FEATURESMovie Featuresสัมไม่พลาด

สัม (ไม่) พลาด เมื่อแดเนียล เครก คุยกับ ฆาเบียร์ บาร์เด็ม

ช่วง ‘Actors on Actors’ ของเว็บไซต์วาไรตี จับเอาแดเนียล เครก (‘No Time to Die’) และฆาเบียร์ บาร์เด็ม (‘Being the Ricardos’) สองนักแสดงมานั่งคุยกันแบบเสมือนจริง ผ่านซูม ซึ่งทั้งคู่ก็ถือว่าเป็นคนคุ้นเคยกัน เพราะครั้งหนึ่งบาร์เด็มเคยเป็นตัวร้ายในหนังบอนด์ของเครกมาแล้วในปี 2012 จาก ‘Skyfall’

เมื่อปีที่แล้ว (2021) เครกก็มีงานเด่น ๆ อย่าง การบอกลาบทบอนด์ไปใน ‘No Time to Die’ ส่วนบาร์เด็มก็คือการเล่นเป็นนักแสดงโทรทัศน์ยุคแรก ๆ เดซี อาร์นาซ์ ใน ‘Being the Ricardos’

แเดรียล เครก: “เราได้รับการคาดหมายว่าจะพูดคุยกันอย่างมีเนื้อหาสาระราว 30 นาทีใช่ไหม? แต่ผมไม่แน่ใจนะว่าตัวเองมีศักยภาพในการทำแบบนั้นได้ แต่ผมก็รู้ตัวด้วยว่า ไม่น่าจะพูดคุยได้อย่างฉลาด ๆ ถึงเรื่องการแสดงเป็นเวลา30 นาทีได้”
ฆาเบียร์ บาร์เด็ม: “ลองนึกภาพผมคุยด้วยภาษาอังกฤษซิ”
เครก: “โอ… น่าสยองมาก”
บาร์เด็ม: “เพราะฉะนั้น เราต่างมีข้อเสียเหมือน ๆ กัน เราแทบจะเกิดในวันเดียวกันเลยนี่”
เครก: “เกือบจะวันเดียวกัน เราอายุห่างกัน 1 ปี คุณเด็กกว่าผมปีหนึ่ง แต่คุณไม่เคยรู้จนกระทั่งวันนี้”
บาร์เด็ม: “เราเคยฉลองวันเกิดร่วมกันครั้งหนึ่งนะ”
เครก: ผมจำได้ว่าคุณแต่งหญิง แต่นั่นคือเรื่องทั้งหมดที่ผมรู้”
บาร์เด็ม: “ผมออกมาจากเค้ก กะว่าจะเป็นสาวบอนด์ในคืนนั้น และพระเจ้า ผม… เจ้างานสายลับของผมมันบอกว่า เราต่างก็เคยเล่นรักบี”
เครก: “คุณเล่นให้ทีมนักเรียนของสเปนเลยใช่ไหม?”
บาร์เด็ม: “ใช่…. ผมมักจะชอบพูดว่า การเล่นรักบีในสเปน มันก็เหมือนการเป็นนักสู้วัวในญี่ปุ่น พวกเรามีกัน 20 คน แน่นอนว่า… ผมเคยเล่นทีมชาติ”


เครก: “นี่ ๆ อย่า.ให้ความจริงมาเป็นอุปสรรคกับเรื่องราวดี ๆ ซิ เรามีอะไรเหมือนกันหลายอย่างนะ ชอบการแสดง ชอบทำงานกับคนที่เราได้รับแรงบันดาลใจ การได้มีโอกาสทำงานกับคุณนี่ มันฝันที่เป็นจริงเลยนะ ผมถามแซม (เมนเดส – ผู้กำกับ) ‘เราสามารถถามเขาได้ใช่ไหม? บางทีเขาอาจจะปฏิเสธนะ’ คุณตอบตกลง นับตั้งแต่นั้นผมก็คิดถึงหน้าคุณเลย”
บาร์เด็ม: “กับแซม เมนเดส ผมรู้สึกเหมือนได้รับการปกป้อง ได้รับการยอมรับ และได้รับการดูแลเอาใจใส่ ผมไม่ลืมเลยว่า คุณให้การสนับสนุนขนาดไหม และให้สิ่งดี ๆ ในทุก ๆ เรื่องยังไง โดยเฉพาะในฉากที่ถูกพูดถึงในลิฟต์ ซึ่งพวกเขาต้องเดินเข้ามาแล้วก็พูดด้วยภาษาต่างชาติในการถ่ายช็อตเดียว”
เครก: “นั่นเป็นงานใหญ่นะ เพราะคุณต้องเดิน, พูด และพูดเป็นภาษาอังกฤษสวย ๆ แต่มันเป็นภาษาที่สองของคุณ มันเป็นเรื่องที่ซับซ้อน อย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกก็คือ คุณทำมันได้ แซมตะโกน… ‘ตัด’ แล้วคุณก็ ‘ไม่ ๆ ๆ ผมกำลังพูดคำพูดตอนรับออสการ์ในหัว!’ คุณเป็นคนที่พึงพอใจในตัวเอง แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งบอกออกมาว่า ‘พระเจ้า… คุณเจ๋งมากเลย”
บาร์เด็ม: “ใช่…. คุณเก่งมาก พระเจ้า… เรากำลังใส่เสื้อผ้ายี่ห้ออะไรนะ?”
เครก: “ผมรู้นั่นน่ะเป็นเทกที่ห่วยสุด ๆ ตอนที่คุณจ้องดูตัวเอง สิ่งที่ดีที่สุดก็คือตอนที่พวกเขาถามว่า ‘คุณคิดยังไงบ้าง?’ แล้วคุณก็ตอบ ‘ผมไม่รู้ว่ะ’

