอบ และมีเพลงหนึ่งในอัลบัมชื่อว่า “That Smell” ที่มีเนื้อร้องว่า “The smell of death surrounds you”
เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อสมาชิกวงที่จากไป สังกัดอาร์ซีเอตัดสินใจเรียกปกอัลบัมดั้งเดิมที่มีเปลวเพลิงกลับมา แล้วเปลี่ยนแบ็คกราวนด์ข้างหลังเป็นสีดำแทน
1987: The Bee Gees กลายเป็นศิลปินรายเดียว ที่มีเพลงอันดับ 1 ในอังกฤษในสามทศวรรษ 60s, 70s และ 80s ติดต่อกัน เมื่อ “You Win Again” ขึ้นอันดับ 1 ซึ่งเป็นเพลงอันดับ 1 เพลงที่ 5 และเพลงสุดท้ายของพวกเขา
1995: ระหว่างให้สัมภาษณ์กับนิตยสารออบเซอร์เวอร์ โนล กัลลาเกอร์จาก Oasis พูดออกมาว่า เขาอยากให้ดามอน อัลบาร์น และอเล็กซ์ ค็อกซ์ แห่งวง Blur ตายด้วยโรคเอดส์
ก่อนที่เขาจะขอถอนคำพูดในเวลาต่อมา
1995: คีธ มัวร์ อดีตคนทำบัญชีของสติง ถูกตัดสินจำคุก 6 ปี หลังพบว่ามีความผิดฐานยักยอกเงินถึง 6 ล้านปอนด์ จาก 108 บัญชีธนาคารที่สติงเป็นเจ้าของ
ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่