วันนี้ในโลกดนตรี 8 พฤศจิกายน

วันนี้หนังเรื่องแรกและเรื่องเดียว ที่เอ็มมิเน็มรับบทนำออกฉาย เป็นวันเกิดของศิลปินบลูส์หญิงผิวขาว ที่ได้รับการยอมรับในฝีมือ วันที่วง Boston มีเพลงอันดับ 1 เพลงเดียวในชาร์ต และการเริ่มต้นครองบัลลังก์สูงสุดในชาร์ตเพลงฮิตของอีกเพลงจากหนัง ‘Top Gun’ รวมถึงเป็นวันที่เกิดเหตุร้ายกับนักร้องดังจากยุค ‘60s และเป็นวันที่ลิขสิทธิ์เพลงของ The Beatles เปลี่ยนมือ

1949: วันเกิดของ บอนนี ลินน์ แรตต์ หรือที่รู้จักกันในนาม บอนนี แร็ตต์ นักร้อง, นักแต่งเพลง และมือสไลด์กีตาร์ ในแนวทางบลูส์

แร็ตต์เป็นเจ้าของรางวัลแกรมมีถึง 10 รางวัล และอยู่ในอันดับ 50 ของ 100 นักร้องยอดเยี่ยมตลอดกาล และอันดับที่ 89 ของ 100 มือกีตาร์ยอดเยี่ยมตลอดกาล จากการจัดอันดับของนิตยสารโรลลิง สโตน

ตลอดระยะเวลาการทำงานที่ยาวนานถึง 48 ปี แรตต์มีสตูดิโออัลบัมออกมาถึง 17 ชุด มีเพลงฮิตอย่าง “You” ที่ขึ้นอันดับ 31 ในอังกฤษเมื่อปี 1994, “Something to Talk About”, “Love Sneakin’ Up on You” และ “I Can’t Make You Love Me” ที่มีบรูซ ฮอร์นสบี เล่นเปียโน โดยมีอัลบัมชุด ‘Nick of Time’ ขึ้นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1990

1974: มีคนบุกเข้าไปในห้องพักของ คอนนี ฟรานซิส หนึ่งในศิลปินดังจากยุค ’60s ในโรงแรมของโฮเวิร์ด จอห์นสัน โดยเธอถูกข่มขืนขณะที่มีมีดจ่อเอาไว้

การถูกทำร้ายในครั้งนี้ส่งผลกระทบกับชีวิตของฟรานซิสอย่างมาก ทำให้เธอไม่กล้าขึ้นแสดงไปถึง 7 ปี โดย 2 ปีหลังจากเกิดเหตุ เธอได้รับเงินถึงกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการฟ้องร้องต่อทางโรงแรม

1986: แม้จะไม่มีมิวสิกวิดีโอ แต่เพลง “Amanda” ของวง Boston ก็ขึ้นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ

โดยเพลงนี้ ยังเป็นเพลงอันดับ 1 เพลงเดียวของวงในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

1986: “Take My Breath Away” เพลงของวง Berlin ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตเพลงฮิตเป็นสัปดาห์แรก จากจำนวนทั้งหมด 4 สัปดาห์ในสหราชอาณาจักร

เพลงที่อยู่ในหนังเรื่อง ‘Top Gun’ ซึ่งแต่งโดยจิออร์จิโอ โมโรเดอร์ และทอม วิตล็อค เพลงนี้ ยังได้รับรางวัลเพลงดั้งเดิมยอดเยี่ยม ออสการ์ และลูกโลกทองคำอีกด้วย
(อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่นี่ —:> https://bit.ly/3bkUIM0)

1995: โซนีกลายเป็นผู้ถือสิทธิ์การพิมพ์เพลง ในหลาย ๆ เพลงของ The Beatles เมื่อไมเคิล แจ็คสัน นำบริษัทเอทีวี มิวสิกพับลิชิงของเขา รวมเข้ากับโซนี มิวสิก ในสัญญาที่มีมูลค่าสูงถึง 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

โดยไมเคิล แจ็คสันถือสิทธิ์ในเพลงเก่า ๆ เหล่านี้ของเดอะ บีเทิลส์ ด้วยการเสนอราคาที่สูงกว่าพอล แม็กคาร์ตนีย์เมื่อปี 1985 ในราคา 47.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ​
(อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่นี่  —:> http://bit.ly/2KFzxHQ)

2002: ‘8 Mile’ ภาพยนตร์กึ่ง ๆ อัตชีวประวัติที่เป็นการมองย้อนกลับไปในชีวิตช่วงแรก ๆ ของเอ็มมิเน็ม ซึ่งเป็นแร็ปเปอร์ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิตในดีทรอยต์ ออกฉายในโรงภาพยนตร์

หนังประสบความสำเร็จทั้งเงินแลกล่อง ขณะที่เพลง “Lose Yourself” ของเอ็มมิเน็ม ก็กลายเป็นเพลงแร็ปเพลงแรกที่ได้รางวัลเพลงดั้งเดิมยอดเยี่ยมออสการ์

เอ็มมิเน็ม รับบทเป็น จิมมี “บี-แร็บบิต” สมิธ จูเนียร์ แร็ปเปอร์ผิวขาวที่พยายามสร้างชื่อให้ตัวเอง ในแวดวงฮิป-ฮ็อป ที่ผู้คนส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำ โดยตัวละครรายนี้มีอะไรหลายอย่างที่คล้ายคลึงกับ การสู้ชีวิตของเอ็มมิเน็ม ไม่ว่าจะเป็น การโตมาในครอบครัวที่ขัดสน ด้วยการอยู่กับแม่ที่ติดเหล้า แต่จิมมีกับเอ็มมิเน็มก็ไม่ได้เหมือนกันไปซะทุกอย่าง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น จะให้การแต่งเพลงหลักของหนัง “Lose Yourself” กลายเป็นเรื่องยาก

“ลูกเล่นที่ผมต้องคิดให้ออก ก็คือการที่ต้องร่ายออกมาให้ฟังดูเหมือนเป็นเขา แล้วจากนั้นด้วยอะไรบางอย่าง ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนมาเป็นผม เพื่อที่คุณจะได้มองเห็นการต่อสู้ชีวิตของผมกับเขา ขนานกันไป” เอ็มมิเน็มกล่าว

และเอ็มมิเน็มก็สร้างสมดุลย์ระหว่างเรื่องจริงและเรื่องแต่งได้สำเร็จ เมื่อ “Lose Yourself” กลายเป็นเพลงอันดับ 1 ในชาร์ตฮ็อต 100, ได้รางวัลแกรมมีสาขาเพลงแร็ป และสาขาการแสดงเดี่ยวเพลงแร็ปยอดเยี่ยม รวมถึงรางวัลออสการ์ ซึ่งเขาไม่คิดว่าเพลงนี้จะได้รับรางวัล เนื่องจากไม่เคยมีเพลงแร็ปคว้ารางวัลมาก่อนเลย ทำให้เอ็มมิเน็มเลือกที่จะนอนอยู่บ้าน มากกว่าไปร่วมงาน

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่