FEATURESMusic Featuresวันนี้ ในโลกดนตรี

วันนี้ในโลกดนตรี 19 พฤศจิกายน

เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของรางวัลแกรมมี เมื่อมีการยกเลิกรางวัลที่ให้กับศิลปินรายหนึ่ง จดหมายอันกราดเกรี้ยวของจอห์น เล็นน็อนถูกนักสะสมซื้อ ลีแอนน์ ไรมส์ ขึ้นอันดับ 1 ชาร์ตเพลงฮิตในสหรัฐอเมริกา และ The Supremes สร้างประวัติศาสตร์ในอังกฤษ

2016: ข้อความที่เต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว ที่จอห์น เล็นน็อน เขียนถึงพอล แม็กคาร์ตนีย์ และภรรยา – ลินดา หลังจาก The Beatles แตกวง ถูกซื้อไปในราคาเกือบ ๆ 30,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 24,000 ปอนด์ โดยนักสะสมนิรนามในดัลลัส

ข้อความฉบับดังกล่าวเขียนลงบนกระดาษพิมพ์ดีด 2 หน้า ด้วยลายมือ ซึ่งเล็นน็อนตำหนิการปฏิบัติต่อเขาและภรรยา – โยโกะ โอโนะ ของครอบครัวแม็กคาร์ตนีย์ คู่สามี-ภรรยา การโจมตีของเล็นน็อนว่ากันว่า เป็นปฏิกริยาตอบสนองต่อการวิพากษ์วิจารณ์ของลินดาที่มีต่อจอห์น ซึ่งไม่ยอมประกาศการออกจากวงต่อสาธารณะชน

2000: ลีแอนน์ ไรมส์ส เริ่มต้นสัปดาห์แรก จากสองสัปดาห์ ในการครองอันดับ 1 ชาร์ตเพลงฮิตในอังกฤษ ด้วยเพลง “Can’t Fight The Moonlight”

เพลงนี้เป็นเพลงแรกของไรมส์ ที่ขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษ ซึ่งเป็นเพลงที่แต่งโดยไดแอนน์ วอร์เรน และอยู่ในอัลบัมซาวนด์แทร็คและภาพยนตร์เรื่อง ‘Coyote Ugly’

1990: สถาบันศิลปะและวิทยาการ การบันทึกเสียงแห่งชาติ ยึดรางวัลแกรมมี สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมปี 1989 จากวง Milli Vanilli เพราะสองสมาชิกของวง ร็อบ พิลาตัส และแฟบริซ มอร์แวน ไม่ได้ร้องเพลงในอัลบัมชุดแรกของพวกเขา ‘Girl You Know It’s True’ จริง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการประกาศยกเลิกรางวัลแกรมมีที่ให้กับศิลปินไปแล้ว

โดยมิลลิ วานิลลิที่มี “Baby Don’t Forget My Number” เป็นเพลงฮิตอันดับ 1 บนชาร์ต ฮ็อต 100 ในปี 1989 ถูกจับได้ว่า ลิปซิงค์เพลงนี้ในคอนเสิร์ตที่คอนเน็กติคัต ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อเทปเกิดสะดุด และพวกเขาต้องลงจากเวที หากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ไม่ได้หยุดความฮิตในผลงานเพลงของพวกเขา เมื่อ “Blame It On The Rain” และ “Girl I’m Gonna Miss You” ต่างขึ้นถึงอันดับ 1 ในชาร์ต และ “All Or Nothing” ก็ไปได้ไกลถึงอันดับ 4

แฟรงก์ ฟาเรียน

มิลลิ วานิลลิ เป็นศิลปินที่ถูกปั้นขึ้นมาโดย แฟรงก์ ฟาเรียน โปรดิวเซอร์ชาวเยอรมนี ที่เคยทำวง Boney M จนโด่งดังประสบความสำเร็จทั่วยุโรป และทั่วโลกในยุคของดิสโก้ ดนตรีแดนซ์ของเยอรมนี ไม่ได้เน้นตัวตน หรือความสามารถจริง ๆ กันอยู่แล้ว ดังนั้นตอนที่ฟาเรียนทำมิลลิ วานิลลิ เขาเลยไม่ได้กังวลเรื่องที่ว่า ทั้งสองคนสามารถร้องเพลงได้ไหม ทั้งคู่แค่ต้องมีภาพลักษณ์ที่เข้ากันได้ และลงตัวกับโปรเจ็กต์ ซึ่งเขาพบสิ่งที่มองหาในตัวของพิลาตัสและมอร์แวน สองนักเที่ยวคลับชาวเยอรมัน ที่ทำงานแดนเซอร์และนายแบบ แบบไม่จริงจังอะไรมากมาย ฟาเรียนใช้บรรดานักดนตรีในสตูดิโอเป็นคนทำงานเพลงในอัลบัม ‘Girl You Know It’s True’ แล้วลงเครดิตเสียงร้องเป็นของ Rob & Fab (Brothers Of Soul) ถึงแม้จริง ๆ แล้วเขาจะใช้นักร้องห้องอัดเป็นคนร้องในห้องบันทึกเสียงก็ตาม

