เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของรางวัลแกรมมี เมื่อมีการยกเลิกรางวัลที่ให้กับศิลปินรายหนึ่ง จดหมายอันกราดเกรี้ยวของจอห์น เล็นน็อนถูกนักสะสมซื้อ ลีแอนน์ ไรมส์ ขึ้นอันดับ 1 ชาร์ตเพลงฮิตในสหรัฐอเมริกา และ The Supremes สร้างประวัติศาสตร์ในอังกฤษ
2016: ข้อความที่เต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว ที่จอห์น เล็นน็อน เขียนถึงพอล แม็กคาร์ตนีย์ และภรรยา – ลินดา หลังจาก The Beatles แตกวง ถูกซื้อไปในราคาเกือบ ๆ 30,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 24,000 ปอนด์ โดยนักสะสมนิรนามในดัลลัส
ข้อความฉบับดังกล่าวเขียนลงบนกระดาษพิมพ์ดีด 2 หน้า ด้วยลายมือ ซึ่งเล็นน็อนตำหนิการปฏิบัติต่อเขาและภรรยา – โยโกะ โอโนะ ของครอบครัวแม็กคาร์ตนีย์ คู่สามี-ภรรยา การโจมตีของเล็นน็อนว่ากันว่า เป็นปฏิกริยาตอบสนองต่อการวิพากษ์วิจารณ์ของลินดาที่มีต่อจอห์น ซึ่งไม่ยอมประกาศการออกจากวงต่อสาธารณะชน
2000: ลีแอนน์ ไรมส์ส เริ่มต้นสัปดาห์แรก จากสองสัปดาห์ ในการครองอันดับ 1 ชาร์ตเพลงฮิตในอังกฤษ ด้วยเพลง “Can’t Fight The Moonlight”
เพลงนี้เป็นเพลงแรกของไรมส์ ที่ขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษ ซึ่งเป็นเพลงที่แต่งโดยไดแอนน์ วอร์เรน และอยู่ในอัลบัมซาวนด์แทร็คและภาพยนตร์เรื่อง ‘Coyote Ugly’
1990: สถาบันศิลปะและวิทยาการ การบันทึกเสียงแห่งชาติ ยึดรางวัลแกรมมี สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมปี 1989 จากวง Milli Vanilli เพราะสองสมาชิกของวง ร็อบ พิลาตัส และแฟบริซ มอร์แวน ไม่ได้ร้องเพลงในอัลบัมชุดแรกของพวกเขา ‘Girl You Know It’s True’ จริง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการประกาศยกเลิกรางวัลแกรมมีที่ให้กับศิลปินไปแล้ว
โดยมิลลิ วานิลลิที่มี “Baby Don’t Forget My Number” เป็นเพลงฮิตอันดับ 1 บนชาร์ต ฮ็อต 100 ในปี 1989 ถูกจับได้ว่า ลิปซิงค์เพลงนี้ในคอนเสิร์ตที่คอนเน็กติคัต ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อเทปเกิดสะดุด และพวกเขาต้องลงจากเวที หากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ไม่ได้หยุดความฮิตในผลงานเพลงของพวกเขา เมื่อ “Blame It On The Rain” และ “Girl I’m Gonna Miss You” ต่างขึ้นถึงอันดับ 1 ในชาร์ต และ “All Or Nothing” ก็ไปได้ไกลถึงอันดับ 4
มิลลิ วานิลลิ เป็นศิลปินที่ถูกปั้นขึ้นมาโดย แฟรงก์ ฟาเรียน โปรดิวเซอร์ชาวเยอรมนี ที่เคยทำวง Boney M จนโด่งดังประสบความสำเร็จทั่วยุโรป และทั่วโลกในยุคของดิสโก้ ดนตรีแดนซ์ของเยอรมนี ไม่ได้เน้นตัวตน หรือความสามารถจริง ๆ กันอยู่แล้ว ดังนั้นตอนที่ฟาเรียนทำมิลลิ วานิลลิ เขาเลยไม่ได้กังวลเรื่องที่ว่า ทั้งสองคนสามารถร้องเพลงได้ไหม ทั้งคู่แค่ต้องมีภาพลักษณ์ที่เข้ากันได้ และลงตัวกับโปรเจ็กต์ ซึ่งเขาพบสิ่งที่มองหาในตัวของพิลาตัสและมอร์แวน สองนักเที่ยวคลับชาวเยอรมัน ที่ทำงานแดนเซอร์และนายแบบ แบบไม่จริงจังอะไรมากมาย ฟาเรียนใช้บรรดานักดนตรีในสตูดิโอเป็นคนทำงานเพลงในอัลบัม ‘Girl You Know It’s True’ แล้วลงเครดิตเสียงร้องเป็นของ Rob & Fab (Brothers Of Soul) ถึงแม้จริง ๆ แล้วเขาจะใช้นักร้องห้องอัดเป็นคนร้องในห้องบันทึกเสียงก็ตาม
