เรื่องของการจัดอันดับ เก็บสถิติทั้งหลายนั้น คงต้องยกให้พวกอเมริกันที่เก็บละเอียดกันทุกปี กระทั่งศิลปินที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็ยังไปตามเก็บสถิติกันมาว่า ใครที่ยังทำรายได้มากที่สุด แม้จะไม่อยู่ใช้เงินที่หามาได้ในก็ตามที
เชื่อว่าคงเดากันได้ไม่ยากสำหรับศิลปินที่คว้าแชมป์มาครอง ด้วยรายได้ที่สูงถึง 145 ล้านเหรียญ นับเฉพาะปี 2012 ทำให้ไมเคิล แจ็คสัน กลายเป็นศิลปินที่จากไปแล้วที่มีรายได้มากที่สุดของปี 2012 ส่วนรายที่เหลือก็เชื่อว่าน่าจะพอนึกออกว่าจะมีใคร เพียงแต่อาจจะจัดอันดับได้ไม่ถูกเป๊ะๆ เท่านั้นเอง ก็มี เอลวิส เพรสลีย์, บ็อบ มาร์ลีย์, จอห์น เลนนอน, จอร์จ แฮร์ริสัน, และริชาร์ด รอดเจอร์ส นักประพันธ์เพลงละครเวทีบรอดเวย์
ศิลปินหกรายแรกในอันดับ ทำรายได้รายละมากกว่า 5 ล้านเหรียญ โดยนับคำนวณจากต้นเดือนตุลาคม 2011 – สิ้นเดือนตุลาคม 2012 แล้วหากมองไปถึงการจัด 10 อันดับคนดังที่เสียชีวิตที่รวยที่สุด ถึงจะเป็นศิลปินเพลงครึ่งหนึ่ง แต่คนที่รวยที่สุดนั้นกลับเป็นนักแสดง เอลิซาเบธ เทย์เลอร์
แจ็คสันครองอันดับ 1 ในการจัดอันดับนี้เป็นปีที่สามติดต่อกัน แล้วก็มีรายได้เป็นเลขเก้าหลักมาสามปีซ้อน ซึ่งเป็นผลจากการเซ็นสัญญามากมายหลังจากที่เจ้าตัวเสียชีวิตไปเมื่อปี 2009 เจ้าหน้าที่กองมรดกของเขาสานต่อรายได้ของแจ็คสันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะส่วนแบ่ง 50% ที่ได้จากการให้เช่าลิขสิทธิ์เพลง ผ่านโซนี่-เอทีวี แต่นั่นก็ไม่ใช่รายได้ก้อนใหญ่ที่มาสู่กองมรดก หากเป็นการทำงานร่วมกับคณะเต้นรำเซิร์ค ดู โซเลย์ ที่ออกทัวร์แสดง The Michael Jackson Immortal World Tour ต่างหาก เพราะแค่การทัวร์ในช่วงแรก ก็ทำเงินได้มากถึง 160 ล้านเหรียญ
อันดับ 2 คือ เดอะ คิง – เอลวิส เพรสลีย์ รายได้ถึง 55 ล้านเหรียญ อันดับ 3 ได้แก่ บ็อบ มาร์ลีย์ ที่ทำเงินได้ถึง 17 ล้านเหรียญ อัลบั้มเพลงของราชาเร็กเก้รายนี้ทำยอดขายรวมกันได้มากถึง 75 ล้านชุดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กองมรดกของมาร์ลีย์ ยังสานต่อธุรกิจที่เกี่ยวพันกับมาร์ลีย์ออกมาเรื่อยๆ เช่น บริษัทเครื่องดื่ม Marley Beverage และ House of Marley ซึ่งเป็นพวกหูฟัง และสินค้าในชีวิตประจำวัน ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สองสมาชิกของเดอะ บีเทิลส์ ที่เสียชีวิตไปแล้ว จอห์น เลนนอน และ จอร์จ แฮร์ริสัน อยู่ในอันดับด้วยรายได้จากการขายอัลบั้มของเดอะ บีเทิลส์ ที่ตอนนี้ขายไปแล้วรวม 63 ล้านชุด นับเฉพาะในอเมริกา ตั้งแต่ปี 1992
ริชาร์ด รอดเจอร์สก็ได้ผลประโยชน์จากงานเดี่ยวของตัวเอง และงานที่ทำร่วมกับลอเรนซ์ ฮาร์ท ซึ่งก็รวมไปถึงเพลงอย่าง Blue Moon และ This Can’t be Love นอกจากนี้ย้อนไปในปี 2009 งานที่รอดเจอร์สทำกับออสการ์ แฮมเมอร์สไตน์ก็ขายได้มากถึง 200 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
สำหรับศิลปินที่เสียชีวิตแล้ว และยังทำเงินได้มากอยู่ หากไม่พอเข้าอันดับก็ได้แก่ จิมิ เฮนดริกซ์, เลส พอล และทูแพ็ค ชาเคอร์ ซึ่งทำเงินไปรายละมากกว่า 3 ล้านเหรียญ
ขณะที่วิทนีย์ ฮุสตัน ก็ทำรายได้ไม่พอเข้าอันดับเนื่องจากเธอยังไม่ได้เงินส่วนแบ่งล่วงหน้าราวๆ 30-40 ล้านเหรียญจากสัญญามูลค่า 100 ล้านเหรียญที่ทำกันเมื่อปี 2001 แล้วเธอก็มีผลงานที่ยังไม่ถูกนำออกจำหน่าย ให้ต้นสังกัดนำมาใช้มากมายนัก
เห็นตัวเลขของศิลปินที่สามารถทำกินจากงานเพลง จากลิขสิทธิ์ของตัวเองที่ทำไว้แล้ว ก็อดมองศิลปิน คนแต่งเพลงบ้านเราไม่ได้ว่า จะทำรายได้หลังหมดลมหายใจกันได้ขนาดไหน เพราะแค่ยังไม่หมดลมหายใจ ก็ตามเก็บ ตามทวงกันแทบไม่ได้แล้ว