การได้รับรางวัลแกรมมี ทำให้พวกเขากลายเป็นที่จับตามองมากขึ้น และทำให้ความลับดำมืดของพวกเขาถูกเปิดเผย สถานการณ์มาถึงจุดแตกหักเมื่อพิลาตัสและมอร์แวน ยืนยันว่า พวกเขาจะใช้เสียงร้องของตัวเองในอัลบัมชุดต่อมา แต่ฟาเรียนปฏิเสธ และต้องการจะจบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ทำให้เขาประกาศในวันที่ 15 พฤศจิกายน 1990 ว่า สองสมาชิกของวง ไม่ได้ร้องเพลงในอัลบัมแม้แต่โน้ตเดียวในตอนบันทึกเสียง ซึ่งเป็นการผิดกฎของแกรมมี ดังนั้นการได้รับรางวัลของพวกเขาจึงถูกเพิกถอน ทำให้รางวัลนี้ไม่มีผู้ได้รับรางวัลในปีนั้น ซึ่งศิลปินที่ได้เข้าชิงก็มี Indigo Girls, เนเนห์ เชอร์รี, Soul II Soul และ Tone Loc


หลังจากนั้น สารพัดคดีความก็ตามมา ส่งผลให้ทุกคนที่ซื้ออัลบัมชุดนี้ ได้รับเงินคืน 3 เหรียญ ส่วนพิลาตัสกับมอร์แวน ก็พยายามออกอัลบัมของตัวเองในปี 1993 โดยใช้ชื่อว่า Rob & Fab ซึ่งประสบความล้มเหลวชนิดยับเยิน ทั้งคู่กลับมาทำงานกับฟาเรียนอีกในปี 1998 และบันทึกเสียงร้องด้วยตัวเองในอัลบัมชุดใหม่ แต่แล้วพิลาตัสก็เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาด ส่วนอัลบัมก็ไม่เคยมีการนำออกขาย

1983: ทอม อีแวนส์ นักดนตรี และนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ สมาชิกของวง Badfinger ฆ่าตัวตาย หลังจากเกิดถกเถียงกับ โจอีย์ มอลแลนด์ มือกีตาร์ของวง เกี่ยวกับเรื่องค่ารอยัลตีของเพลง “Without You” ที่อีแวนส์เป็นผู้ร่วมแต่ง ซึ่งต่อมากลายเป็นเพลงฮิต และถูกศิลปินมากมายนำไปคัฟเวอร์จนโด่งดัง

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก พีต แฮม สมาชิกอีกคนของวงฆ่าตัวตายไปเมื่อ 8 ปีก่อน โดยวงดนตรีที่ได้รับคำชื่นชมมากมายวงนี้ มีการดำเนินธุรกิจที่แปลก ๆ และย่ำแย่กับสังกัดแผ่นเสียงของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิล หรือว่าวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ซึ่งน่าจะเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้เกิดเหตุน่าเศร้าดังกล่าว

นอกจากนี้ครอบครัวของอีแวนส์ก็เผยด้วยว่า เขายังทำใจไม่ได้กับการที่แฮม เพื่อนร่วมวงฆ่าตัวตาย

1964: The Supremes กลายเป็นกลุ่มศิลปินหญิงล้วนรายแรก ที่มีเพลงขึ้นอันดับ 1 ในสหราชอาณาจักร เมื่อเพลง “Baby Love” ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต


เพลงนี้แต่งและโปรดิวซ์โดย ทีมโปรดิวเซอร์หลักของโมทาวน์ เรคอร์ดส์ Holland–Dozier–Holland และเป็นเพลงที่ 2 จากทั้งหมด 5 เพลงของเดอะ ซูพรีมส์ ที่ขึ้นอันดับ 1 ต่อเนื่องในสหรัฐอเมริกา

ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.