บาร์เด็ม: “คุณทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ใน ‘No Time to Die’ ตอนที่ผมดู ผมมองเห็นทุกอย่างที่แสดงถึงความเป็นมนุษย์ ที่ตีกรอบให้กับตัวเจมส์ บอนด์ อารมณ์ขัน, ความดรามา, ความเจ็บปวด, ความทรมาน, ความสุข, ความรัก ผมไม่รู้ว่าคุณทำไปได้ยังไง เพราะตัวละครที่คุณเป็น คุณต้องนำเสนอตัวเองอย่างต่อเนื่องต่อหน้าทุกคน เพื่อทำให้พวกเขาเชื่อมั่นว่าตัวเองกำลังเจอกับใคร แต่ในรายละเอียดตรงนั้น มันก็ต้องมีความเป็นมนุษย์”
เครก: “ตายละ โอ… ขอบคุณมาก เราจบตรงนี้เลยนะ ผมไม่รู้จะพูดอะไรละ
“ผมมีความคิดนี้นะ ผมอยากฆ่าเขามานานละ ตั้งแต่ใน ‘Casino Royale’ ด้วยสารพัดเหตุผล อย่างหนึ่งก็คือ เรื่องของอัตตาล้วน ๆ คือผมรู้สึกว่าผมอยากจบอะไรที่ผมได้เริ่มไว้ และผมน่าจะพอใจถ้าได้เดินจากไป แล้วไม่มีที่ตรงไหนให้ตัวละครตัวนั้นไปต่อละ คนอื่น ๆ ที่เดินเข้ามาต้องสร้างบางสิ่งที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ผมรู้อย่างหนึ่งว่า ทางเดียวที่จะทำให้อะไรแบบนี้มันออกมาใช้ได้ก็คือ มันต้องมีที่มาจากความรัก ใน ‘Skyfall’ มันเป็นเรื่องความรักที่เขามีต่อเอ็ม (จูดี เดนช์) ซึ่งซับซ้อนและเป็นอันตราย ทุกครั้งที่เราพุ่งสมาธิไปที่ความรัก มันก็จะถูกแบ่งออก
“ในหนังเรื่องก่อน ๆ แมเดอลีน (ลีอา เซย์ดูก์ซ) ยังไม่ถูกค้นพบ และเธอก็เป็นคนที่ยากจะเข้าใจ ผมรู้สึกเหมือนความสัมพันธ์ที่ถูกจับไปอยู่ตรงนั้น ก็เพื่อให้ใครสักคนขุดค้น พวกเขาต่างก็เป็นมนุษย์ที่มีความผิดพลาด และแน่นอนเรารักกันและกันสุด ๆเมื่อเราพาเรื่องไปถึงตรงนั้น ผมก็เข้าใจละ ผมบอกแค่ว่า ‘ผมสนุกกับอะไรแบบนี้’ คุณรู้ใช่ไหม บางทีผมก็ไม่สนุกกับหนังนะ บางครั้งมันเป็นงานที่หนักหนาเกินไป ผมจริงจังเกินไปกับทุกเรื่อง และไปยุ่งกับอะไรมากจนเกินไป ผมพยายามที่จะทำให้ตัวเองไปมีส่วนกับเรื่องที่จำเป็น และนั่นก็คือผมเวลาที่อยู่ในกองถ่าย และอยู่ในสภาพจิตใจที่เหมาะสมกับฉากที่ถ่ายทำ”