การได้รับรางวัลแกรมมี ทำให้พวกเขากลายเป็นที่จับตามองมากขึ้น และทำให้ความลับดำมืดของพวกเขาถูกเปิดเผย สถานการณ์มาถึงจุดแตกหักเมื่อพิลาตัสและมอร์แวน ยืนยันว่า พวกเขาจะใช้เสียงร้องของตัวเองในอัลบัมชุดต่อมา แต่ฟาเรียนปฏิเสธ และต้องการจะจบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ทำให้เขาประกาศในวันที่ 15 พฤศจิกายน 1990 ว่า สองสมาชิกของวง ไม่ได้ร้องเพลงในอัลบัมแม้แต่โน้ตเดียวในตอนบันทึกเสียง ซึ่งเป็นการผิดกฎของแกรมมี ดังนั้นการได้รับรางวัลของพวกเขาจึงถูกเพิกถอน ทำให้รางวัลนี้ไม่มีผู้ได้รับรางวัลในปีนั้น ซึ่งศิลปินที่ได้เข้าชิงก็มี Indigo Girls, เนเนห์ เชอร์รี, Soul II Soul และ Tone Loc
หลังจากนั้น สารพัดคดีความก็ตามมา ส่งผลให้ทุกคนที่ซื้ออัลบัมชุดนี้ ได้รับเงินคืน 3 เหรียญ ส่วนพิลาตัสกับมอร์แวน ก็พยายามออกอัลบัมของตัวเองในปี 1993 โดยใช้ชื่อว่า Rob & Fab ซึ่งประสบความล้มเหลวชนิดยับเยิน ทั้งคู่กลับมาทำงานกับฟาเรียนอีกในปี 1998 และบันทึกเสียงร้องด้วยตัวเองในอัลบัมชุดใหม่ แต่แล้วพิลาตัสก็เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาด ส่วนอัลบัมก็ไม่เคยมีการนำออกขาย
1983: ทอม อีแวนส์ นักดนตรี และนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ สมาชิกของวง Badfinger ฆ่าตัวตาย หลังจากเกิดถกเถียงกับ โจอีย์ มอลแลนด์ มือกีตาร์ของวง เกี่ยวกับเรื่องค่ารอยัลตีของเพลง “Without You” ที่อีแวนส์เป็นผู้ร่วมแต่ง ซึ่งต่อมากลายเป็นเพลงฮิต และถูกศิลปินมากมายนำไปคัฟเวอร์จนโด่งดัง
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก พีต แฮม สมาชิกอีกคนของวงฆ่าตัวตายไปเมื่อ 8 ปีก่อน โดยวงดนตรีที่ได้รับคำชื่นชมมากมายวงนี้ มีการดำเนินธุรกิจที่แปลก ๆ และย่ำแย่กับสังกัดแผ่นเสียงของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิล หรือว่าวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ซึ่งน่าจะเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้เกิดเหตุน่าเศร้าดังกล่าว
นอกจากนี้ครอบครัวของอีแวนส์ก็เผยด้วยว่า เขายังทำใจไม่ได้กับการที่แฮม เพื่อนร่วมวงฆ่าตัวตาย
1964: The Supremes กลายเป็นกลุ่มศิลปินหญิงล้วนรายแรก ที่มีเพลงขึ้นอันดับ 1 ในสหราชอาณาจักร เมื่อเพลง “Baby Love” ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต
เพลงนี้แต่งและโปรดิวซ์โดย ทีมโปรดิวเซอร์หลักของโมทาวน์ เรคอร์ดส์ Holland–Dozier–Holland และเป็นเพลงที่ 2 จากทั้งหมด 5 เพลงของเดอะ ซูพรีมส์ ที่ขึ้นอันดับ 1 ต่อเนื่องในสหรัฐอเมริกา
ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่