บาร์เด็ม: “มันเป็นการทำงานที่เยี่ยม ผมตระหนักได้ถึงคุณภาพของนักแสดง ที่นำทุกอย่างไปใส่ในตัวละครที่โคตรจะเป็นสัญลักษณ์ ดีใจด้วยนะ ที่คุณได้เล่น ‘Macbeth’ ที่บรอดเวย์?
เครก: “เราเริ่มซ้อมกันในเดือนกุมภาพันธ์ ใช่ บางสิ่งมันก็เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่จะทำ นี่เป็นบทละครเรื่องโปรดของผมนะ มันสั้น ถ้าเทียบกับเรื่องอื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี”
บาร์เด็ม: “อะไรทำให้คุณอยากเล่น ‘Macbeth’?”
เครก: “มันเป็นบทละครตั้งแต่เริ่มแรก แล้วเรื่องก็ทรงพลังมาก ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นงานเขียนที่น่าทึ่ง ผมมั่นใจว่าคุณน่าจะรู้สึกแบบเดียวกัน แต่อย่างหนึ่งที่สุดมาก ๆ สำหรับการเล่นละครเรื่องนี้คือ ได้นั่งอยู่กับกลุ่มนักแสดง และผู้กำกับดี ๆ แล้วได้คุยเรื่องราวดี ๆ ผมน่าจะได้ทำแบบนี้ในทุกวันของชีวิต
“คุณพูดถึงผมในฐานะหัวหน้าทีมด้วย ผมอยากคุยกับคุณถึงเรื่องของเดซี คุณกับละครเพลง มันเป็นยังไง? ผมนึกภาพไม่ออกเลย”

บาร์เด็ม: “เอ่อ… นอกจากการเดินออกมาจากเค้กวันเกิด แต่งตัวแบบสาวบอนด์ ยังไม่เยอะพอแล้ว ผมยังร้องเพลง ‘Happy Birthday to You’ ด้วย นั่นเป็นการเลียนแบบมาริลีน มอนโร ที่เจ๋งที่สุดของผมเลย ตอนพวกเขาบอกให้ผมร้อง ผม… ‘พวกคุณแน่ใจนะ? แน่ใจนะว่าอยากให้ผมร้องเพลง?’ แล้วผมก็พยายาม
เครก: “ผมคือ… อึ้งไปเลย แล้วสองคนนั่นก็โคตรเหลือเชื่อ ผมไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะสุด ๆ ขนาดนั้น”
บาร์เด็ม: “ใช่ ผมไม่รู้เรื่องราวของลูซีและเดซีทั้งหมด เพราะรายการมันไม่ได้ฮิตในสเปนเหมือนที่เป็นรายการดังในสหรัฐอเมริกา ผมเลยรับเล่นโดยที่ไม่รู้อะไรมากนัก จากนั้นผมเริ่มค้นคว้า มันก็มีช่วงเวลาแบบ… ‘ตายห่า นี่มันเรื่องคนในตำนานนี่ ผมมาทำอะไรที่นี่วะ?’ แต่มันสายเกินไปแล้วสำหรับการถอนตัว ‘โอเค ผมต้องเล่นมันแล้วล่ะ’”
เครก: “เป็นไงบ้างกับการพูดบทของแอรอน ซอร์คิน?”
บาร์เด็ม: “เวลาคุณเจอตัวหนังสือเยอะ ๆ แล้วก็ซับซ้อนแยะ ๆ คุณจะรู้สึกถึงความคุ้มค่า คุณรู้สึกถึงพรสวรรค์ในฐานะนักแสดง และรู้สึกเหมือนตัวเองถูกสาป ด้วยความที่ไม่มีทางหนีไปไหนได้แล้ว คุณต้องเข้าถึงการสร้างภาพเหล่านั้น และอยู่กับตัวตนที่สร้างขึ้น ทำให้มันมีตัวตน เพื่อที่คำพูดต่าง ๆ จะไม่ออกมาไร้สาระ”
เครก: “เขาจัดหนักกับคุณไหม?”
บาร์เด็ม: “ไม่, ไม่เลย เขาเป็นพวกเทกเดียว มากสุดก็สอง”
เครก: “เพราะงั้นคุณก็ต้องพร้อมแล้ว เมื่อมาถึงกอง”

บาร์เด็ม: “มันเหมือนประสบการณ์ในการเล่นละคร ซ้อมไม่เยอะ และเขาจดจ่อกับการทำให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจว่าต้องมีการหยุดชั่วคราว ต้องแน่ใจว่าคุณรับรู้ทุกอย่างเพื่อที่จะได้ตอบในสิ่งที่ต้องตอบได้ เขารู้ว่าทุกคนพยายามที่จะพูดให้เร็ว แต่เขา…. ‘ไม่ ไม่ ไม่ ผมอยากให้ทุกคนฟังกันและกัน’ มันเลยกลายเป็นภาพที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ทุกคนคิดว่าเขาต้องการ
“ฉากร้องเพลง มันเป็นฉากสั้น ๆ ผมทำงานกับฟิโอนา (แม็กดูกัล) โค้ชสอนร้องเพลงจากสก็อตแลนด์ ผ่านทางซูม และใบหน้าที่เธอแสดงออกมา ตอนครั้งแรกที่ผมเปิดปากร้องเพลง… เธอน่ารักมาก ‘เอาละ… ฉันคิดว่าเรามีงานต้องทำกันแล้ว’”
เครก: “เชื่อผม ผมเข้าใจคุณ ผมก็ทำไม่ได้ ไม่มีทางที่ผมจะร้องเพลงได้ แต่คุณคงอยากรู้ซินะว่า เมื่อไหร่มันจะมาถึง
บาร์เด็ม: “เดี๋ยว ๆ แต่คุณก็ทำได้ดีในรายการ ‘Saturday Night Lives’ นี่ มันต้องมีโอกาสได้เริ่มแล้วล่ะ ใช่ไหม?”
เครก: “ผมไม่รู้ คุณเคยไปออกรายการไหม?
บาร์เด็ม: “ไม่”
เครก: “คุณต้องไป! คุณจะแทบไม่อยากเชื่อ ทุกอย่างที่พวกเขาพูดคือ ทำให้เชื่อมั่นว่าคุณต้องอ่านการ์ดคิว แต่คุณจะแอบคิด ‘ได้ ๆ เดี๋ยวฉันจะด้นสดสักหน่อย’ ผมหวังว่าคุณน่าจะได้ด้นสด คุณอาจจะอยากเล่นตามการ์ดพวกนั้น หรืออาจจะไม่พยายามเล่นตาม สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นก็คือ ‘ตัด!’ แล้วก็จัดการแต่งเนื้อแต่งตัวอย่างรวดเร็ว ใส่วิก มันเริ่ดมาก มันเหมือนได้เล่นละครโรงเรียนเวทีใหญ่
“มันเป็นโชว์สุดสุดท้ายของพวกเขา (ก่อนโควิดจะมาเยือนในเดือนมีนาคม 2020) ราเชล (ไวสซ์) ภรรยาผม เคยไปออกรายการมาแล้ว เธอบอก ‘คุณอยากให้ฉันไปอยู่ที่นั่นด้วยไหม?’ ผมบอก ‘ผมไม่อยากให้คุณเป็นหนึ่งในคนดู ผมคิดว่ามันตลก’ แต่มันก็ตื่นเต้นมากนะ กับการเป็นโชว์สุดท้าย เพราะทุกคนต่างก็อยู่ในสภาพสุ่มเสี่ยง”
บาร์เด็ม: “อารมณ์ขันของคุณมันเจ๋งมาก ผมไม่รู้มาก่อนว่า คุณทำอะไรแบบนั้นได้ในสไตล์ผ่อนคลาย เพราะสำหรับผม อย่างแรกที่ถูกปิดกั้นก่อนเพื่อนเมื่อเจอกับความกังวลก็คือ อารมณ์ขัน”
เครก: “ผมรู้ว่า อารมณ์ขันดี ๆ มาจากการเขียนดี ๆ ผมไม่มีด้นสดนะ ความคิดของการออกไปแล้วก็ด้นสด มันทำให้หัวใจผมเต้นไม่เป็นส่ำ มันเป็นการตื่นจากฝันร้ายแล้วเดินขึ้นไปบนเวที และ ‘เอาเลย’ ผมอยากได้คำพูด ผมอยากได้การสนับสนุน”
บาร์เด็ม: “เอาน่า… มาด้นสดเช็กสเพียร์กัน”
เครก: “เชื่อผม ผมเคยฝันมาแล้ว ผมเคยฝันอยู่ 2-3 ครั้ง ถึงเรื่องการยืนบนเวทีมองไปรอบ ๆ แล้วคิดว่า ‘ฉันจะเล่นอะไรดีวะเนี่ย?’”
บาร์เด็ม: “นั่นมุขคลาสสิกเลย”
เครก: “ใช่ โครตกังวลเลย เออ… นี่ คุณเล่น ‘Dune’ กับเดนิส (วิลล์เนิฟว์) คุณได้อ่านหนังสือก่อนหรือเปล่า?”
บาร์เด็ม: “ผมอ่านหนังสือตอนอายุ 21 แล้วก็รู้สึกแบบ ‘ว้าว! ใช่เลย นี่มันการเดินทางด้วยยาหลอนประสาทนี่หว่า เจ๋งดีว่ะ’ จากนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นก็คือ เดนิสนั่งลงตรงหน้าผม แล้วบอกว่า ‘ผมมีบทนี้นะ ซึ่งมันเล็ก โคตรเล็กมาก ๆ แต่ถ้ามีบางสิ่ง อย่าง ได้ทำเรื่องที่สอง บทของคุณจะใหญ่ขึ้น’ ผมเลยบอกไปว่า ‘ผมไม่สน’”
เครก: “ใช่ เขากลายเป็นตัวหลักของเรื่อง”
บาร์เด็ม: “แต่ผมบอกว่า ‘ผมไม่สน’


เครก: “การถ่ายทำเป็นยังไง?”
บาร์เด็ม: “มันเป็นการทำงานในทะเลทรายที่จอร์แดน แล้วก็ที่ฮังการี และโรงถ่าย ผมชอบเดนิส เพราะการทำหนังเรื่องนี้คือความฝันในวัยเด็กของเขา คำพูดดัง ๆ ของเขาก็คือ ‘ผมชอบเรื่องนี้มาก แต่ให้เราทำอีกเรื่องเถอะ’”
เครก: “ในฐานะนักแสดง นั่นคือสิ่งที่เราทุกคนต้องการ”
บาร์เด็ม: “เออ… คุณถ่าย ‘Knives Out 2’ หรือยัง?”
เครก: “เราถ่ายเรื่องที่สองกันไปเมื่อหน้าร้อนนี้ในกรีซ แล้วก็ไปถ่ายต่อในโรงถ่ายที่เซอร์เบีย มันพร้อมละ ไรอัน (จอห์นสัน) กำลังตัดต่อ มันกำลังจะออกมาให้ชมกัน ผมคิดว่าน่าจะฤดูใบไม้ร่วงปีนี้นะ ตอนนี้คุณทำงานเป็นยังไงบ้าง?”
บาร์เด็ม: “ก็สนุกพอตัว ปีนี้มีปัญหาเยอะ และก็เป็นเรื่องที่ยากสำหรับหลาย ๆ คน มันไม่ใช่ปีที่ยุ่งที่สุดสำหรับผมนะ เพราะมีช่วงหยุดมาพร้อม ๆ กัน ไหนจะเลื่อนถ่ายเพราะโควิด แต่ผมก็ไม่รู้สึกว่าจะต้องปฏิเสธนะ งานที่เสียไปก็เยอะ ผมบอกเสมอ ‘ได้ ผมกำลังจะไปทำงาน’ ปีที่แล้วผมถ่ายหนังสามเรื่องต่อกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยทำมาก่อนเลย
เครก: “คุณสนุกกับมันไหม?”
บาร์เด็ม: “สนุกนะ แต่โคตรเหนื่อย ผมคงไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว เพราะว่าครอบครัว แล้วก็ในระบบประสาทของผม ผมมีเวลาสองสัปดาห์ อย่างมากเลยที่จะแยกจากครอบครัว หลังจากสองสัปดาห์นั้น ผมไม่สามารถทำงานได้เลย”
เครก: “มันเป็นเรื่องยากที่จะทำ อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นเวลาเล่นบอนด์ก็คือ มันต้องเหนื่อยเสมอ พวกเขาใช้เวลานานมากกว่าจะถ่าย เป็นปี โดยพื้นฐานเลยนะ ซึ่งทำให้งานมันเหนื่อย และแน่นอนคุณต้องทุ่มเทให้กับงาน พวกคนทำงานเก่ง ๆ ก็เหมือนกัน แล้วก็มีบางอย่างที่จะดึงคุณออกไป ตอนนี้ก็คือเจ้าหนูสามขวบของผม ซึ่งเขาไม่เข้าใจ แล้วถ้าคุณมีโอกาสและมีเวลาที่จะทำ คุณต้องพยายามทำให้ได้ สร้างสมดุลย์ให้กับมัน”

(แปลและเรียบเรียงจาก บทความใน www.variety.com)

เป็นกำลังใจให้เราด้วยการสนับสนุนได้ที่ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนคำขอบคุณ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
1
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.